Category Archives: Travel

Shimafumi คาเฟ่น่ารักริมทะเล บนเกาะซาโดะ จ.นีงาตะ

🚗คิดถึงการขับรถเที่ยวญี่ปุ่น เลียบชายฝั่งทะเล เปิดกระจกรับลมชมวิว แล้วแวะพักที่คาเฟ่ กินของอร่อยแบบนี้จัง!!

🏝ตอนไปเที่ยว “เกาะซาโดะ จ.นีงาตะ” เราได้ขับรถเที่ยวรอบเกาะ มีคาเฟ่ริมทะเลอยู่ร้านนึงมันน่ารักมากกก และขนมปังของที่นี่ก็อร่อยมากเช่นกัน ร้านนี้คือ “ชิมะฟูมิ”

🥐ถือเป็นจุดแวะพักของนักท่องเที่ยวที่มาเกาะซาโดะ ตัวร้านเป็นบ้านเล็กๆริมทะเลน่ารัก มีเมนูเป็นขนมปัง เบเกอร์รี่ ที่เราชิมแล้ว บอกเลยว่าอร่อยทุกอย่าง เพราะจ.นี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องน้ำและข้าวอร่อย แน่นอนว่าต้องทำขนมปังอร่อยด้วย

🇯🇵ถ้าหมดโควิดแล้ว มีโอกาสได้ไปเที่ยวเกาะซาโดะ ก็อย่าลืมแวะร้านนี้กันนะ ดูบรรยากาศของร้านได้ในคลิปนี้เลยจ้า

🎞”ขับรถเที่ยวต่างจังหวัดญี่ปุ่น หาทอง ล่องเรือกะละมังที่เกาะซาโดะ Sado Niigata”
https://youtu.be/bkmEdnj7ALk

📍”ร้านชิมะฟูมิ” しまふうみ Shimafumi
105-4 Daisho, Sado, Niigata 952-0431
https://maps.app.goo.gl/wh9LF1U3EfhkMKcz6

ปล.เราไปตั้งแต่เดือนต.ค.2019 จ้ะ

📌Facebook post on Reiko.ws

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3427266457318261&id=200769936634612

#reikowsniigata #reikomeow #reikowsyoutube #niigata #sadoisland #เที่ยวญี่ปุ่นตงด้วยตัวเอง #ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น #นีงาตะ #เกาะซาโดะ #新潟県 #佐渡島

เที่ยวญี่ปุ่นตามรอย 8 โลเคชั่นละครและภาพยนตร์ ที่ Yamagata Sendai

ช่วงนี้ไม่ว่าใครก็คง เก็บตัวอยู่บ้าน มีโอกาส หนังละครซีรีย์ และที่ตอนนี้กำลังมาแรงมากๆเลยก็ต้องละครช่อง 3 เรื่องดั่งดวงหฤทัยนี่แหละ ที่พี่ติ๊กเจษฎาภรณ์กับคิมเบอร์ลี่เขาเล่นไง เพิ่งออกฉายตอนแรกทางช่อง 3 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2020 นี่เองกระแสตอบรับดีมากๆเลย

-ละครดี-1024x576

ดั่งดวงหฤทัย (2020)

เรื่องนี้เขายกกองไปถ่ายทำกันถึงภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเชียวนะ แน่นอนว่าไปไกลขนาดนี้ต้องมีวิวสวยๆ และโลเคชั่นเด็ดๆมาให้เราได้ดูกันแน่นอน ไปดูกันเลยค่ะว่ามีที่ไหนบ้าง

โลเคชั่นในจังหวัดยามากาตะ

1.ล่องเรือ Mogami River

DCIM100GOPROGOPR8999.JPGIMG_6344mogami_river_1

แม่น้ำโมกามิถือเป็นเส้นทางการคมนาคมที่สําคัญตั้งแต่ในสมัยก่อนของจังหวัดยามากาตะ ชาวบ้านจะขนของเพื่อค้าขายไปยังเมือง Sakata ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้ถูกใช้เป็นเส้นทางค้าขายหลักแล้วแต่ก็ยังขึ้นชื่อในฐานะ แม่น้ำสายท่องเที่ยวที่สามารถล่องเรือเพื่อชมความงามของธรรมชาติสองข้างทาง โดยสามารถชมได้ทั้ง 4 ฤดูกาลสวยงามแตกต่างกัน

mogami_river_2mogami_river_3IMG_6347

สำหรับการล่องเรือนั้นมีหลายแบบแตกต่างกันไปที่เราได้ไปขึ้นนั้นใช้เวลา 50 นาทีราคา 2,500 เยนและสามารถเลือกซื้อข้าวกล่องขึ้นมาทานเองได้

IMG_633920200122_12490189622963_498414614171741_2787823831148920832_n

และถึงจะเป็นฤดูหนาวแต่ก็สามารถนั่งชมวิวได้อย่างอบอุ่นเพราะมีโต๊ะ อุ่นขาหรือ Kotatsu ไว้บริการด้วย

สองข้างทางมีจุดชมวิวมากมายโดยใช้ซึ่งเป็นพนักงานที่อยู่ในเรือจะคอยอธิบายจุดถ่ายรูปต่างๆรวมถึงร้องเพลงโบราณแบบที่ชาวบ้านสมัยก่อนเขาร้องกันให้ฟังอีกด้วย

IMG_6376IMG_6374

ที่นี่ถูกใช้เป็นโลเคชั่นของละครเรื่องดั่งดวงหฤทัยและยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะโลเคชั่นของละครญี่ปุ่นที่โด่งดังอมตะ เรื่องโอชินนั่นเอง

2.Snow Monster และ Zao Onsen

SONY DSC

zao_snowmonster_2

Zao เป็นที่รู้จักกันดี เพราะมี Snow Monster ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หิมะก่อตัวกับต้นไม้จนกลายเป็นแท่งขึ้นมาเหมือนปีศาจท่ามกลางความขาวโพลน หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Juhyo นั่นเอง

20200123_115801-01

IMG_6663IMG_6676

และยังเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ทอีกมากมาย ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในฤดูหนาว

และที่นี่ยังมีออนเซ็นที่มีน้ำแร่ที่ดีมาก เก่าแก่ มีการค้นพบตั้งแต่ปี 110 ก่อนคริสตศักราช และยังเป็น 1 ใน 3 ของน้ำพุร้อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่น

received_321028385480214-01IMG_20200124_002205_391

น้ำพุร้อนของที่นี่ มีชื่อในการรักษาสภาพผิวและความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร นอกจากน้ำแร่จะดีแล้วบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งของที่นี่ยังสวยงาม ทำให้รู้สึกผ่อนคลายกับวิวที่สวยงามอีกด้วย และที่นี่ก็เป็นหนึ่งในโลเคชั่นถ่ายทำละครและภาพยนตร์หลายเรื่อง

zao_openairbathzao_openairbath_2

3 อาคารโรงพยาบาลเก่า Kyu – Saiseikan

87012596_536151353642713_1429326023316471808_n

อาคารโรงพยาบาลเก่าที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกนี้เป็นตึกที่ได้รับการอนุรักษ์ โดยย้ายมาจากสถานที่ตั้งเดิมมาตั้งไว้ที่นี่ เพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆและให้ความรู้

89775159_206163097159115_1951834006332899328_n

ตัวตึกมีความแปลก เพราะเป็นตึก 14 สี่เหลี่ยม ซึ่งแต่ละห้องก็เคยถูกใช้เป็นห้องตรวจรักษา และในปัจจุบันก็ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เพื่อให้ความรู้และเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์และละครต่างๆ

4.อาคารศาลาว่าการจังหวัดเก่า Bunshokan

89548689_185915989521476_602001870545747968_n89561318_189557202460943_6087821356999639040_n

อาคารอิฐสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองของอังกฤษที่เคยเป็นศาลาว่าการจังหวัดและหอประชุมสภาของจังหวัดยามากาตะ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น

89631900_186095292811754_6236491366482837504_n89792823_3049398835084904_4119547628901892096_n

ในตอนนี้ ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านของจังหวัดและเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำละครและภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิเช่น Rurouni Kenshin ภาพยนตร์ซามูไรของญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมฟรี

89785405_208201167051525_5694462761401057280_n

และยังมีภาพยนตร์เรื่อง Gravity of love (2018) ที่บอยปกรณ์กับเต้ยจรินพรแสดงนำ ซึ่งมีโลเคชั่นถ่ายทำที่เมืองเซนไดจังหวัดมิยางิด้วยนะ ซึ่งจังหวัดยามากาตะและมิยากินั้นอยู่ข้างกัน ดังนั้นเราจะนำมาแนะนำในบล็อกนี้ไปพร้อมกันเลยค่ะ

Gravity of love (2018)

โลเคชั่นในจังหวัดมิยางิ

5.Jogi Nyorai Saihoji Temple

89782595_2729714250482875_8908787384892522496_n

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งในหมู่ชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเอง ผู้คนนิยมมาสักการะขอพรเรื่องความรัก เอกลักษณ์ของที่นี่คือเจดีย์ไม้โบราณสูง 5 ชั้น ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่สันติสุขของมวลมนุษยชาติ

89261039_213559446692025_748517653282291712_n89782263_2785920508155758_984357799314063360_n

และรอบๆบริเวณนี้ยังคงสภาพเมืองเก่ามีร้านอาหารที่ขายเมนูท้องถิ่นมากมาย สามารถสัมผัสบรรยากาศ ในสมัยก่อนของเมืองเซนไดได้ที่นี่

IMG_7137

6.หินรูปหัวใจ Rai-raikyo Gorge Heart Shaped Rock

IMG_7402จุดชมวิวที่สะพาน Nozoki Bashi Bridge อยู่ในหุบเขาไรไรเคียว ซึ่งมีจุดเด่นคือ ร่องหินที่เป็นรูปหัวใจ ว่ากันว่าการมาขอพรความรักที่นี่จะช่วยให้สมหวัง เป็นจุดที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาถ่ายรูปกันด้วยล่ะ

7.เจ้าแม่กวนอิมใหญ่แห่งเซนได

20200125_095430

รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมใหญ่แห่งเซนได (Sendai Dai Kannon) มีความสูงถึง 100 เมตร ที่วัด Daikan Mitsu ji เราสามารถเข้าชมด้านในขององค์เจ้าแม่กวนอิมได้

20200125_10392820200125_102651

มีทั้งหมด 12 ชั้นจากด้านบนสุดสามารถมองเห็นวิวของเมืองเซนได และยังมีพระพุทธรูป รวมถึงพระโพธิสัตว์กวนอิมปางต่างๆให้ชมมากถึง 108 องค์ตามทางเดินจากบนลงล่าง และยังมีจุดให้ขอพรอีกมากมาย

DCIM100GOPROGOPR9353.JPG

20200125_10392820200125_10414920200125_10462720200125_102924สำหรับคนที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมห้ามพลาดเลยเพราะที่นี่มีเครื่องรางสวยๆน่าเก็บเป็นที่ระลึกไว้บูชาอีกด้วย

20200127_134809

8.ศาลเจ้า Shiogama Jinjya

20200125_12124120200125_124024

เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติยาวนานมากกว่า 1,200 ปีเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านมาตั้งแต่สมัยก่อน และยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสถานที่ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นในปี 2545

IMG_7515IMG_752983797378_3381508605209642_3340385422617346048_nด้วยความที่ตั้งอยู่บนเขาทำให้สามารถมองลงมาเห็นวิวจนถึงอ่าวมัตสึชิม่าได้ในวันอากาศดี และที่นี่ยังมีซากุระปลูกไว้มากมาย ทำให้ในช่วงซากุระบาน ประมาณเดือนเมษายน จะเป็นจุดชมซากุระที่ขึ้นชื่อมากๆ

ตอนนี้กรุงเทพฯและโทโฮคุก็ใกล้กันมากกว่าเดิมเพราะมีเที่ยวบินตรงของการบินไทย ไปลงที่เมืองเซนไดด้วย ดังนั้นคนที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวในภูมิภาคโทโฮคุ ในอนาคตในช่วงที่สถานการณ์ไวรัสดีขึ้นแล้ว ลองดูบล็อกนี้ของเรา แล้วไปเที่ยวตามรอยละครและภาพยนตร์ดังในจังหวัดยามากาตะและ จังหวัดมิยางิกันนะคะ

20200126_094952

และเรายังทำรีวิวทริปยามากาตะเซนไดไว้เป็น วีดีโอ YouTube อีกด้วยเข้าไปดูได้ที่นี่เลยค่ะ

ตามรอยละคร ที่ Yamagata Sendai!

และสามารถดูข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์นี้เลยค่ะ

Yamagata เที่ยวเมืองยามากาตะ ตามรอยละครเรื่อง ดั่งดวงหฤทัย

หลังจากที่สถานการณ์ไวรัสโคโรน่าดีขึ้นแล้ว ก็หวังว่าทุกคนจะลองดูเส้นทางยามากาตะเซนได เป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันนะคะ

20200122_144933-01

10 อย่างห้ามพลาดที่จ.อาคิตะในวันที่ไม่มีหิมะ เที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน

เมื่อพูดถึงจังหวัด “อาคิตะ” ส่วนใหญ่ก็คงจะนึกถึงบรรยากาศหนาวเย็น ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน สมกับเป็นเมืองเหนือ ภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่น เพราะขึ้นไปอีกนิดเดียวก็ฮอกไกโดแล้ว แต่จริงๆ แล้วการท่องเที่ยวจ.อาคิตะ ไม่ได้ทำได้แค่เพียงในฤดูหนาวเท่านั้นนะคะ ทั้งสี่ฤดูที่จ.อาคิตะ ต่างก็มีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป แม้ในฤดูร้อนก็สามารถท่องเที่ยวได้ สัมผัสประสบการณ์และสนุกสนานไปอีกแบบ เราได้ไปเที่ยวจ.อาคิตะ ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงกลางฤดูร้อนมาค่ะ เลยขอรวมรวม “10 อย่างที่ห้ามพลาดในจ.อาคิตะ เที่ยวญี่ปุ่นในฤดูร้อนก็สนุกนะ”

20190808_150551.jpg

1.ชมประเพณีปีศาจนามาฮาเกะ Namahage kan

IMG_0739

ที่เมืองโอกะ ในจ.อาคิตะ ในคืนวันสิ้นปีจะมีประเพณีที่ให้ชายหนุ่มในหมู่บ้าน แต่งกายเป็นปีศาจนามาฮาเกะ ออกมาเคาะประตูตามบ้าน เพื่อจัดการสั่งสอน เด็กๆ และคนที่เกียจคร้านไม่ยอมทำงานบ้านและตั้งใจเรียนหนังสือ ซึ่งประเพณีนี้ก็ยังสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน และไม่ต้องรอให้ถึงคืนวันสิ้นปี เราก็สามารถสัมผัสประสบการณ์นามาฮาเกะมาเยี่ยมบ้านได้ เพราะเค้ามีการจำลองให้ชมกันตลอดปี สามารถถ่ายภาพและถ่ายวิดิโอได้ แต่ห้ามใช้แฟลชนะจ๊ะ ที่สำคัญ ฟางที่ตกจากชุดของนามาฮาเกะ ถือเป็นเครื่องรางนำโชค และปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายอีกด้วย ถ้ามีโอกาสได้มา ก็อย่าลืมเก็บกลับไปเป็นที่ระลึกนะคะ

IMG_0729

 

2.เทศกาลแห่โคมไฟประจำปีสุดอลังการ Akita Kantou Matsuri

IMG_0863

เทศกาล Akita Kantou Matsuri เป็น 1 ใน 3 ท็อปเทศกาลใหญ่ของภูมิภาคโทโฮคุ ที่จะถูกในช่วงต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี ปิดถนนจัดกันบริเวณใจกลางเมือง เป็นเวลา 4 วันเต็ม คันโต แปลว่า โคมไฟ ตกแต่งอยู่บนหิ้งไม้ไผ่ขนาดใหญ่  ถูกยกขึ้นด้วยท่าทางต่างๆ ของผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี หิ้วโคมไฟขนาดใหญ่บางอัน หนักมาถึง 50 กิโลกรัม!! โดยผู้ที่ร่วมแสดงนี้มีตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุเลยทีเดียว ถือเป็นงานใหญ่ที่ชาวเมืองอาคิตะให้ความร่วมมือร่วมใจกันเป็นอย่างดี

71497555_469061487286935_473035006353080320_n

3.ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่นในวันที่ไม่มีหิมะ Tazawa Lake

20190806_160631.jpg

ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น คือลึกถึง 423.4 เมตร (เป็นอันดับที่ 17 ของโลก) ที่มีตำนานเล่าขานมานาน เกี่ยวกับรูปปั้นสีทองของหญิงสาวที่ชื่อว่า “ทัตสึโกะ” เธอเป็นคนที่อยากสาวและสวยตลอดกาล จึงไปขอพรกับเทพเจ้า ซึ่งเทพเจ้าก็บอกให้เธอไปดื่มน้ำจากบ่อวิเศษ แต่ด้วยความโลภ เธอดื่มมากเกินไป ด้วยความไม่รู้จากพอ จึงถูกสาปให้กลายเป็นมังกรเฝ้าทะเลสาบแห่งนี้นี่เอง ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวก็จะเห็นหิมะขาวโพลนปกคลุมรอบๆ ทะเลสาบ การได้มาฤดูร้อนก็จะได้เห็นวิวที่สวยไปอีกแบบ

 

4.ชมกระท่อมหิมะได้แม้ในฤดูร้อน Yokote Kamakura

IMG_1669

เมืองโยโกะเทะ จ.อาคิตะ ถือเป็นเมืองทีขึ้นชื่อเรื่องการทำกระท่อมหิมะ หรือที่เรียกว่า อิกกลู แบบของเอสกิโมนั่นแหละ ของขึ้นชื่อขนาดนี้ แน่นอนว่าไม่ต้องเป็นฤดูหนาว ก็สามารถเข้าชมได้ค่ะ เพราะเค้ามีจำลองคามาคุระ ในอุณหภูมิติดลบสิบกว่าองศา ให้ได้เข้าชมกันตลอดปี ไปสัมผัสประสบการณ์หนาวเย็นยะเยือกแบบนี้กันได้ที่ คามาคุระคังนะคะ

IMG_1676

5.เข้าไปดูบ้านคลังเก็บของโบราณที่ยังมีคนใช้ชีวิตอยู่ในนั้นจริงๆ Masuda Uchikura

20190807_143552.jpg

คำว่า “คุระ” แปลว่าโรงเก็บของ คุระโดยส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นจะถูกทากำแพงด้วยสีขาว ละมีหลังคาสีดำ พบได้ทั่วไปทั่วญี่ปุ่น แต่ “อุจิกุระ” ของที่นี่ มีความพิเศษคือ เป็นโรงเก็บของที่ตั้งอยู่ภายในบ้าน ไม่ได้ตั้งออกมาแยกจากตัวบ้านแบบที่อื่นๆ และที่สำคัญ อุจิคุระเก่าแก่ของที่นี่ยังถูกรักษาสภาพไว้เป็นอย่างดี บางแห่งยังมีผู้คนอาศัยอยู่ภายในนั้นจริงๆ ด้วย สามารถไปเข้าชมและถ่ายรูปกันได้เลยค่ะ

IMG_1744DCIM100GOPROGOPR2221.JPG

6.ใส่กิโมโนเดินชมบ้านซามูไรเก่าแก่สมัยสองร้อยกว่าปีก่อน Kaku no date

IMG_20190811_142529_461.jpg

ถ้าอยากสัมผัสเมืองเก่า เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสมัยซามูไรเฟื่องฟู ก็ต้องมาที่เมืองคาคุโนะดาเทะ เลย เพราะที่นี่เค้ามีโซนหมู่บ้านซามูไรเก่าแก่ กว่า 300 ปี ที่อนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จะแต่งกิโมโนหรือยูคะตะเดินถ่ายรูปเล่นก็ได้ เพราะมีร้านเช่าอยู่ใกล้ๆ และแน่นอนว่าคนไม่เยอะเท่าเมืองเก่ายอดฮิตอย่าง เกียวโต แต่ให้บรรยากาศที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นคนที่อยากได้รูปสวยๆ ต้องลองมาที่นี่เลย

20190807_0855574061941231576930753.jpg

7.ดื่มด่ำกับธรรมชาติ สูดโอโซนเต็มปอดที่ Yuzawa Geo Park

DCIM100GOPROGOPR2303.JPG

ถ้าเป็นสายเอ้าต์ชอบขึ้นเขา ชมธรรมชาติดูน้ำตก ก็ต้องมาที่ Yuzawa Geo Park เลย ตรงโซน “Oyasukyo Daifunto” ที่นี่มีทั้งน้ำตกจากธรรมชาติที่มีทั้งน้ำอุณหภูมิปกติ และน้ำแร่ออนเซ็น เท่าที่เห็น มีชาวญี่ปุ่นมาเดินเล่นออกกำลังกายกันไม่น้อยเลยค่ะ

20190808_095820.jpg

8.ชมภูเขาหินแร่สีขาวโพลน ต้นกำเนิดออนเซ็น

71373332_620171371850346_1954719150613987328_n

ภูเขาสีขาวสวยแปลกตานี้ คือ “Kawahara ke Jigoku” เป็นภูเขาหินที่ปกคลุมไปด้วยแร่กำมะถัน กลิ่นจะคล้ายๆ กับที่โอวาคุดานิ ที่คนไทยรู้จักกันดี สามารถเข้าชมได้ แต่ไม่แนะนำให้อยู่นานเพราะมีผลต่อทางเดินหายใจได้ ว่ากันว่าในสมัยก่อน พวกนักบวชและนักรบนิยมมาฝึกวิชาที่นี่

20190808_113948585527172269059815.jpg

9.ทดลองขุดน้ำแร่ออนเซ็นด้วยตัวเอง

20190808_143732.jpg20190808_143741.jpg

และที่ Yuzawa Geo Park  เรายังสามารถขุดน้ำพุร้อนที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาแช่เท้าได้ด้วยตัวเองอีกด้วย เป็นประสบการณ์แปลกใหม่เลยล่ะ โดยเค้าจะมีพลั่วให้ยืมฟรี เราสามารถเลือกจุดที่อยากขุดแล้วก็ช่วยกันขุดๆ ได้เลย โดยน้ำที่อยู่ด้านบนจะเป็นน้ำอุณหภูมิปกติ แต่เมื่อขุดน้ำแร่ใต้ดินขึ้นมา ก็จะผสมกัน เป็นน้ำแร่ที่สามารถแช่เท้าได้กำลังพอดี

DCIM100GOPROGOPR2508.JPG

10.ทานของอร่อย เมนูท้องถิ่นจ.อาคิตะ

20190807_190939_001-01.jpeg

จ.อาคิตะ นี่ขึ้นชื่อเรื่องมีสาวสวยอยู่เยอะ ถึงขนาดมีคำพูดที่ว่า “อาคิตะบิจิน” แปลว่า “คนสวยแห่งอาคิตะ” ซึ่งมาจากที่นี่อากาศดี น้ำสะอาด ทำให้ได้วัตถุดิบที่ดี ทำอาหารได้อร่อย ดีต่อผิวพรรณและสุขภาพนั่นเอง จะบอกว่าอาหารที่นี่อร่อยทุกมื้อเลยค่ะ และเมนูเด็ดที่ห้ามพลาดคือ “คิริทัมโปะ” หรือ ข้าวปั้นก้อน นั่นเอง จะทานแบบเปียก คือเอามาต้มเป็นซุป หรือ ทานแบบย่างแล้วราดซอสมิโซะ อารมณ์คล้ายๆ ข้าวจี่ของไทยเลย

IMG_1171

สำหรับเรื่องการเดินทางไปจ.อาคิตะนั้น สามารถทำได้ โดยขึ้นเครื่องบินจากกรุงเทพ ไปลงที่สนามบินฮาเนดะ แล้วต่อเครื่องภายในประเทศ ไปลงที่สนามบินอาคิตะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น ก็เริ่มต้นท่องเที่ยวกันได้เลย สำหรับคนทีชอบการเดินทางด้วยตัวเอง ขับรถเที่ยวก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะคะ ต่างจังหวัดญี่ปุ่น ถนนโล่งขับง่ายไม่ค่อยมีมอร์เตอร์ไซด์ ขับสนุกสุดๆ เลยค่ะ

20190805_074802.jpg

และเพื่อให้ทุกคนเห็นเสน่ห์ของจ.อาคิตะในแบบที่มาเต็มทั้งภาพและเสียง ก็ขอฝาก Akita Vlog ของเราทางยูทูปด้วยนะคะ

อยากให้ทุกคนลองหาโอกาสไปเที่ยวจ.อาคิตะดูนะคะ ไม่ว่าจะฤดูไหน ก็เที่ยวสนุกได้แน่นอนค่า

IMG_0799

ช่องทางการติดตามของเราจ้ะ ฝากด้วยน้าา Nice to Meet you, I’m Reiko Meow 🙂
facebook Page https://www.facebook.com/ReikoEditor/
instagram https://www.instagram.com/reiko_ws/
twitter https://twitter.com/reiko_ws
Blog https://reikobangkokneko.com/
youtube https://www.youtube.com/channel/UClDnQRFXD5kb9ueBKFRBBQw

 

เที่ยวปูซาน 5 วัน กับ 10 พิกัดต้องตามไปถ่ายรูป (CR)

-ปูซาน-ทัวร์ครับ

ถ้าพูดถึง “เกาหลี” เราเคยไปมาหลายครั้งแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเน้นอยู่ที่เมืองโซล ซึ่งสถานที่เที่ยวในเกาหลีใต้ที่นิยมอีกเมืองนึงก็คือ “ปูซาน” เราอยากลองไปเที่ยวมานานแล้ว ตั้งใจว่าจะหาโอกาสไปให้ได้สักวัน เมืองปูซานเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความชิลล์สุดๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ ไม่คลั่งไคล้ความเป็ฯเมืองศรีวิไล สูดอากาศบริสุทธิ์  พักผ่อนสบายๆ สไตล์อินดี้ และผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก นี่ก็หาข้อมูลล่วงหน้า ถ้ามีวันว่างจะจัดทริปปูซานแบบไม่เร่งรีบสัก 5 วัน เพราะปูซานมีที่เที่ยวสวยๆ เยอะล่ะ แต่จะมีที่ไหนกันบ้าง  ตามเรามาทางนี้เลยเรารวบรวมมาให้แล้วจ้า เที่ยวปูซาน 5 วัน กับ 10 พิกัดต้องตามไปถ่ายรูปให้ได้!!

สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวปูซาน แต่ไม่อยากยุ่งยาก ทั้งเรื่องเอกสาร ตั๋วเครื่องบินปูซาน ที่พักปูซาน ไหนจะต้องแพลนเที่ยวอีกยุ่งยากมากมาย  ไหนจะเรื่องภาษาเกาหลีที่ไม่ได้เลย  หรือแม้แต่เรื่องการขึ้นรถ ต่อรถไฟฟ้าในกับเกาหลีใต้อีก  เอาเป็นว่าทุกอย่างจะง่าย เพียง เลือกทัวร์ปูซานแล้วจองไปเที่ยวกับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) จองง่าย เที่ยวได้แบบสบายใจ คิดจะจองเที่ยวทัวร์ก็จองเลย หาทัวร์ครบจบที่ทัวร์ครับ  เว็บไซต์ที่รวบรวมทุกเรื่องทัวร์เที่ยวให้คุณจนครบจบในที่เดียว

จองทัวร์ปูซาน  กับ  ทัวร์ครับ

https://tourkrub.co/korea-tour/busan

 

 

  1. หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน Gamcheon Culture VillageGamcheon Culture Village Beautiful color ,Busan , South Korea

เริ่มต้นเปิดฉากด้วยความสดใสในสีพาสเทลที่หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน (Gamcheon Culture Village) กันก่อนเลย  พิกัดที่เที่ยวสุดฮอตของเมืองปูซาน  กับแลนด์มาร์คฮิป ๆ ของบ้านเมืองเล็กๆ ที่ตั้งเรียงรายบนเนินเขาที่ตกแต่งด้วยสีสันสดใสสุดคัลเลอร์ฟลูในสไตล์พสาเทลหวาน ๆ รายล้อมไปด้วยงานสตรีทอาร์ตเท่ๆ งานศิลป์และปะติมากรรมเก๋  ที่เรียงรายอยู่ทั่วเมือง  อีกทั้งบนจุดสูงสุดของเนินเขายังเป็นจุดชมวิวเมืองสีพาสเทลมุมสูงสุด Unseen ให้ไปถ่ายรูปสวยๆ เก๋ๆ กันอีกด้วย  จนหมู่บ้านแห่งนี้ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น Machu Picchu of Busan  เลยทีเดียว

พิกัด : Gamcheon Culture Village

 

  1. วัดแฮดงยงกุกซา Haedong Yonggungsa TempleHaedong Yonggungsa Temple. Busan, South Korea

วัดเก่าแก่ที่โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้ง  บนโขดหินริมชายฝั่งทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองปูซาน  สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1376  ด้านหน้าวัดหันออกสู่ทะเล  อีกด้านหนึ่งเป็นผาหินติดกับชายฝั่งมหาสมุทร นับเป็นวัดเก่าแก่ริมทะเลที่วิวดีและสวยที่สุดของเมืองปูซาน  ที่ชาวเมืองปูซานเคารพนับถือกันมาอย่างยาวนาน  โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญๆ อย่างวันปีใหม่จีน  ที่วัดแห่นี้จะเนืองแน่ไปด้วยชาวปูซานที่มาไหว้พระขอพรและรับแสงแรกของวันเพื่อความเป็นศิริมงคลที่วัดแห่งนี้  และที่สำคัญวัดนี้ยังเป็นสถานที่ชมซากุระบานที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของปูซานอีกด้วย

พิกัด : Haedong Yonggungsa

 

  1. วัดซัมกวางซา Samgwangsa Temple3.samgwangsa Temple

วัดสำคัญอันมีชื่อเสียงของเมืองปูซาน  ตั้งอยู่บนยอดเขา Baekyang mountain  โดดเด่นและมีชื่อเสียงด้วยเทศกาลจัดงานแห่ขบวนโคมไฟดอกบัว  ในเดือนพฤษภาคม  ทั่วพื้นที่วัดตลอดจนทางเดินรอบเนินเขาจะประดับประดาเรียงรายไปด้วยโคมไฟดอกบัวหลากหลายสีนับพันดวง  เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองก่อนถึงวันประสูติของพระพุทธเจ้าอย่างยิ่งใหญ่อลังการ  ใครที่เดินทางมาเที่ยวปูซานในช่วงเดือนพฤษภาคม  ไม่ควรพลาดงานเฉลิมฉลองตามประเพณีดั้งเดิมของชาวเกาหลีที่วัดแห่งนี้อย่างเด็ดขาด

พิกัด : Samgwangsa Temple

 

  1. วัดเบียวเมียวซา Beomeosa Temple4.วัดเบียวเมียวซา

วัดเบียวเมียวซา Beomeosa Temple  เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ซึ่งอยู่คู่เมืองปูซานมาอย่างยาวนานกว่า 1,300 ปี  ตั้งอยู่บนภูเขา Geumjeongsan  รายล้อมด้วยทัศนียภาพอันร่มรื่นย์สวยงามของขุนเขา  ตัววัดสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบเกาหลีโบราณที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดี  ท่ามกลางอากาศเย็นสบายบนยอดเขา  และธรรมชาติอันเงียบสงบ  เหมาะแก่การทำสมาธิปฎิบัติธรรม  และการพักผ่อนให้จิตใจร่มเย็นเป็นที่สุด

พิกัด : Beomeosa Temple

 

  1. ชายหาดแฮอึนแด Haeundae beachGwangan bridge

เปลี่ยนบรรยากาศมาที่สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติชายฝั่งทะเลกันบ้าง  กับชายหาดแฮอึนแด Haeundae beach ชายหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของปูซาน  เป็นชายหาดที่อยู่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้  ตัวหาดทรายสีน้ำตาลอ่อนๆ มีความยาวถึง 1.5 กิโลเมตร  อยู่ไม่ไกลจากใจกลางตัวเมืองปูซาน  จึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของชาวเมืองและนักท่องเที่ยว  ทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานและเทศกาลต่างๆ ที่สำคัญของเมืองปูซานอีกด้วย  เนื่องจากทำเลที่ตั้งใกล้เมืองบวกกันหาดทรายกว้างที่เหมาะกับการรองรับผู้คนจำนวนมาก  จึงทำให้ชายหาดแห่งนี้คึกคักเนืองแน่นเต็มไปด้วยผู้คนตลอดทั้งปี

พิกัด : Haeundae beach

 

  1. สะพานควางอัน Gwangan Bridge6.Gwangan Bridge

แลนด์มาร์คสุดฮอตและจุดที่มีทัศนียภาพยามค่ำคืนที่สวยงามที่สุดของปูซาน  กับสะพานควางอัน Gwangan Bridge  สะพานแขวนข้ามทะเลที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้  ตัวสะพานมีความยาวมากถึง 7.4 กิโลเมตร  พาดผ่านเหนือท้องทะเลจาก Haeundae-gu ฝั่งหนึ่งไปยังพื้นที่ Suyeong-gu อีกด้านหนึ่งของสะพาน  โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายน  ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลดอกไม้ไฟนานาชาติ หรือ Busan International Fireworks Festival ที่สะพานแห่งนี้จะยิ่งทวีคูณความสวยงามในยามค่ำคืนไปด้วยดอกไม้ไฟหลากสีสันอันวิจิตรงดงาม  ที่ช่วยสร้างความอลังการสุดพิเศษให้กับสะพานแห่งนี้

พิกัด : Gwangan Bridge

 

  1. ทางเดินลอยฟ้าชายหาดซองโด Songdo Beach SkywalkBusan Songdo Skywalk, the longest skywalk on the water in South Korea.

ทางเดินลอยฟ้าชายหาดซองโด Songdo Beach Skywalk เป็นสกายวอร์คที่ยาวที่สุดในเกาหลี  กับทางเดินสอยฟ้าเหนือผืนมหาสมุทรความยาว 365 เมตร  ที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะคดเคี้ยวเลี้ยวไปมาเหมือนมังกรบิน  ตัวสะพานสกายวอลล์ทำจากไม้เจาะช่องกระจก Temper Glass ตรงกลางสำหรับชมวิวท้องทะเลด้านล่าง  ที่ระดับผิวน้ำซึ่งอยู่ต่ำลงไปราวๆ 5 – 6 เมตร  ตัวทางเดินลอยฟ้ายื่นผ่านเข้าไปในท้องทะเล  ทำให้สามารถรับลมชมวิวทะเลสีเขียวฟ้าสุดโรแมนติกได้แบบพาโนราม่า 360 องศา  ใครที่ชื่นชอบทะเลแต่ไม่อยากตัวเปียก  ก็สามารถมาสัมผัสบรรยากาศท้องทะเลอย่างใกล้ชิดได้สบายๆ ที่แลนด์มาร์คแห่งนี้

พิกัด : Songdo Beach Skywalk

 

  1. ชายหาดควังกาลี Gwangalli BeachBusan Gwangalli Beach

ด้วยปูซานเป็นเมืองริมฝั่งทะเล  สถานที่เที่ยวสวยๆ ก็หนีไม่พ้นชายหาด  งั้นไปต่อกันที่อีกหนึ่งชายหาดสวยๆ ของปูซาน  ที่ชายหาดควังกาลี Gwangalli Beach หาดทรายสีขาวเนียน  น้ำทะเลใส  ความกว้างประมาณ 60 เมตรที่ทอดตัวยาวตามแนวชายฝั่งกว่า 1.4 กิโลเมตร  ขนานเคียงคู่ไปกับอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองปูซานอย่างสะพานควางอัน Gwangan Bridge  นอกจากทัศนียภาพคลาสสิคเกินบรรยายของหาดทรายและสะพานสวยแล้ว  ความสวยงามทางธรรมชาติของท้องทะเลแห่งนี้ก็ดีงามไม่แพ้กัน   นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกทำอย่างหลากหลายอีกด้วย  เรียกได้ว่ามาที่เดียวมีครบเลย

พิกัด : Gwangalli Beach

 

  1. เกาะดองเบคซ็อก Dongbaekseom IslandThe right place it the most romantic.

เกาะเล็กๆ ที่เป็ยแหลมยื่นออกไปในทะเล  มีพื้นที่เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ของปูซานทางด้านฝั่งตะวันออกของชายหาดแฮอุนแด  ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ  ต้นไม้นานาพันธุ์ที่เขียวขจี  ด้วยทำเลที่ตั้ง  และลักษณะภมิประเทศที่ทำให้เกาะแห่งนี้เป็นพื้นที่ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองปูซานอีกแห่งหนึ่ง  จึงกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสุดฮิตของปูซาน  และเป็นจุดชมวิวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กัน  โดยมีจุดชมวิวไฮไลท์อยู่ที่  อาคารนูริมารู (Nurimaru APEC House)

พิกัด : Dongbaekseom Island

 

  1. ออยุคโด สกายวอร์ค Oryukdo SkywalkOryukdo skywalk in Busan city, South Korea

ทางเดินลอยฟ้า โอรยุคโด (Oryukdo skywalk) แลนด์มาร์คสุดหวาดเสียวที่มาพร้อมวิวสวย ๆ เหนือท้องทะเล  กับทางเดินลอยฟ้ารูปเกือกม้าขนาดใหญ่ที่ทำจากกระจก  เหนือหน้าผาสูงที่ยื่นเข้าไปในทะเลกว่า 35 เมตร  ตรงแนวเส้นแบ่งทะเลตะวันออกและตะวันตกของเกาหลีพอดิบพอดี  จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น  และตกที่สวยงามที่สุดของปูซานเลยทีเดียว  ใครที่อยากสัมผัสทัศนียภาพสุดโรแมนติกแบบเสียวๆ ต้องมาลองเช็คอินที่พิกัดนี้ดูสักครั้ง  รับรองว่าต้องประทับใจ

พิกัด : Oryukdo Skywalk

 

และนี่คือ 10 พิกัดถ่ายรูปในปูซานสวยๆ ที่ต้องตามไปถ่ายรูปกันให้ครบ ก่อนออกเดินทางอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ถ่ายรูปกันไปให้พร้อม และโพสต์ท่าถ่ายรูปสวยๆ กลับมาเยอะๆ นะ ก่อนอื่นๆ เริ่มจากเช็กวันลากันก่อนแล้วรวบรวมสมาชิก วางแผนไปเที่ยวกัน ถ้าเราได้ไปเมื่อไหร่ รับรองว่าจะมีรูปสวยๆ มาลงอวดทุกคนแน่นอนจ้าาา

รีวิวนวดน้ำมัน ที่ Health Land พัทยา แก้เมื่อยกับ Traveloka Xperience

เดี๋ยวนี้ปัญหาปวดเมื่อยไม่ได้เป็นแค่ผู้สูงอายุกันแล้วนะ คนทำงานที่ต้องนั่งหน้าคอมนานๆ หรือคนที่ต้องแบกของพกกระเป๋าใบใหญ่ๆ หนักๆ ก็ปวดเมื่อยเนื้อตัวกันได้เป็นเรื่องปกติ เราก็เช่นกัน ฮ่า ดังนั้นถ้าปวดเมื่อยก็อย่าทนค่ะ ไปนวดกัน

วันก่อนเราได้ไปลองใช้บริการนวดน้ำมันที่ Health Land สาขาพัทยามาล่ะ คือพอดีไปเที่ยวแถวนั้นพอดี แล้วเที่ยวเล่นเกินเบอร์ไปหน่อย เลยต้องหาวิธีผ่อนคลาย ซึ่งปกติเราเป็นลูกค้าของ Health Land ในกรุงเทพ เลยมั่นใจว่าเข้าสาขาไหนก็หายเมื่อยแน่ๆ

ซึ่งในครั้งนี้เราได้จองผ่าน Traveloka Xperience เป็นโปรโมชั่นพิเศษจาก Traveloka ซึ่งเค้าจะมีบริการ, สถานที่ท่องเที่ยว, กิจกรรมมากมายให้เลือกจองได้ในราคาพิเศษ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และแน่นอนว่ามีโหมดบริการด้านสุขภาพและความงามด้วย

คราวนี้เรามีเป้าหมายว่า “ชั้นต้องมานวดที่ Health Land” ก็แค่เสิร์ชชื่อ Health Land เลือกสาขารและบริการที่ต้องการ แล้วกดจองได้เลย จองล่วงหน้าแค่วันเดียวก็สามารถเข้ามาใช้บริการในวันถัดมาได้แล้วค่ะ

เราเลือกเป็นนวดอโรม่า 90 นาทีค่ะ เมื่อเข้ามาในร้านพนักงานก็จะให้เราเลือกน้ำมันอโรม่ากลิ่นที่ชอบ จากทั้งหมด 5 กลิ่น เราเลือกเป็นกลิ่นกุหลาบ

จากนั้นก็จะพาไปถอดรองเท้า, ทำความสะอาดเท้า, ให้อาบน้ำล้างตัว และถอดเสื้อผ้า!! โอ๊ะๆ ไม่ต้องตกใจไปนะคะ ไม่ได้แก้ผ้าหมดค่ะ เค้าจะเตรียมกางเกงในสปาแบบตาข่ายสีดำให้เราใส่ แล้วก็นุ่งผ้าเช็ดตัว แล้วก็เอาเสื้อกาวน์ทันอีกต่อ

จะเปิดก็ตอนนวดทั้งนั้น ซึ่งเค้าก็จะเปิดทีละส่วนไม่ให้เราโป๊อล่างฉ่างแน่นอนจ้า แถมหมอนวดก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน คนที่ไม่เคยก็ไม่ต้องเขิน มีเหมือนกันแหละ ฮ่า

ในแต่ละขั้นตอนการนวด พนักงานเค้าจะปรับให้เข้ากับความต้องการของเรามากที่สุด สามารถบอกได้ว่าต้องการหนักเบาเน้นมากน้อยแค่ไหน นอกจากจะหายเมื่อยจากการกดจุดปรับเส้นแบบเน้นๆ ตรงที่มีปัญหาแล้ว ยังได้ผ่อนคลายจากกลิ่นอโรม่าที่ชื่นชอบอีกด้วย

บอกเลยว่าเวลา 90 นาทีในครั้งนี้ผ่านไปไวมากเลยค่ะ หลังจากนวดเสร็จแล้วรู้สึกตัวเบาสบาย อาการเมื่อยเคล็ดที่เรามีปัญหามาตลอดตรงหลังและไหล่ด้านซ้ายก็ดีขึ้นด้วยล่ะ

ข้อเสียอย่างเดียว คือ เหมือนจะติดการนวดไปแล้ว ฮ่า ไม่เป็นไร ถ้าอยากนวดอีกก็กดแอพ Traveloka เปิดหน้า Xperience แล้วกดจองสิ ราคาคุ้มขนาดนี้ ให้นวดบ่อยๆ ก็ยังสบายกระเป๋าตังค์จ้า

อยากหายเมื่อยก็คลิกเลย! Traveloka Experience X Health Land มีตั้ง 10 ลองดูที่ใกล้บ้านนะ

ตอนนี้ก็ใกล้ถึงเทศกาลวันแม่ของไทยและ คนที่กำลังมองหากิจกรรมทำร่วมกับครอบครัว ก็ลองชวนคุณแม่และญาติๆ มานวดผ่อนคลายดูสิ อย่างห้องที่เรามานวดในวันนี้ เป็นห้องนวดไปรเวทขนาดใหญ่ สามารถเข้านวดพร้อมกันได้หลายคนเลย รับรองว่าสบายตัว แฮปปี้กันทั้งบ้านแน่ๆ จ้า

เที่ยวโอซาก้า 1 วัน กินเที่ยว ที่เดียวเอาอยู่ใน Grand Front Osaka

เมื่อพูดถึงเมืองยอดนิยมในญี่ปุ่นที่คนไทยนิยมมาเที่ยวกัน “โอซาก้า” ต้องเป็นอันดับแรกๆ สูสีกับโตเกียวอย่างแน่นอน ที่โอซาก้า ไม่ว่าจะชอบช้อปปิ้ง หาของกิน เที่ยวสวนสนุก ก็มีให้เลือกทำทุกอย่าง และในบล็อกนี้เรามีที่ท่องเที่ยวดีๆ มาแนะนำทุกคนกันด้วยล่ะ คนที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวโอซาก้า ห้ามพลาดเลยนะคะ!!

grand front 1

Grand Front Osaka เป็นห้างใหญ่ที่มีร้านเด็ดๆ ดังๆ จากทั้งในญี่ปุ่นเอง และจากต่างประเทศมากมายมาเปิดสาขาที่นี่ มากกว่า 270 ร้าน จุดเด่นคือ เนื้อที่ของแต่ละร้านกว้างมากกว่าห้างในสถานีรถไฟทั่วไป ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงคอนเซปต์ของแบรนด์เป็นอย่างดี และสำหรับคนที่ชอบเที่ยวโต้รุ่งยันเช้า ที่ตึก North ชั้น 6 มีโซน “ที่พักผ่อนสำหรับผู้ใหญ่” เปิดให้บริการถึงตี 4 ของอีกวัน จะช้อปปิ้งก็ได้ หาของกินก็ดี จะมาดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ ก็ลงตัวที่สุด เพราะอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า ย่านอูเมดะ ซึ่งคราวนี้เราจะมาแนะนำ Grand Front Osaka ให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้นค่ะ

การเดินทาง

ออกจากสถานี JR Osaka  เมื่อเดินผ่านที่ลานกว้าง Atrium ทางประตูทิศเหนือก็จะเจอเลย และยังมีมีทางเชื่อมที่ชั้น 2 ด้วย ถึงฝนตกหรือหนาวจัด ก็เดินได้สบายๆ เลยค่ะ

และในห้างก็มีโรงแรมด้วยนะคะ ที่ตึกทิศเหนือของ Grand Front Osaka มีโรงแรมหรู 5 ดาวอยู่ด้วย นานๆ ทีลองให้รางวัลตัวเองด้วยการมาพักที่โรงแรมหรูดูบ้างสิ

Intercontineltal Hotel Osaka นี้ตั้งอยู่ติดกับห้าง Grand Front Osaka เดินจากสถานีรถไฟ JR Osaka เพียง 5นาทีเท่านั้น มีทั้งฟิตเน็ส 24 ชั่วโมง, สระในร่ม และยังมีไวไฟฟรีทั้งโรงแรม เราพามาดูห้องที่อยู่สูงที่สุดของโรงแรม โอ้โหววววว หรูหราดูดี แถมยังวิวสวยมากๆ มองเห็นวิวเมืองโอซาก้าจากมุงสูง ในห้องมีทุกอย่างครบครัน ทั้งครัว, ห้องนั่งเล่น, ระเบียง แถมยังมีเครื่องซักผ้าและห้องเปลี่ยนชุดอีกด้วย ถึงชีวิตจริงจะไม่มีโอกาสอยู่ห้องใหญ่หรูหราแบบนี้ แต่ที่นี่ก็อาจจะช่วยเติมเต็มความฝันของเราได้นะ อิอิ

intercon 1intercon 2intercon 10intercon 9intercon 6intercon 7

ร้านอาหาร Pierre บนชั้น 20 ในโรงแรมเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่ได้ดาวมิชลิน ที่นี่ เราสามารถลิ้มรสอาหารแสนอร่อยและดื่มด่ำกับวิวโอซาก้าสวยๆ ไปพร้อมกัน พนักงานก็มีมารยาทและบริการดี ถึงจะแพงหน่อย แต่ให้ราลวัลตัวเองด้วยร้านหรูๆ ซักมื้อก็ดีเหมือนกันนะ

pierre 1.jpg

มาลองดูร้านอาหารต่างๆ กันบ้าง ในตึก Grand Front Osaka มีร้านอาหารและร้านนั่งดื่มน่าสนใจมากมาย และนี่คือร้านที่เราอยากแนะนำค่ะ

เพื่อนๆ รู้จัก “ฮิซึมาบูชิ” มั้ยคะ เป็นเมนูที่ประยุกต์ปลาไหล ให้ทานได้หลายแบบหลายรสชาติในมื้อเดียว ด้วยการเติมเครื่องปรุงรส ซึ่งร้าน Hitsumabushi Bincho นี้ เลือกเนื้อปลาไหล หนังนิ่มมีมันติดนิดหน่อย ย่างด้วยไฟอ่อน ให้ความอร่อยของปลาไหลออกมามากที่สุด ใครได้มาทานก็บอกว่าอร่อยมากทั้งนั้นเลยล่ะ

hitsumabushi 1hitsumabushi 2hitsumabushi 3

อย่างที่บอกว่า เมนูนี้ประยุกต์ทานได้หลายแบบ สำหรับคนที่ไม่เคยทานมาก่อน เค้าก็มีป้ายแนะนำวิธีการทาน เป็นภาษาจีน, อังกฤษ, เกาหลี โดยมีวิธีทานทั้งหมด 3 แบบ ก่อนอื่นทานแบบเปล่าๆ ไม่ต้องปรุงรสก็อร่อย ซึ่งวิธีการทานอีก 2 แบบก็คือ เอาปลาไหลจิ้มวิซาบิและเนงิ และอีกแบบคือ ผสมสาหร่าย, เนงิ, วาซาบิ และปลาไหลเข้าด้วยกัน เป็นข้าวคลุก แถมท้ายด้วยการเติมน้ำซุปลงไป อร่อยร้อนๆ ชุ่มคอดี ซึ่งไม่ว่าจะทานแบบไหนก็อร่อย อยากให้ลองทานกันนะคะ

hitsumabushi 4hitsumabushi 5hitsumabushi 6

ร้าน BBQ33 สำหรับร้านนี้เราแนะนำให้ไปตอนมื้อค่ำ เพราะร้านเปิดถึงตี 4 ของวันถัดไป จะนั่งคุยกับเพื่อนยาวๆ ก็ได้ ในร้านตกแต่งสวยมาก มีสระว่ายน้ำด้วย เราจะได้สัมผัสบรรยากาศการทานบาบีคิวริมสระ ใจกลางเมืองใหญ่ ถ้าไม่ได้ยินพนักงานพูดภาษาญี่ปุ่น อาจจะนึกว่านั่งอยู่แถวชายทะเลประเทศตะวันตกไปแล้ว

bbq33 1bbq33 2bbq33 3

เมนูมีทั้งบาบีคิว, อาหารตะวันตก เป็นร้านอาหารที่ใกล้เคียงกับความเป็นบาร์ มี Tapas ทั้งหมด 33 ชนิด เป็นที่มาของชื่อ BBQ33 และยังมี Appetizer มากถึง 33 ชนิดอีกด้วย เพลินทั้งทูอินวัน นั่งเพลินๆ ถ่ายรูปสวย แถมอาหารยังอร่อยอีกด้วยล่ะ

bbq33 4bbq33 5

THEODOR TEA STAND ร้านนี้อยู่ใน Grand Front Hotel Osaka ตึก South ชั้น 2 เป็นสาขาของร้านชาจากฝรั่งเศส THEODOR มีชาหลายชนิด ทั้งชาโฮจิ, เซนฉะ และยังมีเครื่องดื่มแบบลิมิเต็ด จำกัดเฉพาะฤดูกาลด้วย แถมยังใจกว้าง มีที่นั่งสำหรับชาร์จแบตได้ด้วยthe door 1the door 3

เมนูที่น่าลอง เมนูแรก คือ Strawberry Passion Mamonde เป็นชาแช่เย็น ใส่สตรอว์เบอร์รี่และแพชชั่น ให้รสหวานลงตัวกับชาได้พอดี อีกเมนูที่อยากให้ลองคือ Melange Du Jardin De Maman เป็น Flovored Herb Tea ที่มีรสหวานอมเปรี้ยวเป็นจุดเด่น เป็น Tea Frozen ที่ใส่ผลไม้เยอะจุใจ

the door 2the door 4

และที่พนักงานแนะนำ คือ Peche Mignon เป็นเครื่องดื่มชาเขียวที่มีกลิ่นเมล่อนและพีชผสมอยู่ด้วย กลิ่นผลไม้หอมๆ จะค่อยๆ ตามมาตอนหลัง ช่วยให้ผ่อนคลายใครที่ติดใจชาจากร้านนี้ก็สามารถซื้อกลับบ้านได้ แพ็กเก็จสวย จะซื้อกลับไปเป็นของฝากก็ดีนะคะ

the door 5.jpg

The Lab. Café ถ้าอยากนั่งคาเฟ่ต์แบบชิลๆ พักผ่อนได้ ต้องที่นี่เลย จะมาทานอาหารเช้าที่นี่ก็ได้ เพราะเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า มีหลายแบบให้เลือก ในรูปคือเซ็ตขนมปังทาเนย แยมสตอรว์เบอร์รี่, สลัดผัก และกาแฟ ขนมปังทาเนยและแยมที่นี่เป็นแบบหวานน้อย เข้ากับกาแฟได้เป็นอย่างดี

the lab 1the lab 2

ส่วนอาหารเช้าอีกแบบคือ เซ็ตขนมปัง, เนย, ไข่, สลัดผัก และชา ขนมปังมันนิ่มมากเข้ากับเนยได้ดี และที่สำคัญคือ ราคาค่ะ เพียงเซ็ตละ 500 เยนเท่านั้น ทั้งราคาดีแถมยังอร่อยทำให้ร้านนี้มีคนแน่นตลอดเลยค่ะ

the lab 3the lab 4

นอกจากคาเฟ่ต์แล้ว ที่ชั้น 2 – 3 ของที่นี่ยังมีสถานที่จัดแสดงศิลปะThe lab.อีกด้วย พอได้เข้าไปข้างในแล้วรู้สึกเหมือนเข้าไปโลกแห่งอนาคตเลยล่ะ ที่นี่เปิดโอกาสให้ศิลปิน, นักเรียนนักศึกษา รวมถึงบริษัททั่วไป ได้มาแสดงผลงาน, ทำกิจกรรมที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยล่ะ และไม่ใช่แค่ดูอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามรถทดลองทำด้วยตัวเองได้ด้วย

the lab 7the lab 8

ที่เราสนใจเป็นพิเศษ คือ หน้าจอที่สามารถทดลองเสื้อผ้าได้แบบ VR และงานศิลปะที่ผสมผสาน อนาล็อกและดิจิตอลเข้าด้วยกัน ในแบบญี่ปุ่น น่าจะเหมาะกับชาวต่างชาติที่สนใจเรื่องราวของญี่ปุ่นนะคะ และนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ได้ทดลองอีกมากมาย ถึงจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น แต่ก็สามารถสนุกได้ทุกคน

the lab 5the lab 6

ASICS Store Osaka สำหรับคนที่ชื่นชอบรองเท้ากีฬา ต้องรู้จักแบรนด์นี้แน่นอน ซึ่งร้านสาขา Grand Front Osaka นื้ถือเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในแถบญี่ปุ่นตะวันตก มีรองเท้ากีฬาแบบแหวกแนวให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดวิ่ง หรือคนที่เป็นโปรแล้ว ก็สามารถหารองเท้าถูกใจที่นี่ได้ มีเครื่อง FOOT ID ที่จะวัดขนาดของเท้าเราแบบสามมิติ วัดได้ทั้งขนาดของเท้าแบบละเอียด Static Foor ID และวัดการเคลื่อนไหวของเท้าขณะวิ่งแบบ Dynamic Foot ID ได้ด้วย ซึ่งพอเราวัดขนาดเท้าทั้ง 2 แบบนี้เสร็จ ก็เอาไปประกอบการเลือกรองเท้าที่มีในร้านมากกว่า 150 แบบ รับรองว่าต้องเจอคู่ที่เข้ากับเท้าเราแน่นอน

asics 1asics 2asics 3asics 4

และยังมี Running Lab ซึ่งทีมงานจะแนะนำการเลือกรองเท้ากีฬาให้เราอย่างใกล้ชิด และตอนนี้ยังมีคอลเลคชั่นพิเศษ ลิมิเต็ดโอลิมปิกจำหน่ายด้วย ถ้าอยากหารองเท้าสวยๆ ดีต่อสุขภาพละก็ แนะนำให้ลองมาที่นี่เลย

asics 6asics 7asics 8
สำหรับคนที่เป็นสาวกของ G-SHOCK ถ้ามาญี่ปุ่นละก็อย่าพลาดสอยกลับไปซักเรือนสองเรือนนะ ซึ่งที่ร้าน G-SHOCK สาขา Grand Front Osaka นี่ มีรุ่นและแบบสวยๆ ให้เลือกเยอะมากเลยล่ะ นอกจากจะดูดีแล้วยังมีคุณสมบัติที่ใช้ง่ายได้อีกมากมาย และถ้าใครมีนาฬิกาที่เสียหรืออยากจะเปลี่ยนถ่าน ที่นี่ก็มีให้บริการซ่อมแซม ดูแลหลังการขายด้วยนะ

g shock 1g shock 2g shock 3g shock 4g shock 5g shock 6
Mercedes Me & Down Stair Café มีคาเฟ่ต์ของเบนซ์ที่นี่ด้วยนะ ซึ่งตัวร้านจะเป็นแบบเปิดโล่ง สามารถเข้าจากทางไหนก็ได้ โดยภายในแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของร้าน Mercedes Benz และ Downstairs Coffee ส่วนของโชว์รูปนั้นมีรถสวยๆ โชว์ให้เราได้ดูอย่างใกล้ชิด

benz 1benz 2
ไอเท็มที่น่าสนใจ คือ ขวดแบบเก็บได้มั้งความร้อนและความเย็น และตรงปากจะกว้าง เพื่อให้ใส่น้ำแข็งได้ แถมยังเก็บอุณหภูมิได้ถึง 6 ชั่วโมง

benz 7.jpg

ตุ๊กตาหมีที่มีโลโก้อยู่ตรงหน้าอก ดูหรูหราน่ารักเหมาะจะใช้เป็นเครื่องเพิ่มความไฮโซให้กับกุญแจรถเรามากๆ เลยล่ะ

benz 5.jpg

นอกจากนี้ยังมีไอเท็มเกี่ยวกับกอล์ฟอีกด้วย ซึ่งที่นี่มีสินค้าเกี่ยวกับเบนซ์อีกมากมาย ที่ไม่ได้เกี่ยวกับรถยนต์เท่านั้น

benz 3benz 4benz 6benz 8

ในส่วนของคาเฟ่มีอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิดให้บริการ ถึงจะดูหรู แต่ราคาไม่ได้แพงกว่าคาเฟ่ทั่วไปเลยนะ โดยที่ร้านนี้มีลูกค้ามาใช้บริการแต่เช้า เพราะมีเมนูอาหารเช้าด้วย ถ้ามีโอกาสก็ลองไปนั่งจิบชาดูบรรยากาศกันนะคะ

benz 9benz 10benz 11benz 12benz 13
ที่ตึก North ชั้น 4 มีโซนที่คนรักจักรยานและการตกปลาต้องถูกใจแน่ๆ เพราะที่นี่คือ Shimano Square ที่มีคาเฟ่ต์ และโซนจัดแสดงไอเท็มเกี่ยวกับจักรยานและการตกปลาเอาไว้ ทำให้เราได้ทึ่งกับเทคโนโลยีเจ๋งๆ ของญี่ปุ่นโดยบ.Shimano

shimano 1shimano 2shimano 3shimano 4shimano 5

และในโซนคาเฟ่ต์นอกจากจะม่อาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังมีนิตยสารและหนังสือของวงการจักรยานและวงการตกปลาเอาไว้ให้ดูเพลินๆ อีกด้วย

shimano 6shimano 7shimano 8

นอกจากจะมีร้านน่าช้อปน่ากินมากมายแล้ว ที่นี่ยังมีฟรีไวไฟทั่วทั้งห้าง จะไลน์หรือโทรหาเพื่อน รับส่งออเดอร์ก็สะดวกสบาย และสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แทบทุกร้านทำเรื่องคืนภาษีได้ด้วยค่ะ ประหยัดได้เยอะเลย

และถ้าเดินในห้างยังไม่จุใจ อยากจะไปเที่ยวตรงอื่นในย่านอูเมดะบ้าง ที่นี่เค้าก็มีป้ายรถเมล์ให้บริการอยู่ที่ตึก South และ North  ซึ่งค่าบริการต่อเที่ยวอยู่ที่ 100 เยน แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบเหมา 200 เยน จะขึ้นลงที่ไหนกี่ครั้งก็ได้ใน 1 วัน โดยรถบัสนี้จะวนในย่ายอูเมดะ มีทั้งห้าง Hankyu 3rd street, Uniqlo สาขาที่ใหญ่ที่สุดในคันไซ, Loft, ห้าง Hanshin Umeda เรียกได้ว่าใช้เวลาทั้งวันละลายทรัพย์ ซื้อของก่อนกลับไทยได้ในย่านนี้ทั้งวันยาวๆ เลย

service 1service 2service 3service 4

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ Grand Front Osaka เท่านั้น ถ้าอยากรู้ว่ายังมีอะไรดีอีก ก็ต้องมาลองเที่ยวด้วยตัวเองดูนะคะ ก็หวังว่าทุกคนจะสนุกสนานกับการเที่ยวญี่ปุ่น แล้วอย่าลืม ถ้ามาเที่ยวโอซาก้า ก็ต้องแวะมา Grand Front Osaka นะคะ

illumination.jpg

รีวิวเที่ยวโอกินาว่า ทะเลญี่ปุ่นแสนสวยที่ต้องไปให้ได้ซักครั้ง!

“เมืองนาฮา” เมืองหลวงของจ.โอกินาว่า ที่น่าจะมีคนไทยไปบ่อยที่สุด ก็เป็นศูนย์กลางของจังหวัดนี่นา ความเจริญ แหล่งท่องเที่ยวมากมายอยู่ที่นี่ แต่ก็ยังมีธรรมชาติ และทะเลสวยงามให้ทุกคนได้สัมผัส คนที่อยากเที่ยวทะเลญี่ปุ่นสวยๆ แต่ไม่อยากติดเกาะแบบเหงาๆ ไม่มีที่ช้อปปิ้งละก็ต้องรักเมืองนาฮาแน่นอน ซึ่งหลังๆ นี่คนไทยเดินทางไปเที่ยวโอกินาว่ากันเยอะขึ้น เพราะมีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพของสายการบิน Peach แถมยังราคาไม่แพง ทำให้นึกจะไปเมื่อไหร่ก็ไปได้สะดวกมาก

จะบอกว่าโอกินาว่านี่เป็นหนึ่งในจังหวัดของญี่ปุ่นที่เราเลิฟสุดๆ เลยล่ะ เคยได้ยินคนไทยหลายคนบ่นว่า ทะเลบ้านเราก็สวย จะมาเที่ยวที่นี่ทำไม ไม่มีลมเย็นๆ ไม่มีหิมะให้เล่น แต่แหมมมม… เสน่ห์ของญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่หิมะซะหน่อย เราเป็นชอบคนอากาศอบอุ่นและทะเล ยิ่งผสมผสานความทันสมัย บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อยแบบญี่ปุ่นเข้าไป โอกินาว่าจึงตอบโจทย์เรามากเลย

ซึ่งนี่เป็นการเที่ยวโอกินาว่า ครั้งที่ 3 ของเรา แต่ก็มีหลายสถานที่เคยมาเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ แถมยังอยากไปซ้ำอีกนี้ด้วย ดังนั้นคนที่กำลังวางแผนจะมาเที่ยวโอกินาว่า ตามติดบล็อกนี้ไว้ให้ดีๆ ที่เที่ยวดีๆ มีมาแนะนำเพียบเลยจ้า

ประสบการณ์ล่องเรือดูวาฬ Whale Watching

ในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม ปลาวาฬจากรัสเซีย จะหนีความหนาวลงใต้ มาอยู่ที่ทะเลแถบโอกินาว่านี่แหละ มันเจ๋งตรงที่ท่าเรือที่จะพาเราไปดูน้องวาฬนั้น อยู่ใกล้กับตัวเมืองนาฮาเลย แถมยังใช้เวลานั่งเรือไม่นานก็ถึงจุดชมน้องวาฬแล้ว โดยที่นี่เค้ารับประกันถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ว่าจะได้เห็นน้องวาฬ

DSCF0203

20180313_104041

DSCF0240

ซึ่งวันที่เราไปนั้น โชคดีมาก เรือออกจากท่าไม่ถึง 10 นาทีก็เห็นน้องวาฬออกมาพ่นน้ำให้ได้ดูกันแบบใกล้มากเลย แต่เรือค่อนข้างสั่นโคลง แนะนำให้คนที่เมาพาหนะได้ง่ายทานยาแก้เมาไว้ก่อนก็จะดีนะจ๊ะ (สามารถซื้อยาแก้เมาได้ที่ร้านขายยาทั่วไปเลย)

DSCF0248

Whale Watchcing 3-7-2 Kinjo, Naha city, Okinawa 901-0155

ราคา ผู้ใหญ่และเด็กอายุเกิน 12 ปี 4,500 เยน / เด็กอายุ 3 -11 ปี 3,500 เยน

เปิด – ปิดสำนักงาน 9:00 – 20:00

http://www.tms-news.jp/whalewatching/

ทานเนื้อหมู เมนูขึ้นชื่อของโอกินาว่า

อาหารขึ้นชื่อของโอกินาว่ามีหลายอย่างค่ะ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “เนื้อหมู” หรือที่เรียกในภาษาถิ่นว่า “อากู” คนโอกินาว่านิยมทานเนื้อหมูกันมาก และนี่เป็นร้านเมนูหมูทอดที่ดังมากๆ ของที่นี่ กัดไปแล้วรู้สึกได้เลยว่ากรอบนอกนุ่มใน สมกับเป็นเมนูเด็ดจริงๆ ค่ะ นอกจากนี้เมนูยากินิคุ และชาบูชาบู ที่ใช้เนื้อหมูโอกินาว่ายังอร่อยไม่แพ้กัน อยากให้ลองทานกันนะคะ

DSCF0660

DSCF0666

DSCF0669

Ganaha Buta Niku ten มี 6 สาขาในจ.โอกินาว่า

https://www.ganaha-butaniku.co.jp/

เดินเล่นถนนช็อปปิ้งสุดคึกคัก Kokusai Do-ri

แหล่งช้อปปิ้งที่คึกคักที่สุดของเมืองนาฮา “โคคุไซ” แปลว่า นานาชาติ, “โดริ” แปลว่า ถนน ซึ่งที่นี่ก็สมชื่อจริงๆ เพราะเป็นถนนการค้าที่รวมนักท่องเที่ยวหลากเชื้อชาติให้มาที่นี่ซึ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นร้านของฝาก, ร้านอาหารพื้นเมืองและนานาชาติ, ร้านขายยาและเครื่องสำอาง, ร้านปลอดภาษี

DSCF0798

DSCF0707

DSCF0677

ตอนวางแผนเที่ยวถ้าจะนอนโรงแรมนอกเมืองริมทะเล แล้วย้ายมานอนย่านนี้ก่อนกลับ เพื่อจะได้สะดวกต่อการช้อปปิ้งก็น่าจะดีนะคะ ร้านดื่มร้านช้อปปิ้งที่นี่ปิดดึกค่ะ เดินเล่นจนเที่ยงคืนก็ยังได้

https://naha-kokusaidori.okinawa/en/

ตลาด Makishi Daiichi

ตลาดเก่าแก่ที่ยังคงวิถีชีวิตของชาวโอกินาว่าแบบดั้งเดิมเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ติดกับถนนสุดคึกคึกอย่าง Kokusai Do-ri แต่เมื่อเดินเข้ามาในตลาด บรรยากาศจะเปลี่ยนไปเป็นกลายเป็นความอบอุ่นในแบบโอกินาว่าดั้งเดิมทันที

DSCF0695

DSCF0699

DSCF0683

DSCF0688

DSCF0702

ถ้าอยากเข้าถึงโอกินาว่า ลองอุดหนุนสินค้าพื้นเมือง หรือไม่ก็อาหารพื้นบ้านฝีมือคุณลุงคุณป้าชาวโอกินาว่าดูสิ แถมยังมีตลาดอาหารทะเลสดๆ ให้เราได้เดินเล่นดูปลาทะเลเขตร้อนแปลกๆ อีกด้วย เรียกได้ว่า ถึงจะไม่ซื้ออะไรกิน แค่ได้มาเดินเล่นก็เพลินแล้วค่ะ

DSCF0753

DSCF0796

DSCF0789

https://kosetsu-ichiba.com/en/

ถนนสายเครื่องกระเบื้อง Tsuboya Yachimun

เดินเลยตลาด Makishi Daiichi มาอีกหน่อย ก็จะถึงถนนสายเครื่องกระเบื้อง Tsuboya Yachimun เครื่องกระเบื้องและเครื่องปั้นดินเผา ถือว่าเป็นของฝากที่รู้จักกันดีของโอกินาว่า บนถนนเส้นนี้รวมร้านเครื่องกระเบื้องไว้มากมาย รวมถึงร้านเก่าแก่โดยช่างฝีมือชื่อดัง และยังมีคาเฟ่ต์น่ารักๆ ที่ตกแต่งสไตล์โอกินาว่าอีกด้วย

DSCF0712

DSCF0730

DSCF0721

DSCF0747

ถ้ามาที่นี่แนะนำให้ซื้อตุ๊กตาดินเผารูป “ซีซ่า” ซึ่งเป็นสิงโตของโอกินาว่า (คล้ายๆ ปี่เซี๊ยะของจีน) กลับไป ชาวโอกินาว่านิยมตั้งรูปปั้นซีซ่าไว้หน้าบ้าน หรือบนหลังคาบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ในเมื่อเราไม่สะดวกจะหิ้วตัวใหญ่กลับบ้าน ก็ดูเป็นของที่ระลึกชิ้นเล็กๆ ก็ได้

DSCF0748

DSCF0763

DSCF0752

DSCF0777

และข่าวดีอีกอย่างสำหรับทาสแมวคือ ถนนสายนี้มีแมวเยอะมาก มาเล่นกันน้องแมวตัวอวบๆ ขนปุยๆ ที่นี่ได้เลยค่ะ

DSCF0716

http://www.tsuboya-yachimundori.com/

Yatai Mura ศูนย์รวมของอร่อย

เป็นศูนย์อาหารแห่งใหม่ ใจกลางตัวเมืองนาฮาที่เพิ่งได้ไม่กี่ปี รวมร้านอาหารไว้มากกว่า 20 ร้าน บรรยากาศเหมือนงานเทศกาล มีโคมไฟประดับดูครึกครื้นตลอดเวลา ถ้าไม่รู้จะไปทานอาหารที่ไหน ก็ลองมาที่นี่เลย น่าจะมีร้านที่อยากทานแน่นอน

DSCF0802

DSCF0813

DSCF0806

DSCF0814

DSCF0820

DSCF0827

Yatai Mura

3 – 11 – 16 Makishi, Naha-shi, Okinawa 900 – 0013

เปิด – ปิด 11:00 – 23:00

http://www.okinawa-yatai.jp/

เก็บสตรอว์เบอร์รี่ที่ Chura Ichigo

ถ้าพูดถึงฟาร์มสตรอว์เบอร์รี่ที่ญี่ปุ่น คนไทยน่าจะนึกถึงจังหวัดที่อากาศหนาวเย็นมากกว่าจะเป็นที่อบอุ่นแบบโอกินาว่า แต่จริงๆ ที่นี่ก็มีฟาร์มสตรอว์เบอร์รี่นะ ฟาร์มจุลาอิจิโกะแห่งนี้ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2017 ยังใหม่และสวยมากเลยล่ะ

DSCF0922

DSCF0891

DSCF0881

โดยจุดเด่นคือ มีสตรอว์เบอร์รี่ให้ทานกันถึง 4 พันธุ์ ที่อยากแนะนำคือ “สตรอว์เบอร์รี่กลิ่นพีช” รับรองว่าอร่อยแปลกใหม่แน่นอน ยิ่งจิ้มนมข้นหวานแบบญี่ปุ่นที่ไม่ข้นเหนียวเกินไปหวานอ่อนๆ นะ หืมมมม แค่คิดก็ฟินแล้ว

DSCF0912

มีคอร์ส 2 แบบให้เลือก คือแบบทานไม่อั้น 40 นาที ผู้ใหญ่ / 1,800 เยน (วันเสาร์อาทิตย์) 1,600 เยน (วันธรรมดา) และแบบชั่งน้ำหนัก คิดน้ำหนักกรัมละ 3 เยน (ค่าเข้าฟาร์ม 300 เยน)

DSCF0899

พิกัด Okinawa Chura Ichigo 555 Tamagusuku Kakinohana, Nanjo city, Okinawa, Japan

http://www.chura-ichigo.jp/en/

Cafe Kurukuma ร้านอาหารริมทะเลบนเนินเขา ที่มีอาหารทะเลแสนอร่อยรอต้อนรับ

เป็นร้านอาหารและคาเฟ่ต์ที่มีวิวสวยหลักล้าน ตั้งอยู่บนเนินเขา มองไปเห็นทะเลสีฟ้าใส ในวันอากาศดีจะมองเห็นหาดเนินทรายที่เกาะคุเมะจิม่าได้ด้วย ทำให้กลายเป็นจุดชมวิวที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาเที่ยวและถ่ายรูปอัพลงโซเชี่ยลกัน

DSCF1007

DSCF0959

DSCF0969

IMG_20180315_111143_010

โดยจุดเด่นของที่นี่นอกจากจะมีวิวที่สวยงามแล้ว อาหารยังอร่อยเลื่องชื่อ แถมยังเป็นอาหารไทย โดยฝีมือเชฟคนไทยแท้ๆ อีกด้วย ซึ่งเครื่องเทศเครื่องปรุงแบบไทยๆ ต่างๆ นั้น สามารถหาได้ที่โอกินาว่า 100% เพราะสภาพอากาศที่ค่อนข้างอบอุ่นตลอดทั้งปี ไม่ต่างจากเมืองไทยมากนัก

DSCF0986

DSCF0983

DSCF0980

DSCF0988

บางคนอาจจะคิดว่า มาถึงญี่ปุ่น จะมากินอาหารไทยทำไม แต่อยากให้ลองทานจริงๆ เพราะถึงจะเป็นอาหารไทย แต่ก็ปรุงด้วยเนื้อสัตว์และวัตถุดิบอื่นๆ ของญี่ปุ่น โดยวิธีทำแบบไทยแท้ๆ รับรองว่าแซ่บแน่นอนค่ะ

DSCF0947

DSCF1014

DSCF1012

Café Kurukuma

1190 Aza-Chinen, Nanjo-shi 901-1513

เปิด – ปิด 10:00 – 9:00 (last call 9:00)
10:00 – 18:00 (last call 17:00) เฉพาะวันอังคาร

http://okinawatravelinfo.com/gourmet/cafe_kurukurma/

เที่ยวโรงงานสาเกโอกินาว่า อาวาโมริ

สาเกโอกินาว่า หรือ “อาวาโมริ” นั้น มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย เพราะใช้ข้าวพันธุ์ของไทยในการผลิตด้วย ซึ่งที่นี่นั้นผลิตอย่างครบวงจร คือมีจำหน่ายแบบสำเร็จรูป และยังมีรับทำตามสั่งอีกด้วย

DSCF1025

DSCF1019

DSCF1027

ที่น่าสนใจคือ คนโอกินาว่าจะนิยมทำสาเกอาวาโอริ เมื่อมีเด็กเกิดใหม่ในครอบครัว แล้วสลักชื่อของเด็กไว้ที่ขวด ตอนที่เด็กเติบโตจนอายุครบ 20 ปี บรรลุนิติภาวะก็จะมอบให้เด็กเปิดดื่มเหล้าที่มีอายุเท่ากับตัวเองนั่นเอง

DSCF1037

DSCF1038

DSCF1052

สามารถขอเข้าชมโรงงานอาวาโมริได้ฟรี โดยติดต่อทางเว็บไซต์ไว้ล่วงหน้า และยังมีเวิร์กช้อปทดลองทำสาเกอามาโมริด้วยตัวเองให้ลองอีกด้วย

DSCF1074

CHUKO GURA

132 Nakachi Tomigusuku City Okinawa 901-0235 Japan

เปิด – ปิด 9:00 – 18:00

http://www.chuko-awamori.com/chukogura

ช็อปปิ้งที่เอ้าต์เล็ท Ashibinaa

เอ้าต์เล็ทที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะโอกินาว่า ที่นี่ทั้งแบรนด์โลคอลของญี่ปุ่น, แบรนด์กีฬา, แบรนด์อินเตอร์, ร้านขายยา, ร้านของฝากพื้นเมือง และร้านร้อยเยน ที่ขอแนะนำ คือร้านเอ้าต์เล็ทของ ABC Mart ร้านรองเท้าที่คนไทยรู้จักกันดี สามารถหาซื้อรองเท้าสวยๆ ดีไซน์แปลกๆ ได้ในราคาสุดคุ้ม

DSCF1088

DSCF1133

DSCF1091

DSCF1095

DSCF1108

DSCF1221

DSCF1116

DSCF1114

DSCF1112

DSCF1124

พิกัด Ashibinaa Outlet

1 – 188 Toyosaki, Tomigusuku-shi, Okinawa 901-0225

เปิด – ปิด 10:00 – 20:00

http://ashibinaa.okinawa/index.html?lang=en

ชิลๆ ชมวิวตะวันตกดินที่ Umikaji Terrace

ปิดท้ายก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้าน มาแวะช้อปปิ้งมอลล์เอ้าต์ดอร์ที่ขึ้นชื่อกันว่าบรรยากาศดีมากกันก่อน “อูมิ” แปลว่า ทะเล “คาจิ” เป็นภาษาถิ่นโอกินาว่า แปลว่า ลม ซึ่งที่นี่ก็รับลมสมชื่อเลยค่ะ เพราะด้วยลักษณะตึกที่เป็นเทอร์เรสหัสหน้าเข้าสู่ทะเลนั้น เหมาะจะมานั่งรับลมอ่อนๆ ยามเย็น ชมพระอาทิตย์ตกดิน และด้วยความที่อยู่ใกล้สนามบินนาฮา ทำให้เห็นเครื่องบินขึ้นลงได้อย่างใกล้ชิด น่าจะถูกใจคนที่ชอบเครื่องบินเลยล่ะ

DSCF1209

DSCF1263

DSCF1226

DSCF1230

สำหรับร้านค้าที่นี่ ก็มีทั้งอาหารเครื่องดื่ม, ของหวาน, ร้านเสื้อผ้าเครื่องประดับ, ร้านของฝาก และยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น การแช่ออนเซ็นเท้าฟรี, ร้านที่บริการถ่ายรูปแบบเมอร์เมดและเล่น Sup, ร้านคาเฟ่ต์ฮันมอค (เปลญวน) เป็นต้น

IMG_20180314_190842_726

DSCF1283

IMG_20180909_085547_797.jpg

DSCF1244

DSCF1159

DSCF1162

DSCF1220

DSCF1250

DSCF1252

พิกัด

174 – 6 Senaga, Tomigusuku, Okinawa 901 – 0233

เปิด – ปิด 10:00 – 21:00

https://www.umikajiterrace.com/

และสำหรับทริปเมืองนาฮานี้ เราได้ไปพักที่โรงแรมแสนสบาย ทั้ง 2 แห่งนี้ ลองดูไว้เป็นตัวเลือกสำหรับวางแผนเที่ยวกันนะคะ

Hotel Rocore Naha

ถ้าชอบชีวิตเมืองมีแสงสี แนะนำพักที่นี่เลย เพราะอยู่ใจกลางเมืองนาฮา ใกล้ปากทางเข้าถนนสายช้อปปิ้งโคคุไซ เดินช้อปปิ้งหาของกินยันดึกก็ได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องรถกลับ

http://www.rocore.jp/

The Naha Terrace city Resort

สมชื่อกับที่เป็นรีสอร์ทเลย เพราะถึงจะอยู่ใจกลางเมือง แต่บรรยากาศเหมือนอยู่รีสอร์ทจริงๆ ตั้งอยู่บนเนินสูง สามารถมองวิวนาฮาแสนสวยได้ ดังนั้นได้ทั้งความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายในการเดินทางเที่ยวในเมืองนาฮาแน่นอน

https://www.terrace.co.jp/en/naha/

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับทริปโอกินาว่าในแบบของเรา หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ในการหาข้อมูลเที่ยวของทุกคนได้นะคะ “โอกินาว่า” เป็นเมืองที่เราชอบมากๆ ต้องมีไปซ้ำแน่นอน อยากให้ทุกคนลองไปกันนะคะ นอกจากในบล็อกนี้แล้ว เรายังมีเวอร์ชั่น VLOG เห็นทั้งภาพและเสียงเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยกันเลย มีทั้งหมด 6 ตอน ดูได้ที่ youtube “Reiko Meow” เลยค่ะ ลิ้งทั้ง 6 ตอน >> https://www.youtube.com/watch?v=GWsF7WKMDKc&list=PLp2rHc2l2qb0GSGrBXMQuYB0zoC1-94Jr

แล้วพบกับเรื่องเล่าไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นของเราได้ใหม่ในบล็อกและคลิปยูทูปตอนหน้านะคะ ไฮไซ! สวัสดีค่ะ

ฝากช่วยติดตามโซเชี่ยลอื่นๆ ของเราด้วย ทั้ง twitter, Instagram @reiko_ws / facebook : Reiko.ws รับรองว่ามีเรื่องเที่ยวญี่ปุ่นมาฝากเรื่อยๆ แน่นอนค่าาาา

DSCF1270

สนับสนุนการเดินทางโดย การท่องเที่ยวโอกินาว่า Visit Okinawa, เว็บเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่นในมุมมองใหม่ anngle

อ่านบทความท่องเที่ยวโอกินาว่าเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสารออนไลน์ ANNGLE(แองเกิ้ล)
http://anngle.org/th/category/j-journer/okinawa-ken
http://anngle.org/th

2018_anngle_logo01

สนับสนุนโดย
Be.Okinawa / Okinawa Convention & Visitors Bureau

https://www.visitokinawa.jp/?lang=th

https://m.facebook.com/visit.okinawa.th

Beokinawa_board_1200

Photo by Worajan Sangngern, Atipati Praihirun, Okinawa Tourism

ช้อปสุดคุ้มที่ Donki แจกคูปองส่วนลดใช้ได้ทุกสาขาทั่วญี่ปุ่น!

คนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้วน่าจะรู้จักร้าน Don Quijote (หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ดองกี้) กันเป็นอย่างดี เพราะที่นี่คือร้านที่มีทุกอย่าง สากกะเบือยันเรือรบ!! เรียกได้ว่าจะซื้ออะไรที่ญี่ปุ่นกลับไป ถ้าไม่ใช่ของเฉพาะทางมากๆ ไปดูที่นี่ไม่ผิดหวัง แถมยังจำหน่ายในราคาที่คุ้มค่าและมีโปรโมชั่นน่าสนใจบ่อยๆ ทำให้การเดินดองกี้นั้นไม่เคยทำให้เบื่อเลย

20180613_171957.jpg

สำหรับเราเองก็เป็นแฟนคลับร้านดองกี้ตัวจริงเลยล่ะ ไม่ว่าจะไปทำงานที่เมืองไหนของญี่ปุ่น ก่อนกลับไทย ต้องมีซักวันที่แวะดองกี้ ซื้อของที่โดนออเดอร์มา ของฝากเพื่อนๆ และของใช้ที่จำเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่เราจะซื้อของที่ใช้ประจำ เช่น วิตามิน, คอลลาเจน, ชากาแฟที่ดื่มประจำ โดยจะซื้อทีละเยอะๆ เพราะที่นี่ทำเรื่องภาษี ลด 8% สำหรับนักท่องเที่ยวที่ซื้อครบ 5,000 เยนขึ้นไปได้ด้วย

ดังนั้นแทนที่จะซื้อจากร้านโน้นร้านนี้ ทีละน้อยๆ สู้มาซื้อที่นี่ทีเดียวแล้วรวมราคาไปยังคุ้มกว่า แถมยังมีสาขาแทบทุกเมืองใหญ่ในญี่ปุ่น การจัดวางร้านและของต่างๆ ก็ใกล้เคียงกัน ดังนั้นเข้าดองกี้ทีไร จะอุ่นใจเหมือนเดินซูเปอร์แถวบ้านเลยล่ะ 555

20180725_210245.jpg

แต่… แค่ลดภาษี 8% ยังไม่พอนะ เพราะตอนนี้เค้ามีคูปองส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับนักท่องเที่ยวมาให้ใช้เพิ่มด้วย ง่ายมากแค่ตอนจ่ายตังค์ที่เค้าน์เตอร์ กดลิ้งนี้เปิดให้พนักงานดูได้เลย

https://www.yokosojapanpass.com/donki_fuel/public/coupon/index/0006573

  • แสดงหน้าจอคูปองแก่พนักงานที่เค้าเตอร์คิดเงิน และให้พนักงานเป็นผู้กดปุ่มให้

(クーポン画面をレジスタッフにご提示頂き、スタッフが、ボタンを押させて頂きます。)

  • สามารถใช้ได้ 1ครั้ง/1สาขา/ 1วัน

(1日1店舗1回のみ利用可能)

  • ※ชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ※สุรา, บุหรี่, POSA card ไม่สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ ※ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดอื่นได้

(ご利用資格:訪日客のみ お酒・タバコ・POSAカードのお会計には使用できません。他の割引サービスとの併用不可。)

coupon1

<คูปองส่วนลด2,000เยน> รับส่วนลด 2000 เยน เมื่อซื้อสินค้า 30,000 เยนขึ้นไป (ไม่รวมภาษี)

(<2,000円OFFクーポン>税抜3万円以上のお買物で2000円引きになります。)

coupon2

<คูปองส่วนลด500เยน> รับส่วนลด500เยน เมื่อซื้อสินค้า 10,000 เยนขึ้นไป (ไม่รวมภาษี)

(<500円OFFクーポン>税抜1万円以上のお買物で500円引きになります。)

coupon3

<คูปองส่วนลด200เยน> รับส่วนลด 200 เยน เมื่อซื้อสินค้า 5,000 เยนขึ้นไป (ไม่รวมภาษี)

(<200円OFFクーポン>税抜5千円以上のお買物で200円引きになります。)

เราเคยซื้อของครบ 30,000 เยน นอกจากจะได้ภาษีคืนมา 8% แล้วยังได้เงินส่วนลดคืนมาตั้ง 2,000 เยน คุ้มค่ามากเลยล่ะ

สำหรับสาขาที่เราชอบที่สุดคือ สาขา Shinjuku ตรงทางเข้าโคเรียนทาวน์ (เดินตรงมาจากสถานีชินจูกุประตูตะวันออก ประมาณ 15 นาที) พอเข้าร้านปุ๊บ เราจะหยิบรถเข็นมาใส่ตะกร้าแล้วเดินวนทั่วๆ ทุกแผนก หยิบของตามลิสต์ที่จดไว้ เดินสบายเพราะร้านเป็นที่ราบ ไม่ต้องขึ้นลิฟต์ขึ้นบันได อาจจะเดินไกลจากสถานีชินจูกุหน่อย แต่อยากให้ลองไปดูนะคะ

(รูปสาขา Shinjuku ตรงโคเรียนทาวน์ ที่เราชอบไป มีทางเข้าหลายทาง เป็นตึกชั้นเดียวแต่กว้างมาก)

20180829_124636.jpg20180829_124839-01.jpeg

(ส่วนอันนี้เป็นรูปสาขา Shinjuku สาขายอดฮิตที่มีทัวร์ลงบ่อยๆ สะดวก ใกล้สถานีชินจูกุแต่คนแน่นมากตลอดเวลา มักจะต่อแถวจ่ายเงินนานมาก โดยเฉพาะเวลาทำเรื่องภาษี)

20180827_173630.jpg

เอาล่ะ แนะนำเกร็ดการช้อปปิ้งดีๆ ที่ดองกี้ไปเรียบร้อยแล้ว ไปเที่ยวญี่ปุ่นคราวหน้าก็อย่าลืมกดคูปองไปใช้กันนะจ๊ะ

20180829_1307575454657412329644698.jpg

 

รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น จ.โอกินาว่า คุเมะจิม่า เกาะน้ำใสฮาวายญี่ปุ่น Unseen Okinawa Part 1 Kumejima

ไปติดเกาะกันมั้ย? ถ้าเป็นเกาะร้างธรรมดา คงไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ แต่ที่เราจะไปกันคือ “โอกินาว่า” เกาะใต้ แดนสวรรค์ของคนรักทะเลน่ะสิ แค่นั้นยังไม่พอ ไม่ใช่แค่เกาะหลักโอกินาว่าเท่านั้น เพราะเราจะไป “คุเมะจิม่า” เกาะธรรมชาติแสนสวยแบบ Unseen ที่ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยือน!!!
ก่อนเดินทางเราก็พยายามหาข้อมูลจากหนังสือไกด์บุ๊กโอกินาว่า… แต่ไม่มีเลย!! เพราะที่นี่คือเกาะที่โลคอลมากๆ ยังเป็นอะไรที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่ค่อยมา ยิ่งทำให้เราใจแล่นอยากไปสัมผัสที่นี่ไวๆ งั้นอย่ารอช้า เดินทางไปกับเรากันเลยยย

IMG_0978.JPG

การเดินทางก็ไม่ยากเลย (ถ้าใจเราสู้ 555) เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินเมืองนาฮา ด้วยสายการบิน Peach Air ที่มีบินตรงจากกรุงเทพสะดวกสบาย เราก็ต่อเครื่องบินเล็กต่อไปยังคุเมะจิม่า

DSCF9429.JPG

IMG_0983.JPG

คุเมะจิม่า Kume Island 久米島 นี้ เป็นเกาะใหญ่อันดับที่ 5 ของจังหวัด มีประชากรประมาณ 8,000 คน อยู่ห่างไปทางทิศตะวันตก 100 กม.จากเกาะหลักโอกินาว่า มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์จนได้เป็นอุทยานแห่งชาติของเกาะโอกินาว่า

kume3.jpg

kume1.jpg

ถึงสนามบินคุเมะจิม่าแล้วค่าาาาา

DSCF9432.JPG
การเดินทางบนเกาะนี้ ไม่มีรถไฟ ดังนั้นเราจึงเลือกเดินทางด้วยแท็กซี่เป็นหลักค่ะ ถ้าจะเดินทางไปหลายที่ก็จ่ายลุงแท็กแบบเหมาไว้ทั้งวันเลยก็สะดวกดี แต่ถ้าเลือกขับรถเช่าก็ได้แล้วแต่สะดวก ถนนที่นี่ขับง่ายค่ะ เพราะไม่ค่อยมีรถวิ่งมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ค่อยมี โล่งงงง 555

 

DSCF9776.JPG
ถึงแล้วก็เข้าที่พักก่อน ที่พักของเราในคืนนี้คือ Cypress Resort Kumejima

DSCF0118

DSCF0114

DSCF0104

ห้องดีมาก มองเห็นวิวทะเลสุดลูกหูลูกตา เหมาะแก่การมาพักผ่อนมากเลยค่ะ เท่าที่เห็นแขกที่มาพักที่นี่จะเป็นคนญี่ปุ่นเสียส่วนใหญ่ เป็นแนวแฟมมิลี่ และผู้สูงอายุมาเป็นหมู่คณะ

DSCF9440

DSCF9444

เก็บของเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มการท่องเที่ยวกัน ที่แรกที่เราไปคือ หาดทรายขาวสะอาดที่อยู่กลางทะเลสีเขียวมรกตแบบมีมิติ “ฮาเทะโนะฮามะ” Hate no Hama ハテの浜

DSCF9454

DSCF9543

เป็นสถานที่ที่มีความงดงามจนได้ฉายานามว่า “งดงามเป็นที่หนึ่งในซีกโลกตะวันออก”

kume4.jpg

ที่นี่เป็นเกาะเล็กๆ เกิดจากการพัดมารวมตัวกันของทรายกลายเป็นเกาะ มีอยู่ด้วยกัน 3 เกาะ เรียงลำดับจากเกาะที่ใกล้เกาะคุเมจิม่าที่สุดคือ “เมนูฮามะ” “นะกะโนะฮามะ” และ “ฮาเทะโนะฮามะ” โดยทั่วไปจะเรียกรวมทั้ง3เกาะว่า “ฮาเทะโนะฮามะ” เป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่

DSCF9476

DSCF9502

เราสามารถมองวิวทะเลได้ในแบบ 360 องศา ดูสีของน้ำสิคะ ใสแจ๋วเลย ด้วยความสวยงามนี้ ทำให้ถูกใช้เป็นโลเคชั่น ถ่ายทำโฆษณาและภาพยนตร์มาแล้วมากมาย แถมยังเป็นอิมเมจแรกเมื่อคนนึกถึงเกาะคุเมะจิม่าอีกด้วย

DSCF9520

DSCF9533

*เรือสปีดโบ๊ทจากเกาะคุเมจิม่า มายังฮาเทะโนะฮาม่า ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยต้องจองล่วงหน้า ราคามีทั้งแบบเหมาทั้งวัน และครึ่งวัน ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 3,000 เยน และ 6,000 เยน แล้วแต่บริษัทเรือ

DSCF9538.JPG

สำหรับบริษัทที่เราใช้บริการนั้น ชื่อ Ha-te no Kankou service ハテの観光サービス

*คอร์สครึ่งวัน (ภายใน 3 ชั่วโมง)

ผู้ใหญ่ 3,500 เยน / เด็ก 2,500 เยน

รอบเช้า 9:00-12:00 รอบบ่าย 14:00-17:00

*คอร์สฟรีไทม์

ผู้ใหญ่ 4,000 เยน เด็ก 2,500 เยน

เวลาออกเดินทาง 9:00 เวลากลับถึงฝั่ง 13:00, 14:00, 15:00, 16:00 (เลือกเวลากลับได้)

มีบริการรับ-ส่งจากโรงแรม / มีอาหารกลางวัน 500 เยน (สั่งล่วงหน้า 2 วัน)

อุปกรณ์ดำน้ำให้เช่า เซ็ต 4 ชิ้น 1,000 เยน (หน้ากาก, ตีนกบ, สน็อกเกิ้ล, เสื้อชูชีพ หรือ ชุดสูทดำน้ำ)

มีรองเท้าแตะให้ยืมฟรี

ติดต่อสอบถามได้ที่เว็บ Ha-te no Kanko Service

จากนั้นเราเดินทางกลับมายังเกาะคุเมะจิม่า ไปยัง “บาเดะเฮ้าส์” Bade Haus バーデハウス 

DSCF9558.JPG

เป็นสวนน้ำสปาจากธรรมชาติ ที่ให้บริการด้วยน้ำเกลือทะเลลึก 612 เมตรจากทะเลเกาะคุเมะจิม่า ช่วยในเรื่องของสุขภาพ การไหลเวียนเลือด และผิวพรรณ

kume7.jpg
จุดเด่นคือ ในส่วนของสปา เค้าจะแบ่งโซนน้ำพุที่นวดร่างกายออกเป็นจุดละ 1 นาทีให้เราได้เวียนใช้จนครบ และยังมีโซนบ่อจากุซซี่ด้านนอก นั่งแช่น้ำทะเลอุ่นๆ พร้อมชมวิวได้ด้วย ขอบอกว่าการได้แช่น้ำทะเลอุ่นๆ ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่โอกินาว่า มันเป็นอะไรที่สุดๆ แล้วอะ ฮืออออ ฟินน้ำตาจะไหล

20180311_182841.jpg
*Bade Haus Kumejima
เปิดทำการ 10:00-21:00 (เข้าได้ถึง 20:00) ราคาค่าใช้บริการสระ ผู้ใหญ่ 2,000 เยน เด็ก 1,000 เยน (นอกจากนี้ยังมีแพ็กเก็จอื่นๆ อีก ดูเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ http://bade-kumejima.co.jp/ ) แนะนำให้เตรียมผ้าขนหนู และชุดว่ายน้ำมาเอง แต่ถ้าไม่มี ที่นี่มีให้เช่าด้วย ผ้าขนหนู ราคา 300 เยน ชุดว่ายน้ำ ราคา 400 เยน

คุเมะจิม่า เป็นเกาะที่มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก แม้แต่คอมบินี หรือร้านสะดวกซื้อยังหาไม่ค่อยจะมีเลย แต่นั่นก็เป็นข้อดี เพราะทำให้บรรยากาศเงียบสงบ และทำให้เราดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

DSCF9971

ซึ่งจะมีย่านรวมความเจริญ มีทั้งโรงแรมและร้านค้าเอาไว้ ในค่ำวันนี้เราก็ไปทานมื้อค่ำกันที่ร้านอิซากายะสไตล์โอกินาว่า มีเมนูขึ้นชื่อที่ทำด้วยวัตถุดิบสดๆ จากคุเมจิม่ามากมาย

DSCF9592.JPG


หลังจากอิ่มกับมื้อค่ำแล้ว เราก็เข้าที่พักแสนสบาย แถมยังแอบหรูด้วย เพราะขนาดของใช้ในห้องน้ำยังเป็นของแบรนด์ L’occitane เลย

DSCF9610.JPG

วันที่ 2 ที่เกาะคุเมะจิม่า เราออกเดินทางกันแต่เช้า เพื่อไปชม “ต้นสนห้ากิ่ง” หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “โกะเอดะโนะมัตซึ” Go eda no matsu 五枝の松

DSCF9627.JPG
ใช่ค่ะ เรามาดูต้นสนกันค่ะ แต่เป็นต้นสนที่ไม่ธรรมดา เพราะมีอายุยืนยาวกว่า 250 ปีแล้ว แถมยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางธรรมชาติของประเทศอีกด้วย

 

DSCF9634

ความพิเศษอยู่ที่ กิ่งของมันจะแผ่ไปด้านข้าง ขนานไปกับพื้นดิน ในขณะที่ต้นสนทั่วไปจะแผ่กิ่งขึ้นไปทางด้านบน

DSCF9643

ในอดีตเปิดให้ชาวบ้านเข้าชมได้อย่างใกล้ชิด แต่เกิดปัญหามีคนขึ้นไปปีนป่าย เกรงว่าจะก่อความเสียหายแก่ต้นไม้ได้ ในตอนนี้จึงได้ล้อมรั้วอย่างเรียบร้อยนั่นเอง
*ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินคุเมะจิม่า ด้วยรถยนตร์ประมาณ 5 นาที

เริ่มหิวแล้วแวะซื้อเสบียงกันหน่อยดีกว่า ได้ยินว่ามีร้านอาหารน่ารักที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน เลยลองแวะหน่อย

DSCF9669

DSCF9650

DSCF9656

ร้าน “ยูนามิ แฟคตอรี่” Yunami Factory เป็นร้านอาหารที่บริหารงานโดยคนรุ่นใหม่ ที่ชอบการเดินทาง แต่ก็ยังรักบ้านเกิดอย่างเกาะคุเมะจิม่านี้ด้วย เลยจับเอาอาหารสไตล์ฮาวายและการตกแต่งร้าน มาบวกกับวัตถุดิบในการปรุงอาหารสดๆ จากเกาะคุเมะจิม่า โดยเฉพาะกุ้ง “คุรุมะเอบิ” ของขึ้นชื่อ

DSCF9676.JPG

DSCF9681.JPG

นอกจากจะรสชาติอร่อยแล้ว แต่ละมุมในร้านยังถ่ายรูปสวย เหมาะจะอัพลงโซเชี่ยลมากๆ เลยค่ะ

ที่เกาะคุเมะจิม่านี้มีชายหาดหินขนาดใหญ่ รูปทรงห้าเหลี่ยม-หกเหลี่ยมต่อกัน จนมีรูปร่างเหมือนเสื่อทาทามิ (หรือจะมองเป็นกระดองเต่าก็ได้นะ) จนได้ชื่อว่า “ทาทามิอิชิ” Tatami Ishi 畳石นั่นเอง

DSCF9718

 

DSCF9572
โดยทาทามิอิชินี้ มีมาตั้งแต่สมัยเมื่อ 6 ล้านปีก่อน เกิดจากลาวาใต้ดินปะทุขึ้นมาโดนน้ำทะเลที่มีความเย็น ทำให้เกิดเป็นลายแบบนี้ ซึ่งหินแต่ละก้อนจะมีลักษณะเป็นเสายาวลงไปใต้ดินถึง 20 เมตร ตอนนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางธรรมชาติของจ.โอกินาว่าเรียบร้อยแล้วค่ะ

 

DSCF9577.JPG
*ชายหาดหินนี้อยู่ด้านหน้า Bade Haus ที่เราไปมาเมื่อวานค่ะ ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินคุเมะจิม่า ด้วยรสบัสสายวนรอบเกาะประมาณ 30 นาที แนะนำให้ไปช่วงน้ำลงจะเห็นลายหินสวยงามมากกว่า

อาหารทะเลขึ้นชื่อของที่นี่ คือ “กุ้งพันธ์คุรุมะเอบิ” Kuruma Ebi車海老 ซึ่งเกาะคุเมะจิม่านี้ผลิตได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่น โดยในตอนแรกนั้น กุ้งพันธุ์นี้ไม่ได้ถือกำเนิดที่เกาะคุเมะจิม่านี้หรอกค่ะ แต่มีพ่อค้าในท้องถิ่นมองการณ์ไกล เห็นว่าที่เกาะนี้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจึงเปิดฟาร์มกุ้งขึ้นมา เมื่อประมาณ 40 กว่าปีก่อน

DSCF9763

เราได้ไปเยี่ยมชมฟาร์มกุ้งด้วย ได้ชมทั้งบ่อกุ้งที่ในแต่ละบ่อมีกุ้งมากถึง 6 ล้านตัว!! ซึ่งเค้ายังมีส่วนของโรงคัดแยกกุ้ง เพื่อนำไปจำหน่ายในที่ต่างๆ ในประเทศอีกด้วย

DSCF9736

DSCF9747

DSCF9761

DSCF9746

ที่น่าทึ่งคือ เค้าใช้วิธีห่อกุ้งสดๆ ด้วยน้ำแข็งแล้วส่งทางไปรษณีย์ค่ะ โดยกุ้งของวันนี้ จะส่งถึงตลาดอาหารทะเลในโตเกียว ตอนเช้ามืดของวันรุ่งขึ้น เพื่อเตรียมถูกขายต่อไป

DSCF9756

DSCF9760

มันสุดยอดเลย ที่ได้เห็นกุ้งยังเป็นๆ โดยห่อลงกล่อง บางตัวดีดมาก ไม่ต้องจับมันกระโดดลงกล่องเองเลยค่ะ (สงสัยอยากรีบไปเที่ยวโตเกียวไวๆ)
*ติดต่อขอเข้าชมฟาร์มกุ้งได้ที่ http://kumesougoukaihatsu.com/shop.html?1510274781

ระหว่างทางเราเจอสะพานลอยฟ้าที่สวยมาก มีชื่อว่า “สะพานซึมุกิ” Tsumugi Bridge つむぎ橋 โดยจะทาสีแดงไว้ตรงฝั่งนึง อาจจะเพื่อป้องกันอุบัติเหตุตรงทางโค้ง แต่มันทำให้เป็นวิวที่สวยมากเลยล่ะ ยิ่งตัดกับสีฟ้าใสของท้องฟ้าโอกินาว่า มันยิ่งสวยเหมือนโปสเตอร์เลย ได้ยินมาว่าตรงนี้เป็นคอร์สปั่นจักรยานที่มีชือของเกาะด้วยนะคะ

DSCF9792.JPG

และนี่คือจุดชมวิวที่เจ๋งตรงที่เราสามารถมองเห็นวิวของเกาะคุเมะจิม่าได้รอบเกาะ! “ซากปราสาทอุเอกุสุคุ” Uegusuku Castle 宇江城城跡 เป็นที่ตั้งวังสมัยก่อนสร้างด้วยหิน สมัยที่เกาะยังไม่รวมเข้าเป็นของญี่ปุ่น ถูกทำลายจากสงครามเมื่อตอนต้นคริสตศักราชที่ 16 เป็นซากปราสาทที่มีอยู่ตำแหน่งสูงที่สุดในจ.โอกินาว่า มีความสูง 310 เมตร สามารถมองเห็นวิวรอบเกาะคุเมะจิม่าได้รอบๆ ในแบบพาราโนราม่า รวมทั้งฮาเทะโนะฮาม่า และในวันอากาศดี สามารถมองเห็นเกาะหลักโอกินาว่าได้ด้วย

DSCF9807

20180312_111553.jpg
สำหรับคนที่ขับรถเช่ามาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดเลยค่ะ เพราะบนเกาะมีที่จอดรถเหลือเฟือ และส่วนใหญ่จะจอดฟรีซะด้วย อย่างที่ซากปราสาทนี้ก็กลายเป็นจุดชมวิวปกติไปแล้ว มีคนจูงหมาขึ้นมาเดินเล่นได้ด้วย อย่างชิลเลย

 

20180312_114649

20180312_112333.jpg

และด้วยความที่คุเมะจิม่าเป็นเกาะเล็กๆ การขับรถไปแต่ละที่จึงใช้เวลาไม่นาน จากซากปราสาท แป๊บเดียวเราก็ถึงอีกจุดที่น่าสนใจ
“ฮิยะโจบันตะ” Hiyajo Banta Cliff 比屋定バンタ

DSCF9862.JPG

เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เพราะสามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม มองเห็นหมู่เกาะที่อยู่ใกล้เคียงได้ด้วย สามารถเอาข้าวกล่องไปนั่งทานชมวิวได้ มีร้านขายของที่ระลึกด้วย

DSCF9828DSCF9836DSCF9840
*เดินทางจากสนามบินคุเมะจิม่าด้วยรถยนตร์ประมาณ 20 นาที

สัมผัสธรรมชาติกันต่อที่ “บ้านปลาเขตร้อน” Tropical Fish House 熱帯魚の家 เห็นชื่อน่ารักแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วมันคือปรากฎการณ์ธรรมชาติ ที่เมื่อน้ำลง ปลาในทะเลบางส่วนจึงถูกขังอยู่ในโขดหินที่เป็นแอ่ง ใกล้ๆกับฝั่ง ทำให้เราสามารถชมความงามของปลาทะเลและปะการังได้อย่างใกล้ชิด

DSCF9864.JPG

ได้ยินมาว่าที่บ้านปลาเขตร้อนแห่งนี้ถูกพบโดยแท็กซี่ท้องถิ่นด้วยความบังเอิญ แล้วทางเจ้าหน้าที่ของเกาะก็เลยจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเกาะไปเสียเลย นับได้ว่าเป็นสถานที่ที่เราจะได้สัมผัสธรรมชาติที่แท้จริงเลยล่ะ

DSCF9917.JPG
ไกด์ท้องถิ่นแนะนำให้เราเอาขนมปังไปป้อนปลาได้ด้วย ให้ความรู้สึกอีกแบบ ต่างไปจากตอนป้อนอาหารปลาในวัดเลยค่ะ เพราะนี่มันคือปลาทะเลสีสวยๆ เหมือนที่เห็นในอควาเรี่ยมเลย แถมตอนที่ไปเรายังโชคดี เจอปลาไหลทะเลด้วย ตอนแรกตกใจนึกว่างูทะเล แหะๆ

DSCF9885

DSCF9868

ถ้าพาเด็กๆ มาที่นี่คงเหมาะมากเลย เพราะจะได้เรียนรู้เรื่องสัตว์ทะเลจากของจริง มีป้ายแนะนำชนิดปลาบอกไว้ด้วย ขนาดเราๆ เป็นผู้ใหญ่ ยังชอบการเรียนรู้จากธรรมชาติแบบนี้เลยค่ะ

DSCF9918

เป็นที่สังเกตุนิดนึงคือ เรามักจะเห็นขยะทางทะเล พวกขวดเปล่า กระป๋องเปล่าบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อสังเกตุดูแล้ว ขวดเหล่านั้นมีฉลากเป็นภาษาจีนทั้งนั้นเลย คุณไกด์บอกว่า มันมักจะลอยมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ โอ้ววว มาไกลขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย แต่เอ๊ะ จะว่าไป การเดินทางด้วยเรือไปไต้หวัน หรือจีนแผ่นดินใหญ่มันยังใกล้กว่าไปเกาะคิวชูอีกนี่เนอะ ก็เป็นไปได้ๆ

DSCF9914.JPG

แต่เวลาเดินที่นี่ต้องระมัดระวังมากๆ เลยนะคะ เพราะพื้นเป็นหินและซากปะการังแห้งๆ ค่อนข้างแหลมคม ถ้าล้มลงทีนี่ทะลุหนังแน่ๆ แนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบไปจะดีกว่ารองเท้าแตะที่ลื่นง่ายค่ะ

มาสถานที่ที่คนที่นี่เค้าให้ความเคารพนับถือกันบ้าง “ภูเขาหินมิฟุกะ” Mifuga Rock ミーフガー เป็นภาษาโอกินาว่า แปลว่า “หินผู้หญิง”

DSCF9922.JPG

ว่ากันว่าผู้หญิงที่อยากมีลูก ถ้ามาไหว้ขอที่นี่แล้วจะสมหวัง ตอนที่เราไปก็เห็นคู่รักขับรถเอาของมาทำพิธีไหว้หลายคู่เลยค่ะ ใครที่พยายามมีลูกมานาน ไม่สมหวังซักที ลองมาขอที่นี่ดูก็ไม่เลวนะคะ

ที่นี่มีจุดน่าพิศวงด้วยนะคะ ตอนที่ได้ยินชื่อครั้งแรก เราก็ตกใจ เฮ้ยมันจะน่ากลัวรึเปล่า ก็ดันชื่อ “โอบาเกะซากะ / เนินผีสิง”Obake saka お化け坂

DSCF9955.JPG

คือเนินที่นี่จะหลอกตา บางคนจะมองว่าเป็นเนินขึ้น แต่บางคนจะมองว่ามันเป็นเนินลง แต่เมื่อลองเอาล้อรถยนตร์ หรือของที่กลิ้งได้อย่างเช่น กระป๋อง, ลูกบอลไปวางดูก็จะรู้ว่ามันกลิ้งไปทางไหน ต้องไปลองดูเองนะคะ เราไม่บอกหรอก อิอิ

DSCF9948

*จุดนี้เป็นถนนที่มีรถผ่าน ถึงจะไม่บ่อย แต่ก็ระวังอันตรายเวลายืนกลางถนนด้วยนะคะ
Address : 588 Gushikawa, Kumejima, Shimajiri District, Okinawa Prefecture, Japan

 

หลักจากวนชมจุดท่องเที่ยวเด่นๆ ของเกาะมาครึ่งวัน ก็ได้เวลาทานข้าวเที่ยงกันแล้วค่ะ

DSCF0023

มื้อนี้เรามากันที่ร้าน “ยันโช” Yan sho やん小 ร้านโอกินาว่าโซบะชื่อดังแห่งเกาะคุเมะจิม่านี้ เปิดทำการแค่วันละ 3 ชั่วโมงเท่านั้น (12:00-15:00 / last order 14:30) จุดเด่นคือทำเส้นโซบะเองและทำออกใหม่ทุกวัน จึงทำให้มีปริมาณจำกัด

DSCF9997.JPG

DSCF9999.JPG

ตัวร้านเป็นบ้านไม้สไตล์โอกินาว่าเก่า ที่มาดัดแปลงเปิดเป็นร้านอาหารได้สิบกว่าปีแล้ว
ได้รับความนิยมสูงจากเว็บจัดอันดับอาหารและท่องเที่ยวของญี่ปุ่นมากมาย นอกจากรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมและ บรรยากาศของร้านยังสบายๆ เหมือนได้เข้ามานั่งเล่นในบ้านคนท้องถิ่นจริงๆ เลยค่ะ

DSCF0013

DSCF0011

DSCF0006

DSCF0016

DSCF0015

*แนะนำให้จองที่ร้านก่อน เพราะในช่วงไฮซีซั่นลูกค้าจะเยอะมาก และถ้ามาช้า บางทีของหมด ก็อาจจะปิดก่อนเวลาได้
Address : 509 Nakadomari, Kumejima, Shimajiri District, Okinawa Prefecture, Japan

 

อิ่มแล้วก็มายืดเส้นยืดสายกันหน่อย ด้วยการขี่ม้าชมวิวที่ “คุเมะจิม่า อุมะโบคุโจ” Kumejima Uma Bokujo 久米島馬牧場โดยก่อนอื่นก็ต้องเลือกน้องม้าตัวที่ถูกชะตาก่อน เจ้าหน้าที่จะแนะนำชื่อ พร้อมคาแรกเตอร์ และนิสัยให้เราเลือก

20180312_162549.jpg
จากนั้นก็เลือกคอร์สที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นขี่ม้า ฝ่าทุ่ง ขึ้นเขา เลียบริมทะเล หรือแม้แต่ขี่ลงไปในน้ำน้องม้าเค้าก็จัดให้เราได้ค่ะ ราคาก็แตกต่างกันไป เริ่มต้นที่ 4,500 เยน ไปจนถึงสองหมื่นกว่าเยน

DSCF0031.JPG
คอร์สที่เราเลือกคือ ขี่ม้าเข้าป่าและเลียบริมทะเล 1 ชั่วโมง ราคา 9,000 เยน พนักงานที่นี่อัธยาศัยดี และช่วยถ่ายรูปให้เราได้ด้วย รับรองว่าได้รูปสวยๆ ตอนขี่ม้ากลับมาแน่นอนค่ะ

DSCF0102

DSCF0052

DSCF0056

DSCF0093
มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากเลยนะคะ ตอนที่ได้ขี่ม้า ชมวิวธรรมชาติ ทั้งป่า และชายหาดแสนสวย ลมก็พัดเย็นกำลังดี ไม่ร้อนเลย เป็นหนึ่งชั่วโมงที่คุ้มค่าจริงๆ ค่ะ

20180312_161726
*ติดต่อจองคิวน้องม้า เพื่อสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ได้ที่ https://kumejimauma.jimdo.com/
ตั้งแต่เดือนเมษายน 2018 มีการเปลี่ยนแปลงราคา ติดต่อสอบโดยตรงที่เว็บเลยค่ะ

 

เวลาแห่งความสนุกที่คุเมจิม่าหมดลงแล้ว ฮืออออ ยังไม่อยากกลับเลย หลงรักเกาะคุเมะจิม่า เกาะเล็กๆแสนน่ารักนี้แล้วสิ แต่การเดินทางก็ยังต้องดำเนินต่อไป เราเดินทางกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรม เพื่อเช็กอินเตรียมขึ้นเครื่องบินที่สนามบินคุเมะจิม่า กลับไปยังสนามบินนาฮา

DSCF9970.JPG
จากฟาร์มม้า ไปโรงแรม และไปสนามบินอีกทีนี่ใช้เวลาแป๊บเดียวเองค่ะ 1 เพราะเกาะเล็ก อะไรๆ ก็อยู่ใกล้กันหมด 2 ไม่มีรถติดแน่นอน 555

DSCF0145.JPG

20180312_181808.jpg

ขึ้นเครื่องบินของสายการบิน Ryukyu Air Commuter ไปพบกับความสนุกที่มีความเป็นเมืองมากขึ้นของเกาะหลักโอกินาว่า เมืองนาฮากำลังรอเราอยู่!!

DSCF9709.JPG

เกร็ดน่ารู้ของคุเมะจิม่า

– ด้วยความที่มีอากาศอบอุ่นตลอดปี และเต็มไปด้วยธรรมชาติ ในฤดูร้อนจึงถูกใช้เป็นที่เก็บตัวนักกีฬาเบสบอสทีม Rakuten ทีมดังในญี่ปุ่น

– ทั้งเกาะมีโรงเรียนมัธยมปลายเพียงแห่งเดียว ดังนั้นเด็กทุกคนบนเกาะจะรู้จักกัน และเมื่อเรียนจบม.ปลาย ก็ต้องหาที่เรียนต่อในเมืองใหญ่อื่นๆ เช่น เมืองนาฮา, เกาะคิวชู หรืออื่นๆ

– บนเกาะคุเมะจิม่าไม่มีเกมเซ็นเตอร์ ไม่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ดังนั้นกิจกรรมยามว่างของเด็กนักเรียนบนเกาะ คือการเล่นกีฬา ทั้งทางบกและทางน้ำ

– อาชีพส่วนใหญ่ของชาวบ้านที่ ถ้าไม่ทำด้านการท่องเที่ยว คือการเกษตรและการประมง ทั้งปลูกผัก, เลี้ยงวัว

– สามารถขับรถวนรอบทั้งเกาะได้ด้วยเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง

IMG_1028.JPG

การเดินทางจากเกาะหลักโอกินาว่า มายังคุเมะจิม่าเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ ประมาณ 4 ชั่วโมง ราคา 5,800 เยน แต่ถ้าโดยทางเครื่องบินเล็กโดยสาร จะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าขึ้นปุ๊บ ยังไม่ทันงีบก็ถึงแล้วค่ะ แต่ราคาก็จะแพงกว่า ประมาณหมื่นกว่าเยน

แต่สำหรับประชากรที่มีภูมิลำเนาบนเกาะนี้ จะได้รับสิทธิพิเศษซื้อตั๋วโดยสารในราคาถูกกว่าสายการบินที่มีเส้นทาง นาฮา-คุเมะจิม่า ได้แก่ Japan Transocean Air และ Ryukyu Air Commuter (เป็นบริษัทในเครือ JAL)

DSCF9978

อย่าลืมติดตามตอนต่อของบล็อก Unseen Okinawa Part 2 เร็วๆ นี้นะคะ คราวนี้เน้นเที่ยวเมือง “นาฮา” กัน แถมเรายังมีเวอร์ชั่นวิดิโอคลิปใน youtube ด้วย ดูควบคู่กับบล็อกนี้ได้เลย ติดตามได้ที่ http://www.ReikoBangkokNeko.com และ youtube “Reiko Meow” นะคะ กดติดตามกันไว้นะคะ จะได้ไม่พลาด

EP01 Okinawa VLOG EP01 เที่ยวญี่ปุ่น โอกินาว่าน่ารักจัง ลุยเกาะคุเมะจิม่า หินสวยน้ำใสแจ๋ว https://youtu.be/GWsF7WKMDKc

EP02 เที่ยวโอกอนาว่า ขี่ม้า เล่นกับปลาทะเล จับกุ้งที่เกาะคุเมะจิม่า https://youtu.be/NLCabDFZyX4

รวมทั้งรบกวนติดตามโซเชี่ยลอื่นๆ ของเราด้วย ทั้ง twitter, Instagram @reiko_ws / facebook : Reiko.ws รับรองว่ามีเรื่องเที่ยวญี่ปุ่นมาฝากเรื่อยๆ แน่นอนค่าาาา

สนับสนุนการเดินทางโดย การท่องเที่ยวโอกินาว่า Visit Okinawa, เว็บเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่นในมุมมองใหม่ anngle

อ่านบทความท่องเที่ยวโอกินาว่าเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสารออนไลน์ ANNGLE(แองเกิ้ล)
http://anngle.org/th/category/j-journer/okinawa-ken
http://anngle.org/th

2018_anngle_logo01
สนับสนุนโดย
Be.Okinawa / Okinawa Convention & Visitors Bureau

https://www.visitokinawa.jp/?lang=th

https://m.facebook.com/visit.okinawa.th

Beokinawa_board_1200

Photo by Worajan Sangngern, Atipati Praihirun, Okinawa Tourism

 

แปลงร่างไปรีวิว Pretty Guardian Sailor Moon The Miracle 4-Dที่ USJ!

หลายคนคงจะเห็นข่าวอีเว้นต์ของ USJ (Universal Studios Japan) โอซาก้า ที่ทำโปรเจคต์ Universal Cool Japan 2018 ร่วมกับอนิเมชั่นและเกมดัง อย่างโคนัน, ไฟนอลแฟนตาซี ซึ่งในโปรเจคต์นี้ ยังเอาใจสาวๆอย่างเรา ด้วย “เซเลอร์มูน” อนิเมชั่นยอดฮิตที่ครองใจสาวเล็กสาวใหญ่มากกว่ายี่สิบปี

เรามีโอกาสได้ไปเที่ยว USJ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เลยจะมารีวิวให้ดูกัน ขอเน้นๆที่โซนเซเลอร์มูนเลยนะ เพราะชอบเป็นการส่วนตัว อิอิ ปะ ไปกันเลยยยย

มาถึงก็ต้องถ่ายมุมยอดฮิต ลูกโลกซะก่อน วันที่เราไปอากาศครึ้มๆ ฝนตกปรอยๆบ้าง แต่โดยรวมก็ยังโอเค ไม่หนาวเกินไป

img_4715

ถึงแล้ววววว โซนเซเลอร์มูนของเรา ที่ป้ายจะเขียนว่า Pretty Guardian Sailormoon : The Miracle 4-D