Tag Archives: bnk48

คิดยังไงหลังดู Girls Don’t Cry ภาพยนตร์สารคดี BNK48 *ไม่สปอย

นานๆ ทีเราจะเขียนบล็อกถึงภาพยนตร์ไทย จะบอกว่าเป็นรีวิวก็คงไม่เชิง เป็นการบอกความรู้สึกหลังจากการดูในมุมมองของเราเสียมากกว่า (จะพยายามไม่สปอยนะคะ) สำหรับคนที่ติดตาม BNK48 มาตั้งแต่ตอนแรกเริ่ม และ คนที่รู้จักเราอยู่แล้วจากผลงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานนิตยสาร, รายการ Kimochiii, Beauty Versus และอื่นๆ ก็คงจะรู้กันดีว่า เรานั้นเคยทำงานกับน้องๆ ไอดอล BNK48 มาก่อนตั้งแต่ยุคตั้งไข่ คือ เป็นพิธีกรในงานเดบิวต์ (มิ.ย.2017) และเป็นพิธีกรรายการ BNK48 Show ทางช่อง 3SD

แต่สำหรับคนที่เพิ่งจะมารู้จัก BNK48 ในยุคหลังจากที่บูมแล้ว คือตอนที่ซิงเกิ้ล “Koisuru Fortune Cookies คุกกี้เสี่ยงทาย” เริ่มดัง ในช่วงปลายปี 2017 บางคนอาจจะไม่คุ้นกับเราเสียเท่าไหร่ พูดง่ายๆ ถ้าให้เปรียบนะ ประมาณว่าเราคือ พี่เลี้ยงค่ายซัมเมอร์ ที่ได้เจอน้องๆ ช่วงปิดเทอมตอนม.ปลาย ก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัย แล้วตอนนี้ไปโด่งดังเป็นดาวมหาลัย ที่ใครๆ ก็รู้จัก ประมาณนั้น ถึงจะมีเวลาอยู่ด้วยกันเพียงแค่เทอมเดียว แต่เราก็ยังจำภาพน้องๆ ในวันเริ่มต้นได้เป็นอย่างดี…

20180816_2217314629109682109233737.jpg

มาพูดถึงตัวภาพยนตร์กันบ้าง เป็นการเล่าไทม์ไลน์ตั้งแต่เริ่มฟอร์มวง ช่วงออดิชั่น ช่วงยุคแรกซิงเกิ้ล “Aitakatta อยากจะได้พบเธอ” ช่วงคุกกี้เริ่มบูม และช่วงใกล้เคียงปัจจุบัน คือมีซิงเกิ้ล “Shonichi วันแรก” แล้ว แต่ยังไม่มีรุ่น 2 เข้ามา ด้วยความที่เป็นภาพยนตร์สารคดี มีการเล่าเรื่องตามไทม์ไลน์ มีการใส่ชื่อของน้องๆ บอกโปรไฟล์ ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่เคยอินกับไอดอลมาก่อน ก็น่าจะทำความเข้าใจและมีอารมณ์ร่วมไปกับมันได้ไม่ยาก

สำหรับแฟนคลับที่ติดตามน้องๆ มานาน รวมทั้งเราที่เห็นน้องๆ มาตั้งแต่ตอนแรก หลายอย่างที่พูดถึงในหนัง อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่ตกใจเมื่อได้เห็นในหนัง เพราะรู้ๆ กันอยู่แล้ว แต่มันเป็นเหมือนการเปิดใจบอกเล่าเรื่องราวที่ทำให้ผู้ดูคิดตาม และมองกลับไปมองสังคม รวมถึงมองเรื่องราวของตัวเองได้ด้วย

สิ่งที่น้องๆ เป็น คาแรกเตอร์ที่เห็นในหนัง เรามองว่าคือตัวตนจริงๆ ของพวกเค้าจริงๆ นั่นแหละ คำพูดแต่ละอย่างที่ออกมาจากปากของเด็กๆ สะท้อนเรื่องราวของสังคมที่เป็นอยู่จริงๆ ไม่เฉพาะวงการไอดอลเท่านั้น ทุกวงการมีปัญหา มีเบื้องลึกที่บางทีมันก็หาเหตุผลไม่ได้หรอก แต่บางเรื่องมันก็ไม่เหมาะสมจะพูดออกมา โดยเฉพาะในโลกการทำงานของผู้ใหญ่

คำที่ออกจากปากน้องๆ ตอนสัมภาษณ์ หลายประโยคถือเป็นประโยคเด็ด ที่ทำให้เราขำ, ให้เราพยักหน้าไม่หยุด เพราะเห็นด้วยอย่างมาก และทำให้เข้าใจความรู้สึกของพวกเค้า อยากกอดอยากปลอบ เพราะเราก็เคยเจอเรื่องคล้ายๆ แบบนี้มาก่อน แต่เคสของเราไม่สามารถพูดความรู้สึกออกมาได้อย่างเต็มปาก เพราะกลัวผลกระทบของมัน และในโลกการทำงานของผู้ใหญ่ เราก็ไม่มีโอกาสจะระบายสิ่งที่คิดออกมาทั้งหมดได้หรอก นี่คือความจริง ที่เกิดขึ้นในสังคม เหมือนน้องๆ เป็นกลุ่มคนตัวอย่างที่เปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ออกมาเป็นภาพยนตร์ให้เราดูกัน

20180818_225313.jpg

ในภาพยนตร์มีเรื่องของความเหลื่อมล้ำ ความพยายามที่ไม่ส่งผลเสียที เรื่องนี้สำหรับตัวเรายิ่งเข้าใจเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาในบางสถานการณ์ เราเคยเป็นเด็กที่ถูกบังอยู่ในเงา ไม่มีตัวตน, บางสถานการณ์ เป็นคนที่ต้องแบกรับความรับผิดชอบมากมาย, เราเคยเป็นทั้งเด็กโม วิ่งแคสงานโฆษณา บางทีคนที่ถูกเลือกก็ไม่ใช่คนที่สวยที่สุด คนที่เก่งที่สุด แต่เป็นคนที่ผู้ใหญ่เห็นว่าเหมาะสมที่สุดต่างหาก, เราเคยเป็นคนคัดเลือกเด็กมาถ่ายงาน ต้องเด็ดขาดไม่งั้นงานไม่เดิน รวมถึงเคยเป็นตัวกลาง ประสานงานให้ลูกค้าเลือกเด็กไปถ่ายงาน แต่เค้าก็เลือกคนที่ไม่ถูกใจเรา ซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้ … บางทีสิ่งที่คิดไว้ก็ไม่ได้ดั่งใจเสียทั้งหมด จากประสบการณ์ทำให้เราหัดปลง และพยายามคิดบวก

การแข่งขันมันก็แบบนี้แหละ จะให้ทุกคนเป็นผู้ถูกเลือกก็คงไม่ได้ เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องยอมรับมันให้ได้ เมื่อดู แล้วเราก็มาคิดนะ ว่าถ้าเป็นเรา จะพยายามในฐานะไอดอลได้แบบน้องเค้าแค่ไหน คงจะโดนครอบครัวสั่งให้ออกจากวงตั้งแต่ตอนที่ไม่ติดเซ็มซิงเกิ้ลแรกๆ แน่ๆ นับถือใจน้องๆ ทุกคนที่สู้และครอบครัวที่สนับสนุนพวกเค้ามากเลยล่ะ

เราได้ไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ในงาน Ota Fest ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยกลุ่มแฟนคลับของน้องๆ BNK48 บ้านต่างๆ ต้องขอขอบคุณที่ยังนึกถึงกันและชวนไปร่วมงานนะคะ อีกอย่างที่รู้สึกอย่างมากหลังจากดูหนังเรื่องนี้สร็จคือ ความผูกพันธ์ระหว่างไอดอลและแฟนคลับนี่มันยิ่งใหญ่จริงๆ เลยนะคะ

20180816_191744.jpg

เห็นกันแล้วว่าการจะเป็นไอดอลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านบททดสอบมากมายทั้งร่างกายและจิตใจ แต่น้องๆ ก็ยังสู้ต่อเพื่อรอยยิ้มของแฟนๆ ส่วนแฟนคลับนั้นก็ได้ไอดอลเป็นเป้าหมายในชีวิต มีกิจกรรมสนุกๆ ทำ ได้เพื่อนใหม่และมิตรภาพ การที่มีคนที่เราอยากเจอ อยากเป็นกำลังใจให้กันนี่มันเป็นเรื่องสุดยอดมากเลยนะคะ เรียกได้ว่า “ไอดอล” และ “แฟนคลับ” เป็นอะไรที่ขาดกันไม่ได้ และช่วยเกื้อหนุน ส่งพลังบวกให้แก่กัน จากภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เราเห็นจุดนี้ชัดเจนเลยล่ะค่ะ

สุดท้ายนี้อยากฝากถึงทั้งคนที่ติดตามอยู่แล้ว และไม่ได้ติดตามมาก่อน ว่าให้ลองไปดูเถอะค่ะ นอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณเข้าใจ BNK48 และไอดอลมากขึ้นแล้ว คุณจะได้แง่คิดหลายอย่าง กลับมามามองสังคมและตัวเองแน่นอน

และฝากถึงน้องๆ BNK48 และไอดอลวงอื่นๆ (ถ้าน้องมาอ่านเจอ) ว่า น้องๆ แต่ละคนมีความเก่ง, มีเสน่ห์, คาแรกเตอร์และความสามารถที่แตกต่างกันไป อยากจะให้กำลังใจน้องๆ ว่าสักวันเราจะเจอทางของเรา ทางที่เราเดินแล้ว “ส่องประกายที่สุดในแบบของตัวเอง” ตอนนี้ก็ทำหน้าที่ตรงหน้าให้ดีที่สุดแล้วกันนะ เวลาและประสบการณ์จะทำให้ทางนั้นเปิดออกเอง ขอบคุณที่มอบความสุขและรอยยิ้มให้ การที่พวกหนูมีความฝันและตั้งใจทำฝันให้เป็นจริงนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเหนื่อยล้า ก็พักบ้างนะคะ อย่าแคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากเกินไป จนลืมใส่ใจความรู้สึกของตัวเองนะคะ เพราะ “ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีความสุข” ค่ะ

C360_2018-08-16-22-59-34-534.jpg

เที่ยวญี่ปุ่น ลุยเดี่ยวเที่ยวคาเฟ่ต์ไอดอลญี่ปุ่น SKE48 Cafe ที่นาโงย่า

ช่วงปีนี้ตั้งแต่มี BNK48 ที่เมืองไทย วงการไอดอลบ้านเราก็คึกคักขึ้นมาก นอกจากจะติดตามไอดอลไทยแล้ว ยังทำให้คนที่เพิ่งรู้จักไอดอลญี่ปุ่น หันมาสนใจวงพี่ที่ญี่ปุ่นอีกด้วย

ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า BNK48 เป็นวงน้องสาวในต่างประเทศของ AKB48 ไอดอลกรุ๊ปชื่อดังของญี่ปุ่น ภายใต้คอนเซปต์ “ไอดอลทีไปพบได้” ไม่ว่าจะในอีเว้นต์ต่างๆ งานจับมือ รวมถึงเธียเตอร์ที่จะมีสมาชิกสลับเปลี่ยนกันออกมาแสดงกันนั่นเอง ซึ่งในญี่ปุ่นเองยังมีวงน้องสาวอีกมากมาย หนึ่งในนั้นคือ SKE48 ประจำเมืองนาโงย่า จ.ไอจิ (ชื่อ SKE ย่อมาจาก Sakae ทำเลที่ตั้งเธียเตอร์)

เรามีโอกาสได้ร่วมงานกับ BNK48 ด้วย เลยเริ่มหันมาศึกษาข้อมูลมากขึ้นค่ะ ไดอารี่ประสบการณ์เป็นพิธีกรในงาน BNK48 The Debut

20171020_195145-11223008660.jpg

เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เราได้เดินทางไปถ่ายทำรายการ Kimochiii in japan รวมลิ้งค์ทุกตอนคิโมจี้ “Kimochiii in Japan” ตั้งแต่ซีซั่น 1 ถึงล่าสุด! All youtube Links of Kimochiii ที่ญี่ปุ่นค่ะ และได้ไปเมืองนาโงย่าเป็นเวลา 2 วัน ที่พักตั้งอยู่ใจกลางเมืองในย่านซาคาเอะ เรารู้มาว่าเธียเตอร์ของ SKE48 อยู่ที่นี่่ ในห้าง Sunshine Sakae เมื่อได้จังหวะเราจึงไม่พลาดที่จะไปลองสัมผัสประสบการณ์คาร์เฟ่ต์ไอดอลที่นี่ค่ะ

20171022_132046.jpg

ขอออกตัวก่อนว่า นี่เป็นครั้งแรกนะคะ ที่เราได้เข้าไปลองทานอาหารที่คาร์เฟ่ต์ไอดอลแบบนี้ ที่ผ่านมาก็เคยแต่เข้าคาร์เฟ่ต์แบบมีธีม คาร์เฟ่ต์คาแรกเตอร์การ์ตูน คาร์เฟ่ต์สัตว์น่ารักๆ แต่ด้วยความที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับของไอดอลวงไหนเลยยังไม่เคยมา เพราะที่ผ่านมาคิดว่ามันต้องเป็นสถานที่สำหรับแฟนคลับมาพบปะกัน นั่งกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ดูรูปแลกของไอดอลกัน มันอาจจะไม่ใช่แนวเรา แถมยังไปคนเดียว มันก็จะเขินๆหน่อยนะ

เมื่อเข้าประตูร้านมาก็จะเจอกับป้ายชื่อร้าน SKE48 Cafe & Shop with AKB48

20171022_131900.jpg

ช่วงที่เราไปคือปลายเดือนต.ค.ค่ะ ดังนั้นการตกแต่งจะเป็นธีมฮาโลวีน มีสคูลบัสสีเหลืองอยู่ในร้านด้วย ดูสนุกดีนะ นอกจากนี้ยังมีจอขนาดใหญ่ ฉายภาพการแสดงของสาวๆ ให้ชมกันตลอด

20171022_131912.jpg

ที่นี่เค้ามีกฎเข้มงวดค่ะ คือ เราจะ “สามารถ”่ ถ่ายรูปได้ที่เฉพาะมุมที่กำหนดไว้เท่านั้น เช่น ป้ายหน้าร้าน, รถที่อยู่ในร้าน,บนโต๊ะตัวเอง,เมนูอาหารที่เราสั่ง แต่จะ “ห้ามถ่ายรูป” น้องพนักงานเสิร์ฟ, มุมกว้างที่เห็นบริเวณทั้งร้าน, ถ่ายติดลูกค้าท่านอื่น, ถ่ายลวดลายบนโต๊ะอื่นๆที่ไม่ใช่โต๊ะตัวเอง

20171105_004730.jpg

โต๊ะอาหารจะเป็นกระดานสีขาว เพื่อให้สาวๆเมมเบอร์มาเซ็นลายเซ็นไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งแต่ละโต๊ะจะไม่เหมือนกันเลย มีใครบ้าง ลองดูเอานะคะ

มาลองดูเมนูอาหารกันมั่ง เมนูส่วนใหญ่จะมีธีมให้เข้ากับเมมเบอร์เด่นๆแต่ละคน ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารตะวันตกสไตล์ญี่ปุ่น ตกแต่งหน้าตาน่ารักสไตล์คาร์เฟ่ต์ธีมที่ญี่ปุ่นตามปกติ

20171022_123938.jpg

แต่ละเมนูจะมีชื่อเมมเบอร์กำกับไว้ด้วย ว่าใครเป็นคนร่วมครีเอต ราคาก็ตามป้ายเลยค่ะ

20171022_123949.jpg

อาหารจานเดี่ยว ราคาประมาณ 800-900 เยน ถือว่าเป็นราคาปกติของคาร์เฟ่ต์ธีมนะคะ แต่ถ้าเทียบกับร้านข้างนอก พวกแฟมมิลี่เรสเตอร์รอง ก็ถือว่าสูงกว่าหน่อยนึง

20171022_123955.jpg

เมนูแบบลิมิเต็ด จำกัดเฉพาะช่วงก็มีนะ อย่างไส้กรอกนี้ มีขายเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น ซึ่งจะมีการ์ดออริจินอลแถมด้วย

20171022_123959.jpg

และนี่คือเมนูเด่นจากเมมเบอร์คนดังของ SKE48 ค่ะ ทำออกมาได้น่ารักมาก เลือกไม่ถูกเลยล่ะ

20171022_124006.jpg

ข้างๆโต๊ะจะมีป้ายบอกกฏในการใช้บริการที่นี่เอาไว้ เห็นว่ามีเบียร์ขายด้วยแฮะ ราคา 700 เยน

20171022_125308.jpg

และนี่คือเครื่องดื่มของเรา ชื่อเมนูว่า 青春ジュース เซชุนจูส (680 เยน) เป็นชาพีชสมุนไพร รสเปรี้ยวๆหวานๆ แต่กลิ่นและรสชาติ ค่อนข้างจางไปหน่อย

20171022_124849.jpg

ทุกเมนูเครื่องดื่ม จะมีแผ่นรองแก้วแถมมาด้วย โดยจะมีแบบคละกันไป เลือกไม่ได้ เราได้ของน้องอาคาเนะ ทาคายานางิ

20171022_124330.jpg

แต่นแต๊นนนน นี่เลยเมนูที่เราเลือก มีชื่อว่า “อาหารที่ชอบคือ โปเตโต้, อโวคาโด้, โทเมโท่ ค่ะ! จากโปรไฟล์ของโอโตฮะ” (ชื่อยาวม้ากกก เค้าเขียนแบบนี้จริงๆนะ) ของน้องโอโตฮะ นั่นเอง (980 เยน)

20171105_004321.jpg

เป็นครีมสตูว์ ใส่เนื้อไก่และผักต่างๆ มีเครื่องเคียงคือขนมปัง, สลัดมันฝรั่ง และแป้งคล้ายๆปอเปี๊ยะห่อครีมไว้ข้างใน หน้าตาดูดี น่ารักเชียว

20171022_125354.jpg

มาลองชิมกันดูรสชาติตามรสนิยมของเรา ก็โอเคนะคะไม่ถึงกับอร่อยมาก ว้าวววว ไรงั้น พอทานได้ เป็นของว่างทานเล่นๆ แต่มันไม่อิ่มอะ เหมาะจะมานั่งเพลินๆดูของสวยๆงามๆ แต่ไม่ต้องหวังความอิ่มอร่อย ไปทานข้าวที่อื่นให้เรียบร้อยแล้วค่อยมานั่งเล่นทานของว่าง ดูบรรยากาศเพลินๆจะดีกว่า

แต่สำหรับบรรยากาศ เราว่าโอเคเลยค่ะ ค่อนข้างชิลกว่าที่คิดไว้คนไม่เยอะ (เราเข้าร้านตอนประมาณ 11 โมงครึ่ง) แขกอีกโต๊ะที่มาพร้อมๆกับเรา เป็นผู้หญิงสองคนนั่งทานขนมแล้วก็ดูจอคุยกันไป แล้วซักพักก็มีกลุ่นแฟนคลับผู้ชายล้วนตัวใหญ่ๆ มานั่งกัน 3-4 โต๊ะ แต่เค้าก็มีมารยาทกันดี ไม่คุยเสียงดังนะคะ ทำให้เราที่เป็นผู้หญิงมาคนเดียวไม่รู้สึกเขิน

สรุปแล้วสำหรับคนที่เป็นแฟนคลับไอดอล ลองไปเถอะค่ะ น่าจะถูกใจนะคะ บรรยากาศมันน่ารักจริงๆนั่งดูคอนสาวๆก็เพลินแล้ว ส่วนคนที่ไม่ได้ติดตามไอดอล จะลองหาโอกาสไปซักครั้งก็ไม่เสียหายอะไรค่ะ ไปให้รู้ว่าญี่ปุ่นก็มีแบบนี้ด้วย เพราะในบ้านเรายังไม่มีคาร์เฟ่ต์แบบนี้ ถือเป็นการเรียนรู้ญี่ปุ่นอีกมุมนะคะ

SKE48 cafe

อยู่ที่จ.Aichi เมือง Nagoya ตั้งอยู่ในอาคาร Sunshine Sakae ชั้น 5 บนตึกมีชิงช้าสวรรค์อันใหญ่มาก หาง่ายมากเลยค่ะ http://ske48cafeshop.com/

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Sakae ออกทางออกเบอร์ 8

สำหรับคนที่เพิ่งรู้จักกัน มาทำความรู้จักกันในบล็อกนี้ก่อนเลย ประวัติ..เรโกะคือใคร? เรียนอะไร? ทำงานอะไรมา? เขียนเองเล่าเองซะเลยLet me introduce my self, Reiko.ws

facebook : Reiko.ws

instagram, twitter @reiko_ws

youtube : youtube “Reiko_ws เรโกะ”

และบล็อกนี้ http://www.ReikoBangkokNeko.com

Contact for Work / ติดต่องานต่างๆ ทั้งงานเขียนคอลัมน์, รีวิว, ถ่ายแบบ, สัมภาษณ์, พิธีกร, งานแสดง, ล่าม, นักแปล / 仕事依頼はこちら : คุณกอล์ฟ 081-843-7109 (Thai language) และ reiko.ws@gmailcom (Japanese OK)

*รูปภาพและเรื่องทั้งหมด ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ห้ามนำไปคัดลอก ดัดแปลง ก๊อปปี้ ไปลงซ้ำ โดยไม่ได้ขออนุญาติก่อน มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย*

ประสบการณ์เป็นพิธีกรงาน BNK48 The Debut! BNK48

ขอบันทึกความทรงจำ ไว้ในบล็อกนี้ เป็นไดอารี่ก่อนที่ความรู้สึกจะจางไปตามกาลเวลา เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา เราได้รับโอกาสให้ทำหน้าที่พิธีกรในงานเปิดตัวไอดอลไทย สังกัดญี่ปุ่น BNK48 ซึ่งถือเป็นงานใหญ่สำหรับวงการญี่ปุ่นในไทย เพราะนี่คือครั้งแรกที่ไอดอลญี่ปุ่นแท้ๆ จะมาเปิดสาขา มีวงน้องในไทยแบบจริงจัง แน่นอนว่าหลายคนให้ความคาดหวัง และคอยติดตามงานครั้งนี้

img_0882

เราก็เป็นคนหนึ่งที่รู้จักวงพี่ AKB48 รวมถึงอ่านข่าวของวงตระกูล 48/46 มาบ้าง มีเพลงที่ชอบหลายเพลง ฝึกร้องเล่นๆ ถึงแม้จะไม่ถึงขนาดตามติดเป็นแฟนคลับประจำ พอรู้ว่าเมืองไทยกำลังจะมีวง BNK48 ก็ติดตามข่าวมาตลอด เพราะอยากจะรู้ว่าจะออกมาเป็นยังไง คอยลุ้นการเติบโตไปด้วย

img_0526

ตอนที่ได้รับการติดต่อจากทีมงานให้มารับหน้าที่นี้ บอกตรงๆเรามีความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง และค่อนข้างกดดัน เพราะช่วงนั้นมีข่าวดราม่าเกี่ยวกับงานอีเว้นต์ พิธีกรและศิลปินต่างประเทศ เราเองก็ไม่ใช่คนที่รับงานพิธีกรงานอีเว้นต์บ่อยมาก ผลงานเบื้องหน้าส่วนใหญ่ที่ผ่านมา เป็นพิธีกรรายการทีวีที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น (เคยทำมา 4 รายการ) ซึ่งมันเป็นการอัดเทปไว้ มีอะไรพลาดไปยังถ่ายใหม่ ยังตัดต่อได้ แต่นี่คือสดจริงๆ ต่อหน้าคนดูหลายร้อย ซึ่งทุกคนต่างเป็นแฟนคลับที่คาดหวังกับงานเปิดครั้งนี้มาก จะไม่ให้กดดันได้ยังไงล่ะ

img_0504

แต่ถ้าเราไม่ลองทำ แล้วเมื่อไหร่่จะก้าวไปอีกสเต็ปได้ เราเลยตกลงรับงานนี้ และหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับไอดอล 48, น้องๆ BNK48 และเหล่าแฟนคลับ ต้องขอบคุณหลายกระทู้พันทิป, บล็อก และแฟนเพจต่างๆ ที่มีข้อมูลให้อ่านเยอะเลย ถึงแม้ว่าเราอาจจะยังรู้ไม่เท่าแฟนคลับตัวจริง แต่ก็มั่นใจได้ว่ามีความเข้าใจระดับนึงล่ะ ต้องขอบคุณทีมงานที่ส่งสคริปต์มาให้ล่วงหน้าด้วย เราอ่านวนแล้ววนอีก เพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด แต่สำหรับส่วนที่ไม่มีสคริปต์ …เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ลุยยยยยย

IMG_0950

งานวันจริง 2 มิ.ย. จัดขึ้นที่ The Emquartier ตรงใกล้ๆทางเข้าออกประตูรถไฟฟ้าเลย จริงๆเราเคยทำงานพิธีกรให้กับงานอีเว้นต์ญี่ปุ่นตรงบริเวณที่จัดงานนี้มาแล้ว แต่ปริมาณคนที่รอชมงาน มันช่างต่างกันอย่างลิบลับเลย วันนี้มวลมหาประชาชนล้นหลาม มานั่งๆยืนๆตั้งแต่ห้างเปิดใหม่ๆ โอ้โหงานใหญ่ขนาดนี้ พลังของแฟนคลับที่มีต่อ 48 group มันช่างสุดยอดจริงๆ เราต้องทำให้ดีที่สุด!!

IMG_1378

ตอนที่ได้เห็นน้องๆในยูนิฟอร์มครั้งแรก น่ารักมากกกก รู้สึกตื้นตันไปด้วยเลย เพราะเราก็เห็นภาพน้องๆมาตั้งแต่ตอนเข้ามาออดิชั่น การที่มีวันนี้ได้ แน่นอนว่ามันเป็นประสบการณ์ใหญ่มากๆในชีวิตของน้องๆ รู้สึกยินดีไปด้วยจริงๆ

img_0512

img_0524

ทั้ง 3 เพลงที่น้องๆโชว์นั้น เราได้ฟังเป็นครั้งแรกพร้อมกับทุกคน เพลงภาษาไทยและมีท่อนภาษาญี่ปุ่น ทำออกมาได้ลงตัว เพราะมาก โดยเฉพาะ 365 nichi no kamihikouki ถ้ามีเอ็มวี, คาราโอเกะ ออกมาเมื่อไหร่เราว่ายอดวิวต้องถล่มทลายแน่ๆ (แต่แอบอยากให้มีเพลง Heavy Rotation ออกกมาด้วยจัง)

IMG_1175 copy

IMG_1610

IMG_9936 copy

IMG_9904 copy

IMG_1451 copy

IMG_1447

IMG_1437 copy

IMG_1445 copy

เท่าที่รู้มา เสน่ห์ของไอดอลค่าย 48 คือ คาแรกเตอร์ที่แตกต่่างของแต่ละคน, ถึงจะไม่เพอร์เฟคต์แต่มีความพยายาม เพื่อที่จะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น เปล่งประกายมากขึ้น ซึ่งแฟนคลับจะสนุกสนานไปกับการเชียร์ การลุ้น ดูพัฒนาการของน้องๆ นี่แหละ โดยในวันงานน้องๆแสดงให้เห็นถึงตรงนี้จริงๆ ไอดอลกรุ๊ปแนวนี้ถือว่าแปลกใหม่สำหรับบ้านเรา แต่เมื่อเป็นที่รู้จักมากขึ้นน่าจะช่วยจุดประกายอะไรได้หลายๆอย่าง ให้ทั้งกับวัยรุ่นด้วยกันเอง หรือแม้แต่กับผู้ใหญ่ก็ตาม

img_0534

img_0530

ตัวเราเองทุกวันนี้ก็ยังคิดว่าตัวเองไม่เพอร์เฟคต์ ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้นเสมอ ไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว เราจึงชอบคอนเซปต์ของค่าย 48 มาก วันนี้ฝันของน้องๆ BNK48 เป็นจริงขึ้นไปอีกสเต็ปแล้วคือการเดบิวต์ คิดว่าจะสามารถเป็นแรงบัลดาลใจให้คนอื่นๆ ในเมืองไทย ค้นหาความฝันของตัวเองแล้วลงมือทำให้สำเร็จได้

img_0576

img_0590

img_0577

สำหรับตัวเรา ไหนๆพูดเรื่องความฝันแล้ว ก็ขอบอกของตัวเองด้วยละกัน ถึงแม้เราจะไม่ใช่คนที่เก่งภาษาญี่ปุ่นที่สุด ไม่ใช่คนพูดเก่งที่สุด ไม่ใช่คนที่สวยที่สุด ไม่ใช่คนเพอร์เฟคต์ แต่เมื่อได้รับโอกาสให้ทำงานใดแล้ว เราจะทำมันอย่างดีที่สุด

img_0514

ซึ่งเป้าหมายของเราในตอนนี้คือ เป็น “Influencer ด้านญี่ปุ่น ที่เป็นที่รู้จักแม้ในหมู่คนที่ไม่ได้อยู่วงการญี่ปุ่นให้ได้” และ “เป็นพิธีกร ที่คนนึกถึงเป็นลำดับแรกๆถ้าเป็นงานด้านญี่ปุ่น” สำหรับเรามีไอดอลด้านพิธีกรอยู่สองคนค่ะ ได้แก่ คุณหนิง ศรัยฉัตร และ คุณโอปอล์ ถ้าทั้งสองท่านเป็นพิธีกรแถวหน้าของวงการอีเว้นต์ทั่วไปฉันใด เราก็จะเป็นพิธีกรด้านญี่ปุ่นที่ทุกคนนึกถึงเป็นลำดับแรกๆให้ได้ฉันนั้น!! (ในอนาคต ถ้าขยายไปสายอื่นได้ก็จะดีมาก แต่ตอนนี้ขอโฟกัสตรงนี้เอาให้ปึ้กก่อนนะ)

สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนให้กำลังใจและคำแนะนำ, ขอบคุณทีมงานที่มองเห็นและให้โอกาสเราทำหน้าที่นี้, ขอบคุณน้องๆ BNK48 – AKB48 ที่ร่วมรับส่งกันบนเวที ขอบคุณสำหรับความพยายามที่แสดงออกมาให้เห็น ส่งต่อเป็นแรงบัลดาลใจให้อีกหลายๆคน รวมถึงตัวพี่เองด้วย, ขอบคุณแฟนคลับ 48 ทุกคนที่ส่งเสียงเชียร์ คอยโต้ตอบเวลาเราพูดบนเวที ถ้าไม่ได้พวกคุณเราคงแย่เลย, ขอบคุณน้องๆที่ติดตามผลงานเราและเข้ามาทักทาย, ขอบคุณทุกคนในโซเชี่ยลที่เขียนติชมถึงเรา, ขอบคุณจ่าพิชิต Drama Addict ที่ลงรูปเราด้วยนะคะ ดีใจได้ลงเพจดัง อิอิ และขอบคุณทุุกคนที่มีส่วนช่วยให้งานนี้สำเร็จลงไปได้ด้วยดี เราดีใจมากที่มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการเพลงญี่ปุ่นในไทยครั้งนี้ค่ะ จากนี้เราก็จะไม่หยุดพัฒนาตัวเอง หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับ BNK48 อีกนะคะ ไฟต์โตะ!!img_0560*about me*สำหรับคนที่เพิ่งรู้จักกัน มาทำความรู้จักกันในบล็อกนี้ก่อนเลย ประวัติ..เรโกะคือใคร? เรียนอะไร? ทำงานอะไรมา? เขียนเองเล่าเองซะเลย Let me introduce my self, Reiko.wsfacebook : Reiko.wsinstagram, twitter @reiko_wsyoutube : Reiko_ws เรโกะและบล็อกนี้ http://www.ReikoBangkokNeko.comContact for Work / ติดต่องานต่างๆ ทั้งงานเขียนคอลัมน์, รีวิว, ถ่ายแบบ, สัมภาษณ์, พิธีกร, งานแสดง, ล่าม, นักแปล / 仕事依頼はこちら : คุณกอล์ฟ 081-843-7109 (Thai language) และ reiko.ws@gmailcom (Japanese OK)*รูปภาพในบล็อกนี้มีทั้งที่เราถ่ายเอง มีบางส่วนใช้รูปจาก BNK48 official ค่ะ*