Category Archives: japan

20 ที่เที่ยวญี่ปุ่นที่คิดถึง ไปครั้งหน้าต้องห้ามพลาด

มั่นใจแบบเกินร้อยเลยจ้า ว่าญี่ปุ่นน่าจะเป็นประเทศที่บรรดานักเดินทางชาวไทยนั้นคิดถึงแบบยืนหนึ่งเลยละ และเชื่อว่าในอนาคตอีกไม่ไกลเกินไป แดนปลาดิบแห่งนี้คงจะกลับมาเปิดบ้านให้เราได้เที่ยวกันอีกครั้งแน่ๆ จ้า วันนี้เราเลยขอชวนมาวอร์มรอด้วยการนำ 20 ที่เที่ยวญี่ปุ่นที่หลายคนน่าจะคิดถึงสุดๆ มายั่วกันอีกครั้งนะ อยากไปที่ไหนก็เตรียมวางแพลนรอไว้ได้เลยจ้า เปิดประเทศเมื่อไหร่รีบไปจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นกับ Traveloka Travel & Lifestyle Supper app เลยน้า แถมถ้าใครอยากเลือกจองที่พัก รถรับส่งสนามบิน หรือว่ารถเช่าก็ตามไปกดจองกันได้เลย จะได้เป็นคนแรกๆ ที่กลับไปสูดกลิ่นอายแดนเจแปนที่แสนคิดถึงกันอีกครั้งจ้ะ ว่าแล้วไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะไปไหนดี!

เช็คมาตรการสนามบินก่อนบินกันได้เลย เช็คมาตรการคลิก

จองรถรับส่งสนามบิน กับ Traveloka ไลฟ์สไตล์ซูเปอร์แอป > https://www.traveloka.com/th-th/airport-transfer

20 ที่เที่ยวญี่ปุ่นห้ามพลาด

1.Kawachi Fuji Garden

หนึ่งพิกัดสุดพีคในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่หลายคนอยากกลับไปเช็คอินอีกซักครั้ง กับการได้ไปเดินท่ามกลางอุโมงค์ดอกวิสทีเรียสีม่วงสวยหวานที่งดงามราวกับอยู่ในความฝัน ที่นี่มีดอกวิสทีเรียให้ชมกันมากกว่า 22 สายพันธุ์ ในพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ไฮไลท์เด็ดๆ ก็คืออุโมงค์วิสทีเรียที่ยาวกว่าร้อยเมตร และโดมต้นวิสทีเรียขนาดใหญ่ที่เกิดจากต้นไม้เพียงแค่ต้นเดียวอย่างน่าอัศจรรย์ ถึงปีนี้อาจจะไปชมกันไม่ทันแล้วนะ แต่เชื่อว่าปีหน้าคงจะไปดูกันได้แบบเต็มๆ ตา รีบจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นกับ Traveloka Travel & Lifestyle Supper app ไว้เลยจ้า ไปไม่ทันอย่าหาว่าเราไม่เตือนเด้อ

2.Kiyotsu Gorge Tunnel

ก่อนที่โควิดจะแวะมาทักทายชาวโลกกันเป็นเวลาเกือบ 3 ปี เชื่อว่าหลายคนน่าจะเตรียมใส่ที่นี่ลงในแพลนกันเอาไว้บ้างแล้วละ อุโมงค์ดีไซน์เก๋แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน Installation Art แบบถาวรในโครงการ Echigo Tsumari Art Field ของเมือง Tokamachi จังหวัด Niigata จ้า เค้าดีไซน์อุโมงค์ลอดทะลุภูเขา 4 อุโมงค์ในคอนเซ็ปท์ของธาตุทั้ง 5 คือดิน น้ำ ไฟ ไม้ และโลหะ ทำให้แต่ละพิกัดนั้นมีความน่าสนใจที่แตกต่างกันไป บอกได้เลยว่าแค่คอนเซ็ปท์ก็เด็ดแล้วจ้า แต่ที่เด็ดกว่าก็คือวิวที่จะได้เห็นซึ่งเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ที่สำคัญคือถ่ายรูปออกมาเก๋ม้ากกกกก เป็นพิกัดที่อยากให้มาโดนกันจริงๆ

3.Mt. Zao

เป็นพิกัดหนึ่งซึ่งเชื่อว่าพอมีลุ้นที่น่าจะได้ไปเยือนกันภายในปีนี้ กับการไปชมเหล่าปีศาจหิมะหรือ Juhyo นับร้อยนับพันที่ยืนตระหง่านเรียงรายกลายเป็นทิวทัศน์ที่แปลกตา ซึ่งแท้จริงแล้วเกิดจากหิมะที่ทับถมลงบนต้นสนจนหนา ชวนให้เกิดเป็นรูปร่างที่หลายคนจินตนาการว่าเหมือนปีศาจหิมะนี่ละ จะเดินชมกันในระยะประชิดก็ได้ หรือจะขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปชมวิวพาโนรามากันจากบนมุมสูงก็เรียกได้ว่าเด็ดเชียวละ ช่วงกลางคืนเค้ายังมีการประดับไฟหรือ Light Up ให้บรรยากาศที่สวยต่างออกไป ใครชอบเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดก็ไปจัดกันได้ด้วยจ้า เตรียมตัวไว้น้า เราว่าหนาวนี้ได้เห็นกันแน่นอน

4.Hitachi Seaside Park

เชื่อว่านี่ต้องเป็นหนึ่งในพิกัดซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนอยากไปญี่ปุ่นกันซักครั้ง เพราะอยากไปเห็นวิวสวนสวยสุดปังซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้สารพัดรูปแบบที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นทะเลดอกเนโมฟีลาสีฟ้าสดใสสุดลูกหูลูกตาในฤดูใบไม้ผลิ หรือพุ่มโคเชียสวยแปลกตาในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากความสวยของดอกไม้ที่จะเปลี่ยนไปในแต่ละฤดูแล้วนะ ที่สวนนี้ยังมีโซนสวนสนุกให้แวะไปกรี๊ดกันด้วยจ้า มาที่เดียวได้สองอารมณ์เลยน้า เตรียมจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นกับ Traveloka Travel & Lifestyle Supper app ไว้เลยจ้า เผื่อปลายปีนี้จะได้มาชิลล์กัน

5.Otaru

เมืองท่าเล็กๆ แต่สวยเด็ดจนกลายเป็นแลนด์มาร์คหลักแห่งหนึ่งของฮอกไกโดเค้าละ เริ่มจากความสวยของอาคารสไตล์วิคตอเรียนซึ่งได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ให้เดินชมกันหลายแห่ง ให้บรรยากาศกลิ่นอายแบบยุโรปงดงาม ไฮไลท์สุดๆ ก็ต้องเป็นเทศกาลฤดูหนาวบริเวณคลองโอตารุของเค้านี่ละจ้า หิมะขาวๆ แน่นๆ มีแสงไฟส่องเป็นแนวยาว รอบด้านก็เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหารและร้านขนมหวานชื่อดังมากมาย เตรียมจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นกับ Traveloka Travel & Lifestyle Supper app ไว้เลยจ้า เชื่อว่านี่เป็นความพีคในช่วงปลายปีที่หลายคนตามหาอยู่แน่นอน

6.Fushimi Inari Taisha

ถ้าเอ่ยถึงวิวญี่ปุ่นที่คิดถึงกันทั้งที จะไม่มีทิวแถวมหกรรมเสาโทริอิสีแดงของศาลเจ้าจิ้งจอกแห่งเมืองเกียวโตได้ยังไง! ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งนี้นั้นเริ่มต้นสร้างขึ้นในปี ค.ศ.711 ก่อนที่พลังศรัทธาจะทำให้ที่นี่ค่อยๆ เกิดการต่อเติมขยับขยายใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน เสาโทริอินับหมื่นต้นความยาวเกือบ 4 กิโลเมตรของที่นี่นั้นได้จากการบริจาคของบรรดาผู้มีจิตศรัทธาซึ่งเริ่มมีมาตั้งแต่ในยุคโบราณ ที่สำคัญคือเทพเจ้าอินาริของศาลเจ้าแห่งนี้นั้นเป็นเทพแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยด้วยนะ มาแล้วอย่าลืมแวะมูด้วยล่ะ อย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพลิน!

7. Tomita Farm

แม้ช่วงฤดูร้อนนั้น ในโซนต่างๆ ของญี่ปุ่นอาจจะไม่ได้เป็นช่วงยอดนิยมของการท่องเที่ยวซักเท่าไหร่ แต่ที่ฮอกไกโดนั้นต่างออกไปจ้า เพราะนอกจากจะมีอากาศที่เย็นสบายแล้วนะ ที่นี่ยังมีฟาร์มดอกไม้ขนาดใหญ่ซึ่งจะถูกเคลือบคลุมไปด้วยสีสันสดใสของไม้ดอกนานาพันธุ์ ซึ่งโทมิตะ ฟาร์มนั้นนับเป็นหนึ่งในจุดชมดอกไม้ที่สวยที่สุดในฮอกไกโดเลยละ ที่นี่คือฟาร์มเก่าแก่ซึ่งมีประวัติยาวนานนับร้อยปี ด้านในแบ่งเป็นพื้นที่สวนดอกไม้และร้านอาหารนับสิบแห่งให้ได้แวะชมแวะชิมกัน ที่นี่จะเปิดให้เข้าชมกันตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูร้อนเท่านั้นน้า อย่าลืมแวะมาเช็คอินกัน

8.Sensoji Temple

แลนด์มาร์คหลักทั้งของญี่ปุ่นและโตเกียวซึ่งเกือบทุกคนต้องแวะไปเช็คอินกันซักครั้ง เพื่อจะได้ชมโคมแดงขนาดยักษ์ซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์หลักของเค้าเลยละ และนอกจากจะได้แวะมาไหว้พระเสี่ยงเซียมซีกันที่นี่แล้วนะ ความเด็ดของวัดเซ็นโซจิยังอยู่ที่บรรดาร้านค้ามากมายซึ่งอยู่ด้านใน ที่นับเป็นหนึ่งในย่านร้านค้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วยจ้า แผงลอยที่วัดนี้ยังมีเมนูเด็ดขึ้นชื่อให้แวะชิมกันอีกเพียบเลยนะ อยากได้ของที่ระลึกของฝากหลากหลายสไตล์ ก็มาช้อปกันได้ที่นี่เลยจ้า นี่คือพิกัดที่ควรต้องจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นกับ Traveloka Travel & Lifestyle Supper app มาเช็คอินกันซักที!

9.Kamikochi

พิกัดธรรมชาติแสนสวยทางตอนเหนือของเทือกเขาเจแปน แอลป์ ซึ่งขึ้นชื่อที่สุดในเรื่องความเขียวของป่าไม้ที่โอบล้อมลำธารสีฟ้าใสราวกับคริสตัลเอาไว้ได้งดงามลงตัวราวกับภาพวาดเลยเชียวละ ที่นี่เปิดให้สายเขียวได้เข้าไปเทรกกิ้งและแค้มปิ้งกันได้ตั้งแต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นนะ แถมการเที่ยวธรรมชาติที่นี่ยังแสนจะสะดวกสบาย เพราะมีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก หรือแม้กระทั่งออนเซ็นแช่เท้า เปิดให้เราได้ใช้บริการกันแบบสุดชิลล์เลยจ้า จะสายเขียวตัวจริงหรือมือใหม่หัดเขียวก็เชื่อว่าน่าจะประทับใจแน่นอน

10.Himeji Castle

1 ใน 3 ของปราสาทที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมจากยูเนสโก และด้วยความที่ตัวปราสาทนั้นเน้นการใช้สีขาวเป็นหลัก ปราสาทนี้จึงมีอีกหนึ่งฉายาว่าปราสาทนกกระยางขาวจ้า ที่นี่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1400 โน่นเลยนะ และแม้จะอยู่ยั้งยืนยงมาแล้วกว่า 600 ปี แต่ที่นี่ก็ยังคงงดงามสมบูรณ์ไม่บุบสลาย ช่วงเวลาที่เรียกว่าพีคสุดๆ ก็ต้องเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่มีดอกซากุระสีชมพูสวยหวานบานสะพรั่งอย่างละลานตา เป็นอีกพิกัดที่บอกเลยว่าคุ้มค่ากับการมาเยือนแน่นอน

11.Kinkakuji Temple

อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของเมืองเกียวโตซึ่งทุกคนที่จองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka Travel & Lifestyle Supper app มาแล้วคงไม่ยอมพลาด และเป็นพิกัดที่บอกเลยว่าสวยสุดๆ ในทุกฤดูกาลเลยละ ตัวอาคารวัดสีทองอร่ามของที่นี่นั้นจะตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติซึ่งเปลี่ยนสีสันไปในทุกฤดูกาล สีเขียวในฤดูร้อน สีชมพูของซากุระในฤดูใบไม้ผลิ สีแดงและส้มสดใสในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และสีขาวสะอาดตาในช่วงฤดูหนาว เลือกเอาได้เลยจ้ะว่าอยากเห็นวัดทองแห่งนี้ในสีสันแบบไหน!

12.Lake Kawaguchiko

เชื่อว่าที่นี่น่าจะเป็นพิกัดที่ยืนหนึ่งอยู่ในใจของเหล่าคนรักญี่ปุ่นทุกคนเลยเชียวละ ทะเลสาบคาวากุชิโกะนั้นนับเป็นพิกัดซึ่งนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนแดนปลาดิบทุกคนต้องปักหมุดไป เพราะนี่คือ 1 ใน 5 ทะเลสาบที่รายล้อมภูเขาไฟฟูจิ และที่สำคัญก็คือเป็นทะเลสาบที่เดินทางเข้าถึงได้ง่ายที่สุดด้วยจ้ะ ที่เด็ดสุดก็คือการเป็นหนึ่งในจุดที่ชมภูเขาไฟฟูจิได้สวยที่สุดเลยด้วยน้า ไม่ว่าจะจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นกับ Traveloka Travel & Lifestyle Supper app มาชมในฤดูกาลไหน ก็รับประกันความสวยแจ่มได้ทุกฤดูเชียวละ ปักหมุดจ้า ตรงนี้ไม่มาก็เหมือนไปไม่ถึงญี่ปุ่นจริงๆ

13.Kiyomizu Temple

วัดน้ำใสแห่งเมืองเกียวโตซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คหลักที่ไปถึงเมืองนี้แล้วจะพลาดกันไม่ได้ วัดนี้ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยพีคสุดๆ แห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเค้าเลยจ้า ช่วงฤดูซากุระก็ว่ากันว่าเด็ดไม่แพ้กันเชียวนะ นี่คือ 1 ใน 17 มรดกโลกของญี่ปุ่นเค้าด้วยจ้ะ แถมยังเป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งได้ชื่อว่ามีนักท่องเที่ยวไปเยือนเยอะที่สุดของประเทศเลยด้วยน้า ที่สำคัญอย่าลืมมามูกันด้วยล่ะ ที่นี่เค้าขึ้นชื่อในการขอพรเรื่องเรียน เรื่องความรัก และเรื่องสุขภาพจ้ะ มาแล้วอย่าพลาดเชียว

14.Jigokudani Monkey Park

เชื่อว่านี่ต้องเป็นหนึ่งในภาพจำที่ทำให้หลายคนยิ้มได้เมื่อนึกถึงประเทศนี้ กับภาพน้องลิงขนฟูสีน้ำตาลที่มีใบหน้าเปี่ยมไปด้วยเลือดฝาดสีชมพูแลดูสุขภาพดี ซึ่งจะมาเกาะกลุ่มกันนั่งแช่ออนเซ็นอุ่นๆ อยู่ท่ามกลางหิมะสีขาวสะอาดตา กลางหุบเขา Jigokudani Valley ในจังหวัด Nagano เค้าละ และเพราะที่นี่มีอากาศหนาวเย็น 1 ใน 3 ของปี เค้าจึงมีการสร้างบ่อออนเซ็นเอาไว้ให้เหล่าลิงได้ใช้แช่ต่างหากโดยไม่ปะปนกับบ่อออนเซ็นของคนซึ่งอยู่ในละแวกใกล้เคียงกัน ว่ากันว่านี่เป็นที่เดียวของโลกด้วยนะที่เราจะได้เห็นภาพแบบนี้ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเราถึงต้องมา!

15.Kintai Bridge

นี่คือสะพานซึ่งอยู่ใน Top 3 ของสะพานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นเลยละ ตัวสะพานนั้นทอดตัวข้ามแม่น้ำ Nishiki และที่น่าอเมซิ่งแบบสุดๆ ก็คือสะพานไม้ที่เต็มไปด้วยโค้งถึงห้าจุดแห่งนี้ แรกเริ่มเดิมทีถูกสร้างขึ้นโดยวิธีดั้งเดิมซึ่งไม่ใช้ตะปูเลยแม้แต่ตัวเดียวเลยจ้า แต่เมื่อเกิดภัยธรรมชาติทำลายไป จึงมีการบูรณะสะพานนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้งนะ แต่คราวนี้มีการนำตะปูพิเศษเข้ามาใช้ ซึ่งเป็นตะปูเหล็กแบบเดียวกับที่ใช้ตีเป็นดาบด้วยจ้ะ ทั้งสวยทั้งมีสตอรี่ที่ว้าวแบบนี้ ที่นี่จึงได้รับรางวัลมิชลิน สตาร์ 2 ดาว จากคู่มือมิชลิน กรีน ไกด์ ของประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ.2013 ด้วยนะ ช่วงซากุระว้าวสุดจ้า ปักหมุดมาได้เลย

16.Dotonbori

ย่านสุดฮ้อตใจกลางเมืองโอซาก้าซึ่งจะพลาดไปไม่ได้ ไฮไลท์ของย่านนี้ก็คือการมาถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะซึ่งถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์ค ตามมาด้วยร้านอาหารซึ่งมีเมนูเด็ดมากมายให้เลือกชิมกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านทาโกะยากิและโอโคโนมิยากิชื่อดังรสเด็ดที่ชิมแล้วจะติดใจ หรือจะเป็นการไปชิมเนื้อปูหวานๆ กันที่ร้าน Kani Doraku ซึ่งมีป้ายหน้าร้านที่ถือเป็นหนึ่งพิกัดต้องเช็คอินของย่านนี้เลยด้วยจ้า และที่พลาดไม่ได้ก็คือการแวะมาช้อปปิ้งสารพันข้าวของในย่านนี้ติดไม้ติดมือกลับไปด้วยนะ แค่คิดถึงก็เพลินแล้วละ รีบจองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka Travel & Lifestyle Supper app มาโอซาก้ากันไว้เลย

17.Shirakawago

หมู่บ้านชาวนาแบบโบราณและยังเป็นหมู่บ้านมรดกโลกที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายร้อยปี จุดขายของที่นี่ก็คือรูปแบบการก่อสร้างบ้านเรือนในสไตล์ Gassho-zukuri ซึ่งมีลักษณะหลังคาสูงแหลมคล้ายการพนมมือ เพื่อช่วยให้หิมะที่ตกลงมาเป็นปริมาณมากนั้นไม่ตกค้างอยู่บนหลังคาจนทำให้ตัวบ้านเกิดความเสียหาย ภายในหมู่บ้านมีทั้งจุดให้แวะถ่ายรูป ร้านขายของที่น่าสนใจ ร้านอาหาร ศาลเจ้า และที่พักสไตล์โฮมสเตย์ให้ใช้บริการกันจ้า ช่วงหน้าหนาวยามค่ำคืนจะมีการประดับไฟเพิ่มความสวยให้อัพเลเวลขึ้นไปอีกนะ เป็นอีกแหล่งเช็คอินที่ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง

18.Shibuya

ย่านธุรกิจสุดคึกคักใจกลางมหานครโตเกียวซึ่งไม่เคยหลับไหล กับจุดขายบริเวณห้าแยกชิบูย่าซึ่งดึงดูดให้เหล่านักเดินทางจากทั่วโลกต้องแวะมาเช็คอินด้วยตาตัวเองให้ได้กันซักครั้งเลยละ หลายคนรู้จักที่นี่ผ่านการเป็นโลเคชั่นของภาพยนตร์ชื่อดังหลายต่อหลายเรื่องมาเนิ่นนาน ที่สำคัญคือตรงนี้นั้นเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และพิกัดช้อปปิ้งเด็ดๆ ซึ่งบอกเลยว่ามาอยู่กันได้ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำไปเลยจ้า นี่คือพิกัดที่ต้องจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นกับ Traveloka Travel & Lifestyle Supper app มาโดนกัน!

19. Churaumi Aquarium

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในโลกด้วยจ้า อควาเรี่ยมแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะโอกินาว่า และในเวลาปกตินั้นมีผู้คนมาเยือนกันปีละกว่า 20 ล้านคนเชียวละ ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ของที่นี่ ก็ต้องยกให้กับ Kuroshio Marine Aquarium ซึ่งเป็นตู้ปลาที่มีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับความจุของสระว่ายน้ำโอลิมปิกถึง 3 สระ ที่ด้านในนั้นมีทั้งฉลามวาฬและกระเบนราหูแหวกว่ายให้ชมกันเต็มๆ ตา เหมือนเรากำลังดำดิ่งลงไปอยู่ใต้ทะเลจริงๆ เลยจ้ะ คนรักอควาเรียมพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

20.Ginzan Onsen

เมืองน้ำพุร้อนอันแสนสงบในอ้อมกอดขุนเขาของจังหวัด Yamagata แห่งนี้ คือหนึ่งในออนเซ็นที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่นเลยจ้า ที่นี่มีเรียวกังสไตล์ดั้งเดิมเรียงรายอยู่สองฝั่งแม่น้ำให้เลือกใช้บริการกันได้ เพิ่มบรรยากาศให้งดงามโรแมนติกยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการจำกัดให้บริเวณถนนใจกลางเมืองเป็นพื้นที่สำหรับเดินเท่านั้นจ้ะ ช่วงค่ำๆ จะยิ่งมีเสน่ห์น่าใส่ยูกาตะเดินเล่นกันสุดๆ เลยน้า เพราะทั้งถนนจะเต็มไปด้วยแสงไฟทำให้เกิดเป็นความสวยในอีกรูปแบบจ้ะ ยิ่งถ้ามีคนรู้ใจไปด้วยกันจะยิ่งฟินกับบรรยากาศกันแบบสุดๆ เลยเชียวละ คนรักออนเซ็นต้องมาให้ได้เชียว

นี่คือบางส่วนของพิกัดที่เราคิดถึงและโหยหาเมื่อนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นนะ แดนปลาดิบแห่งนี้ยังมีอีกหลายแลนด์มาร์คที่เราอยากชวนไปเช็คอินกันแบบแน่นๆ เลยเชียวละ และเชื่อว่าอีกไม่นานนี้ที่นี่จะกลับมาเปิดประตูบ้านให้เราได้เข้าไปเยือนกันอีกครั้งแล้วจ้า เตรียมตัวให้พร้อมแล้วรอกดจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นกับ Traveloka Travel & Lifestyle Supper app ไว้เลยน้า ญี่ปุ่นเปิดประเทศให้เราเข้าไปเที่ยวกันได้เมื่อไหร่ มั่นใจว่ากดตั๋วกันเดือดแน่นอน!

Shimafumi คาเฟ่น่ารักริมทะเล บนเกาะซาโดะ จ.นีงาตะ

🚗คิดถึงการขับรถเที่ยวญี่ปุ่น เลียบชายฝั่งทะเล เปิดกระจกรับลมชมวิว แล้วแวะพักที่คาเฟ่ กินของอร่อยแบบนี้จัง!!

🏝ตอนไปเที่ยว “เกาะซาโดะ จ.นีงาตะ” เราได้ขับรถเที่ยวรอบเกาะ มีคาเฟ่ริมทะเลอยู่ร้านนึงมันน่ารักมากกก และขนมปังของที่นี่ก็อร่อยมากเช่นกัน ร้านนี้คือ “ชิมะฟูมิ”

🥐ถือเป็นจุดแวะพักของนักท่องเที่ยวที่มาเกาะซาโดะ ตัวร้านเป็นบ้านเล็กๆริมทะเลน่ารัก มีเมนูเป็นขนมปัง เบเกอร์รี่ ที่เราชิมแล้ว บอกเลยว่าอร่อยทุกอย่าง เพราะจ.นี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องน้ำและข้าวอร่อย แน่นอนว่าต้องทำขนมปังอร่อยด้วย

🇯🇵ถ้าหมดโควิดแล้ว มีโอกาสได้ไปเที่ยวเกาะซาโดะ ก็อย่าลืมแวะร้านนี้กันนะ ดูบรรยากาศของร้านได้ในคลิปนี้เลยจ้า

🎞”ขับรถเที่ยวต่างจังหวัดญี่ปุ่น หาทอง ล่องเรือกะละมังที่เกาะซาโดะ Sado Niigata”
https://youtu.be/bkmEdnj7ALk

📍”ร้านชิมะฟูมิ” しまふうみ Shimafumi
105-4 Daisho, Sado, Niigata 952-0431
https://maps.app.goo.gl/wh9LF1U3EfhkMKcz6

ปล.เราไปตั้งแต่เดือนต.ค.2019 จ้ะ

📌Facebook post on Reiko.ws

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3427266457318261&id=200769936634612

#reikowsniigata #reikomeow #reikowsyoutube #niigata #sadoisland #เที่ยวญี่ปุ่นตงด้วยตัวเอง #ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น #นีงาตะ #เกาะซาโดะ #新潟県 #佐渡島

เที่ยวญี่ปุ่นตามรอย 8 โลเคชั่นละครและภาพยนตร์ ที่ Yamagata Sendai

ช่วงนี้ไม่ว่าใครก็คง เก็บตัวอยู่บ้าน มีโอกาส หนังละครซีรีย์ และที่ตอนนี้กำลังมาแรงมากๆเลยก็ต้องละครช่อง 3 เรื่องดั่งดวงหฤทัยนี่แหละ ที่พี่ติ๊กเจษฎาภรณ์กับคิมเบอร์ลี่เขาเล่นไง เพิ่งออกฉายตอนแรกทางช่อง 3 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2020 นี่เองกระแสตอบรับดีมากๆเลย

-ละครดี-1024x576

ดั่งดวงหฤทัย (2020)

เรื่องนี้เขายกกองไปถ่ายทำกันถึงภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเชียวนะ แน่นอนว่าไปไกลขนาดนี้ต้องมีวิวสวยๆ และโลเคชั่นเด็ดๆมาให้เราได้ดูกันแน่นอน ไปดูกันเลยค่ะว่ามีที่ไหนบ้าง

โลเคชั่นในจังหวัดยามากาตะ

1.ล่องเรือ Mogami River

DCIM100GOPROGOPR8999.JPGIMG_6344mogami_river_1

แม่น้ำโมกามิถือเป็นเส้นทางการคมนาคมที่สําคัญตั้งแต่ในสมัยก่อนของจังหวัดยามากาตะ ชาวบ้านจะขนของเพื่อค้าขายไปยังเมือง Sakata ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้ถูกใช้เป็นเส้นทางค้าขายหลักแล้วแต่ก็ยังขึ้นชื่อในฐานะ แม่น้ำสายท่องเที่ยวที่สามารถล่องเรือเพื่อชมความงามของธรรมชาติสองข้างทาง โดยสามารถชมได้ทั้ง 4 ฤดูกาลสวยงามแตกต่างกัน

mogami_river_2mogami_river_3IMG_6347

สำหรับการล่องเรือนั้นมีหลายแบบแตกต่างกันไปที่เราได้ไปขึ้นนั้นใช้เวลา 50 นาทีราคา 2,500 เยนและสามารถเลือกซื้อข้าวกล่องขึ้นมาทานเองได้

IMG_633920200122_12490189622963_498414614171741_2787823831148920832_n

และถึงจะเป็นฤดูหนาวแต่ก็สามารถนั่งชมวิวได้อย่างอบอุ่นเพราะมีโต๊ะ อุ่นขาหรือ Kotatsu ไว้บริการด้วย

สองข้างทางมีจุดชมวิวมากมายโดยใช้ซึ่งเป็นพนักงานที่อยู่ในเรือจะคอยอธิบายจุดถ่ายรูปต่างๆรวมถึงร้องเพลงโบราณแบบที่ชาวบ้านสมัยก่อนเขาร้องกันให้ฟังอีกด้วย

IMG_6376IMG_6374

ที่นี่ถูกใช้เป็นโลเคชั่นของละครเรื่องดั่งดวงหฤทัยและยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะโลเคชั่นของละครญี่ปุ่นที่โด่งดังอมตะ เรื่องโอชินนั่นเอง

2.Snow Monster และ Zao Onsen

SONY DSC

zao_snowmonster_2

Zao เป็นที่รู้จักกันดี เพราะมี Snow Monster ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หิมะก่อตัวกับต้นไม้จนกลายเป็นแท่งขึ้นมาเหมือนปีศาจท่ามกลางความขาวโพลน หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Juhyo นั่นเอง

20200123_115801-01

IMG_6663IMG_6676

และยังเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ทอีกมากมาย ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในฤดูหนาว

และที่นี่ยังมีออนเซ็นที่มีน้ำแร่ที่ดีมาก เก่าแก่ มีการค้นพบตั้งแต่ปี 110 ก่อนคริสตศักราช และยังเป็น 1 ใน 3 ของน้ำพุร้อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่น

received_321028385480214-01IMG_20200124_002205_391

น้ำพุร้อนของที่นี่ มีชื่อในการรักษาสภาพผิวและความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร นอกจากน้ำแร่จะดีแล้วบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งของที่นี่ยังสวยงาม ทำให้รู้สึกผ่อนคลายกับวิวที่สวยงามอีกด้วย และที่นี่ก็เป็นหนึ่งในโลเคชั่นถ่ายทำละครและภาพยนตร์หลายเรื่อง

zao_openairbathzao_openairbath_2

3 อาคารโรงพยาบาลเก่า Kyu – Saiseikan

87012596_536151353642713_1429326023316471808_n

อาคารโรงพยาบาลเก่าที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกนี้เป็นตึกที่ได้รับการอนุรักษ์ โดยย้ายมาจากสถานที่ตั้งเดิมมาตั้งไว้ที่นี่ เพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆและให้ความรู้

89775159_206163097159115_1951834006332899328_n

ตัวตึกมีความแปลก เพราะเป็นตึก 14 สี่เหลี่ยม ซึ่งแต่ละห้องก็เคยถูกใช้เป็นห้องตรวจรักษา และในปัจจุบันก็ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เพื่อให้ความรู้และเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์และละครต่างๆ

4.อาคารศาลาว่าการจังหวัดเก่า Bunshokan

89548689_185915989521476_602001870545747968_n89561318_189557202460943_6087821356999639040_n

อาคารอิฐสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองของอังกฤษที่เคยเป็นศาลาว่าการจังหวัดและหอประชุมสภาของจังหวัดยามากาตะ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น

89631900_186095292811754_6236491366482837504_n89792823_3049398835084904_4119547628901892096_n

ในตอนนี้ ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านของจังหวัดและเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำละครและภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิเช่น Rurouni Kenshin ภาพยนตร์ซามูไรของญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมฟรี

89785405_208201167051525_5694462761401057280_n

และยังมีภาพยนตร์เรื่อง Gravity of love (2018) ที่บอยปกรณ์กับเต้ยจรินพรแสดงนำ ซึ่งมีโลเคชั่นถ่ายทำที่เมืองเซนไดจังหวัดมิยางิด้วยนะ ซึ่งจังหวัดยามากาตะและมิยากินั้นอยู่ข้างกัน ดังนั้นเราจะนำมาแนะนำในบล็อกนี้ไปพร้อมกันเลยค่ะ

Gravity of love (2018)

โลเคชั่นในจังหวัดมิยางิ

5.Jogi Nyorai Saihoji Temple

89782595_2729714250482875_8908787384892522496_n

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งในหมู่ชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเอง ผู้คนนิยมมาสักการะขอพรเรื่องความรัก เอกลักษณ์ของที่นี่คือเจดีย์ไม้โบราณสูง 5 ชั้น ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่สันติสุขของมวลมนุษยชาติ

89261039_213559446692025_748517653282291712_n89782263_2785920508155758_984357799314063360_n

และรอบๆบริเวณนี้ยังคงสภาพเมืองเก่ามีร้านอาหารที่ขายเมนูท้องถิ่นมากมาย สามารถสัมผัสบรรยากาศ ในสมัยก่อนของเมืองเซนไดได้ที่นี่

IMG_7137

6.หินรูปหัวใจ Rai-raikyo Gorge Heart Shaped Rock

IMG_7402จุดชมวิวที่สะพาน Nozoki Bashi Bridge อยู่ในหุบเขาไรไรเคียว ซึ่งมีจุดเด่นคือ ร่องหินที่เป็นรูปหัวใจ ว่ากันว่าการมาขอพรความรักที่นี่จะช่วยให้สมหวัง เป็นจุดที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาถ่ายรูปกันด้วยล่ะ

7.เจ้าแม่กวนอิมใหญ่แห่งเซนได

20200125_095430

รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมใหญ่แห่งเซนได (Sendai Dai Kannon) มีความสูงถึง 100 เมตร ที่วัด Daikan Mitsu ji เราสามารถเข้าชมด้านในขององค์เจ้าแม่กวนอิมได้

20200125_10392820200125_102651

มีทั้งหมด 12 ชั้นจากด้านบนสุดสามารถมองเห็นวิวของเมืองเซนได และยังมีพระพุทธรูป รวมถึงพระโพธิสัตว์กวนอิมปางต่างๆให้ชมมากถึง 108 องค์ตามทางเดินจากบนลงล่าง และยังมีจุดให้ขอพรอีกมากมาย

DCIM100GOPROGOPR9353.JPG

20200125_10392820200125_10414920200125_10462720200125_102924สำหรับคนที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมห้ามพลาดเลยเพราะที่นี่มีเครื่องรางสวยๆน่าเก็บเป็นที่ระลึกไว้บูชาอีกด้วย

20200127_134809

8.ศาลเจ้า Shiogama Jinjya

20200125_12124120200125_124024

เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติยาวนานมากกว่า 1,200 ปีเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านมาตั้งแต่สมัยก่อน และยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสถานที่ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นในปี 2545

IMG_7515IMG_752983797378_3381508605209642_3340385422617346048_nด้วยความที่ตั้งอยู่บนเขาทำให้สามารถมองลงมาเห็นวิวจนถึงอ่าวมัตสึชิม่าได้ในวันอากาศดี และที่นี่ยังมีซากุระปลูกไว้มากมาย ทำให้ในช่วงซากุระบาน ประมาณเดือนเมษายน จะเป็นจุดชมซากุระที่ขึ้นชื่อมากๆ

ตอนนี้กรุงเทพฯและโทโฮคุก็ใกล้กันมากกว่าเดิมเพราะมีเที่ยวบินตรงของการบินไทย ไปลงที่เมืองเซนไดด้วย ดังนั้นคนที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวในภูมิภาคโทโฮคุ ในอนาคตในช่วงที่สถานการณ์ไวรัสดีขึ้นแล้ว ลองดูบล็อกนี้ของเรา แล้วไปเที่ยวตามรอยละครและภาพยนตร์ดังในจังหวัดยามากาตะและ จังหวัดมิยางิกันนะคะ

20200126_094952

และเรายังทำรีวิวทริปยามากาตะเซนไดไว้เป็น วีดีโอ YouTube อีกด้วยเข้าไปดูได้ที่นี่เลยค่ะ

ตามรอยละคร ที่ Yamagata Sendai!

และสามารถดูข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์นี้เลยค่ะ

Yamagata เที่ยวเมืองยามากาตะ ตามรอยละครเรื่อง ดั่งดวงหฤทัย

หลังจากที่สถานการณ์ไวรัสโคโรน่าดีขึ้นแล้ว ก็หวังว่าทุกคนจะลองดูเส้นทางยามากาตะเซนได เป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันนะคะ

20200122_144933-01

ลองชานมไข่มุก ในขวดกัมดั้มสุดเท่ ที่ Gandum Cafe อากิฮาบาร่า

🤩ชานมกันดั้ม!! ที่ญี่ปุ่นก็ฮิตชานมไข่มุกไม่แพ้เมืองไทยนะ แม้แต่คาเฟ่อนิเมะเท่ๆอย่างกันดั้มยังมีจ้าาา

😋ขายพร้อมขวดพลาสติก ราคา 1,320 เยน (เกือบๆ 400 บาท) มีขวดให้เลือก 4 ลาย และก็เลือกเครื่องดื่มข้างในได้ตามชอบ แต่ตอนเราไปเหลือแต่ลายสุดท้าย ลายเดียว แง๊~ จริงๆอยากได้ลายกันดั้มกับเมฆโฮคุไซมากกว่า

😚ส่วนเครื่องดื่ม เราเลือกชานมเกาลัด มันจะมีกลิ่นหอมๆมันๆเพิ่มเข้ามา รสชานมไม่หวานเกินไป ไข่มุกค่อนข้างหนึบและแข็ง แต่ก็ไม่ได้ทานยากเกินไป ถือว่าโอเคเลย เราเคยทานชานมไข่มุกที่ญี่ปุ่นมาหลายเจ้า โดยรวมที่ไทยอร่อยกว่า 5555 แต่ก็ซื้อเอาขวดอะนะ

📍พิกัด กันดั้มคาเฟ่ สาขาอากิฮาบาร่า ออกจากสถานีอากิฮาบาร่าก็เจอเลย อยู่ข้างๆ AKB48 Cafe เหฺนร้านเล็กๆแต่คนเต็มทุกโต๊ะ ชาวต่างชาติฝั่งแฟนกันดั้มก็เยอะนะ http://g-cafe.jp/akiba/

10 อย่างห้ามพลาดที่จ.อาคิตะในวันที่ไม่มีหิมะ เที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน

เมื่อพูดถึงจังหวัด “อาคิตะ” ส่วนใหญ่ก็คงจะนึกถึงบรรยากาศหนาวเย็น ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน สมกับเป็นเมืองเหนือ ภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่น เพราะขึ้นไปอีกนิดเดียวก็ฮอกไกโดแล้ว แต่จริงๆ แล้วการท่องเที่ยวจ.อาคิตะ ไม่ได้ทำได้แค่เพียงในฤดูหนาวเท่านั้นนะคะ ทั้งสี่ฤดูที่จ.อาคิตะ ต่างก็มีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป แม้ในฤดูร้อนก็สามารถท่องเที่ยวได้ สัมผัสประสบการณ์และสนุกสนานไปอีกแบบ เราได้ไปเที่ยวจ.อาคิตะ ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงกลางฤดูร้อนมาค่ะ เลยขอรวมรวม “10 อย่างที่ห้ามพลาดในจ.อาคิตะ เที่ยวญี่ปุ่นในฤดูร้อนก็สนุกนะ”

20190808_150551.jpg

1.ชมประเพณีปีศาจนามาฮาเกะ Namahage kan

IMG_0739

ที่เมืองโอกะ ในจ.อาคิตะ ในคืนวันสิ้นปีจะมีประเพณีที่ให้ชายหนุ่มในหมู่บ้าน แต่งกายเป็นปีศาจนามาฮาเกะ ออกมาเคาะประตูตามบ้าน เพื่อจัดการสั่งสอน เด็กๆ และคนที่เกียจคร้านไม่ยอมทำงานบ้านและตั้งใจเรียนหนังสือ ซึ่งประเพณีนี้ก็ยังสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน และไม่ต้องรอให้ถึงคืนวันสิ้นปี เราก็สามารถสัมผัสประสบการณ์นามาฮาเกะมาเยี่ยมบ้านได้ เพราะเค้ามีการจำลองให้ชมกันตลอดปี สามารถถ่ายภาพและถ่ายวิดิโอได้ แต่ห้ามใช้แฟลชนะจ๊ะ ที่สำคัญ ฟางที่ตกจากชุดของนามาฮาเกะ ถือเป็นเครื่องรางนำโชค และปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายอีกด้วย ถ้ามีโอกาสได้มา ก็อย่าลืมเก็บกลับไปเป็นที่ระลึกนะคะ

IMG_0729

 

2.เทศกาลแห่โคมไฟประจำปีสุดอลังการ Akita Kantou Matsuri

IMG_0863

เทศกาล Akita Kantou Matsuri เป็น 1 ใน 3 ท็อปเทศกาลใหญ่ของภูมิภาคโทโฮคุ ที่จะถูกในช่วงต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี ปิดถนนจัดกันบริเวณใจกลางเมือง เป็นเวลา 4 วันเต็ม คันโต แปลว่า โคมไฟ ตกแต่งอยู่บนหิ้งไม้ไผ่ขนาดใหญ่  ถูกยกขึ้นด้วยท่าทางต่างๆ ของผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี หิ้วโคมไฟขนาดใหญ่บางอัน หนักมาถึง 50 กิโลกรัม!! โดยผู้ที่ร่วมแสดงนี้มีตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุเลยทีเดียว ถือเป็นงานใหญ่ที่ชาวเมืองอาคิตะให้ความร่วมมือร่วมใจกันเป็นอย่างดี

71497555_469061487286935_473035006353080320_n

3.ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่นในวันที่ไม่มีหิมะ Tazawa Lake

20190806_160631.jpg

ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น คือลึกถึง 423.4 เมตร (เป็นอันดับที่ 17 ของโลก) ที่มีตำนานเล่าขานมานาน เกี่ยวกับรูปปั้นสีทองของหญิงสาวที่ชื่อว่า “ทัตสึโกะ” เธอเป็นคนที่อยากสาวและสวยตลอดกาล จึงไปขอพรกับเทพเจ้า ซึ่งเทพเจ้าก็บอกให้เธอไปดื่มน้ำจากบ่อวิเศษ แต่ด้วยความโลภ เธอดื่มมากเกินไป ด้วยความไม่รู้จากพอ จึงถูกสาปให้กลายเป็นมังกรเฝ้าทะเลสาบแห่งนี้นี่เอง ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวก็จะเห็นหิมะขาวโพลนปกคลุมรอบๆ ทะเลสาบ การได้มาฤดูร้อนก็จะได้เห็นวิวที่สวยไปอีกแบบ

 

4.ชมกระท่อมหิมะได้แม้ในฤดูร้อน Yokote Kamakura

IMG_1669

เมืองโยโกะเทะ จ.อาคิตะ ถือเป็นเมืองทีขึ้นชื่อเรื่องการทำกระท่อมหิมะ หรือที่เรียกว่า อิกกลู แบบของเอสกิโมนั่นแหละ ของขึ้นชื่อขนาดนี้ แน่นอนว่าไม่ต้องเป็นฤดูหนาว ก็สามารถเข้าชมได้ค่ะ เพราะเค้ามีจำลองคามาคุระ ในอุณหภูมิติดลบสิบกว่าองศา ให้ได้เข้าชมกันตลอดปี ไปสัมผัสประสบการณ์หนาวเย็นยะเยือกแบบนี้กันได้ที่ คามาคุระคังนะคะ

IMG_1676

5.เข้าไปดูบ้านคลังเก็บของโบราณที่ยังมีคนใช้ชีวิตอยู่ในนั้นจริงๆ Masuda Uchikura

20190807_143552.jpg

คำว่า “คุระ” แปลว่าโรงเก็บของ คุระโดยส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นจะถูกทากำแพงด้วยสีขาว ละมีหลังคาสีดำ พบได้ทั่วไปทั่วญี่ปุ่น แต่ “อุจิกุระ” ของที่นี่ มีความพิเศษคือ เป็นโรงเก็บของที่ตั้งอยู่ภายในบ้าน ไม่ได้ตั้งออกมาแยกจากตัวบ้านแบบที่อื่นๆ และที่สำคัญ อุจิคุระเก่าแก่ของที่นี่ยังถูกรักษาสภาพไว้เป็นอย่างดี บางแห่งยังมีผู้คนอาศัยอยู่ภายในนั้นจริงๆ ด้วย สามารถไปเข้าชมและถ่ายรูปกันได้เลยค่ะ

IMG_1744DCIM100GOPROGOPR2221.JPG

6.ใส่กิโมโนเดินชมบ้านซามูไรเก่าแก่สมัยสองร้อยกว่าปีก่อน Kaku no date

IMG_20190811_142529_461.jpg

ถ้าอยากสัมผัสเมืองเก่า เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสมัยซามูไรเฟื่องฟู ก็ต้องมาที่เมืองคาคุโนะดาเทะ เลย เพราะที่นี่เค้ามีโซนหมู่บ้านซามูไรเก่าแก่ กว่า 300 ปี ที่อนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จะแต่งกิโมโนหรือยูคะตะเดินถ่ายรูปเล่นก็ได้ เพราะมีร้านเช่าอยู่ใกล้ๆ และแน่นอนว่าคนไม่เยอะเท่าเมืองเก่ายอดฮิตอย่าง เกียวโต แต่ให้บรรยากาศที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นคนที่อยากได้รูปสวยๆ ต้องลองมาที่นี่เลย

20190807_0855574061941231576930753.jpg

7.ดื่มด่ำกับธรรมชาติ สูดโอโซนเต็มปอดที่ Yuzawa Geo Park

DCIM100GOPROGOPR2303.JPG

ถ้าเป็นสายเอ้าต์ชอบขึ้นเขา ชมธรรมชาติดูน้ำตก ก็ต้องมาที่ Yuzawa Geo Park เลย ตรงโซน “Oyasukyo Daifunto” ที่นี่มีทั้งน้ำตกจากธรรมชาติที่มีทั้งน้ำอุณหภูมิปกติ และน้ำแร่ออนเซ็น เท่าที่เห็น มีชาวญี่ปุ่นมาเดินเล่นออกกำลังกายกันไม่น้อยเลยค่ะ

20190808_095820.jpg

8.ชมภูเขาหินแร่สีขาวโพลน ต้นกำเนิดออนเซ็น

71373332_620171371850346_1954719150613987328_n

ภูเขาสีขาวสวยแปลกตานี้ คือ “Kawahara ke Jigoku” เป็นภูเขาหินที่ปกคลุมไปด้วยแร่กำมะถัน กลิ่นจะคล้ายๆ กับที่โอวาคุดานิ ที่คนไทยรู้จักกันดี สามารถเข้าชมได้ แต่ไม่แนะนำให้อยู่นานเพราะมีผลต่อทางเดินหายใจได้ ว่ากันว่าในสมัยก่อน พวกนักบวชและนักรบนิยมมาฝึกวิชาที่นี่

20190808_113948585527172269059815.jpg

9.ทดลองขุดน้ำแร่ออนเซ็นด้วยตัวเอง

20190808_143732.jpg20190808_143741.jpg

และที่ Yuzawa Geo Park  เรายังสามารถขุดน้ำพุร้อนที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาแช่เท้าได้ด้วยตัวเองอีกด้วย เป็นประสบการณ์แปลกใหม่เลยล่ะ โดยเค้าจะมีพลั่วให้ยืมฟรี เราสามารถเลือกจุดที่อยากขุดแล้วก็ช่วยกันขุดๆ ได้เลย โดยน้ำที่อยู่ด้านบนจะเป็นน้ำอุณหภูมิปกติ แต่เมื่อขุดน้ำแร่ใต้ดินขึ้นมา ก็จะผสมกัน เป็นน้ำแร่ที่สามารถแช่เท้าได้กำลังพอดี

DCIM100GOPROGOPR2508.JPG

10.ทานของอร่อย เมนูท้องถิ่นจ.อาคิตะ

20190807_190939_001-01.jpeg

จ.อาคิตะ นี่ขึ้นชื่อเรื่องมีสาวสวยอยู่เยอะ ถึงขนาดมีคำพูดที่ว่า “อาคิตะบิจิน” แปลว่า “คนสวยแห่งอาคิตะ” ซึ่งมาจากที่นี่อากาศดี น้ำสะอาด ทำให้ได้วัตถุดิบที่ดี ทำอาหารได้อร่อย ดีต่อผิวพรรณและสุขภาพนั่นเอง จะบอกว่าอาหารที่นี่อร่อยทุกมื้อเลยค่ะ และเมนูเด็ดที่ห้ามพลาดคือ “คิริทัมโปะ” หรือ ข้าวปั้นก้อน นั่นเอง จะทานแบบเปียก คือเอามาต้มเป็นซุป หรือ ทานแบบย่างแล้วราดซอสมิโซะ อารมณ์คล้ายๆ ข้าวจี่ของไทยเลย

IMG_1171

สำหรับเรื่องการเดินทางไปจ.อาคิตะนั้น สามารถทำได้ โดยขึ้นเครื่องบินจากกรุงเทพ ไปลงที่สนามบินฮาเนดะ แล้วต่อเครื่องภายในประเทศ ไปลงที่สนามบินอาคิตะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น ก็เริ่มต้นท่องเที่ยวกันได้เลย สำหรับคนทีชอบการเดินทางด้วยตัวเอง ขับรถเที่ยวก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะคะ ต่างจังหวัดญี่ปุ่น ถนนโล่งขับง่ายไม่ค่อยมีมอร์เตอร์ไซด์ ขับสนุกสุดๆ เลยค่ะ

20190805_074802.jpg

และเพื่อให้ทุกคนเห็นเสน่ห์ของจ.อาคิตะในแบบที่มาเต็มทั้งภาพและเสียง ก็ขอฝาก Akita Vlog ของเราทางยูทูปด้วยนะคะ

อยากให้ทุกคนลองหาโอกาสไปเที่ยวจ.อาคิตะดูนะคะ ไม่ว่าจะฤดูไหน ก็เที่ยวสนุกได้แน่นอนค่า

IMG_0799

ช่องทางการติดตามของเราจ้ะ ฝากด้วยน้าา Nice to Meet you, I’m Reiko Meow 🙂
facebook Page https://www.facebook.com/ReikoEditor/
instagram https://www.instagram.com/reiko_ws/
twitter https://twitter.com/reiko_ws
Blog https://reikobangkokneko.com/
youtube https://www.youtube.com/channel/UClDnQRFXD5kb9ueBKFRBBQw

 

เตรียมลุยโตเกียวโอลิมปิก 2020 หาบัตรและที่พักกัน!

นับถอยหลังไปอีกเพียงปีเดียว ก็จะถึงเวลาของการแข่งขันกีฬาของมนุษยชาติ “โอลิมปิก” แล้วววว คราวนี้ ชาวเอเชียน่าจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะประเทศเจ้าภาพคือ “ญี่ปุ่น” อยู่ไม่ไกลจากเมืองไทยเรานี่เอง แต่ได้ยินมาว่า ตั๋วเข้าชม และที่พักนั้น หายากมาก จองหมดล่วงหน้ากันไปเป็นปีๆ ที่ยังมีก็ราคาแรงเหลือเกิน แล้วจะมีบุญได้ไปดูโอลิมปิกกะเค้ามั่งมั้ยเนี่ยยยยย

20190725_150821-01.jpeg

ณ ตอนที่เรากำลังเลิกลั่กในการหาบัตรนั่นเอง ก็ได้ข่าวว่า กำลังจะมีการแถลงข่าวเรื่องการจำหน่ายบัตรชมโอลิมปิกสำหรับคนไทย เราเลยไ่ม่รอช้า ไปร่วมงานแถลงข่าว เพื่อคาบข่าวมาบอกต่อทุกคนนี่ล่ะ

PressCon for Media_๑๙๐๗๒๕_0007

โดยในงาน บ.เจทีบี (ประเทศไทย) ได้ประกาศทำสัญญารับสิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายบัตรชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน (Olympic) ครั้งที่ 32 แต่ผู้เดียวอย่างเป็นทางการ ให้กับผู้ที่พำนักอาศัยในประเทศไทย (ATR/ Authorised Ticket Reseller for Thailand) โดยตอนนี้มีรายละเอียดการจำหน่ายออกมาแล้ว ได้แก่…

PressCon for Media_๑๙๐๗๒๕_0001

บัตรเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 12:00 น.เป็นต้นไป
โดยเริ่มจำหน่ายออนไลน์บนเว็บไซต์ของ JTB Thailand (www.jtbthailand.com) และทาง https://www.jtbthailand.com/th/OlympicsTokyo2020/EBOOK/index.html

มีแพ็กเกจให้เลือกตามความชอบ ประกอบด้วยกีฬา 2 ประเภท โรงแรม 2 คืน และประกันการเดินทาง โดยมีทั้งสิ้น 59 แพ็กเกจ ใน 14 ประเภทกีฬา และราคาเริ่มต้นต่อแพ็กเกจอยู่ที่ 24,500 บาทต่อคน

20190725_145832-01.jpeg

ประเภทกีฬาที่เปิดจำหน่ายมีทั้งหมด 14 ชนิด ได้แก่ ・แบดมินตัน ・เบสบอล ・บาสเก็ตบอล
・วอลเล่ย์บอลชายหาด ・ฟุตบอล ・กอล์ฟ ・รักบี้・สเก็ตบอร์ด ・เทเบิลเทนนิส ・กีฬาปีนหน้าผา
・เทควันโด ・เทนนิส ・วอลเล่ย์บอล ・ยกน้ำหนัก
* สำหรับมวยสากลสมัครเล่นยังไม่เปิดจำหน่าย เนื่องจากยังไม่มีกำหนดการจากทางคณะกรรมการ
จัดงานโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิก 2020 ซึ่งทาง JTB Thailand จะมาอัพเดตภายหลัง

ทุกคนสามารถดูรายละเอียดของแพ็กเกจที่เปิดจำหน่ายได้ที่เว็บไซต์ของ
JTB (Thailand) https://www.jtbthailand.com/th/home/ได้เลยค่า

20190725_150638-01.jpeg

ตอนนี้เราก็ตื่นเต้นมากๆเลยละ ที่มหกรรมกีฬาครั้งใหญ่จะมาจัดที่ญี่ปุ่น ก็หวังว่าจะมีโอกาสได้ไปร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นในฐานะคนทำงานด้านใดก็ตาม ทั้งพิธีกร, ล่าม, ผู้นำเที่ยว, คอลัมนิสต์, รีพอร์ทเตอร์… ช่วงซัมเมอร์ปีหน้า ยังว่างจ้างได้นะคะ อิอิ พี่สมรักษ์เค้าบอกว่า “ไม่ได้โม้” เราก็ขอ “ไม่โม้ด้วยคน พูดจริง ขอจริง อยากได้งานค่ะ” ฮ่าาาาาา ทุกคนก็เตรียมตัวเตรียมตังค์ให้พร้อม แล้วลุยยยย!!!

20190725_150202-01.jpeg

เที่ยวโอซาก้า 1 วัน กินเที่ยว ที่เดียวเอาอยู่ใน Grand Front Osaka

เมื่อพูดถึงเมืองยอดนิยมในญี่ปุ่นที่คนไทยนิยมมาเที่ยวกัน “โอซาก้า” ต้องเป็นอันดับแรกๆ สูสีกับโตเกียวอย่างแน่นอน ที่โอซาก้า ไม่ว่าจะชอบช้อปปิ้ง หาของกิน เที่ยวสวนสนุก ก็มีให้เลือกทำทุกอย่าง และในบล็อกนี้เรามีที่ท่องเที่ยวดีๆ มาแนะนำทุกคนกันด้วยล่ะ คนที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวโอซาก้า ห้ามพลาดเลยนะคะ!!

grand front 1

Grand Front Osaka เป็นห้างใหญ่ที่มีร้านเด็ดๆ ดังๆ จากทั้งในญี่ปุ่นเอง และจากต่างประเทศมากมายมาเปิดสาขาที่นี่ มากกว่า 270 ร้าน จุดเด่นคือ เนื้อที่ของแต่ละร้านกว้างมากกว่าห้างในสถานีรถไฟทั่วไป ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงคอนเซปต์ของแบรนด์เป็นอย่างดี และสำหรับคนที่ชอบเที่ยวโต้รุ่งยันเช้า ที่ตึก North ชั้น 6 มีโซน “ที่พักผ่อนสำหรับผู้ใหญ่” เปิดให้บริการถึงตี 4 ของอีกวัน จะช้อปปิ้งก็ได้ หาของกินก็ดี จะมาดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ ก็ลงตัวที่สุด เพราะอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า ย่านอูเมดะ ซึ่งคราวนี้เราจะมาแนะนำ Grand Front Osaka ให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้นค่ะ

การเดินทาง

ออกจากสถานี JR Osaka  เมื่อเดินผ่านที่ลานกว้าง Atrium ทางประตูทิศเหนือก็จะเจอเลย และยังมีมีทางเชื่อมที่ชั้น 2 ด้วย ถึงฝนตกหรือหนาวจัด ก็เดินได้สบายๆ เลยค่ะ

และในห้างก็มีโรงแรมด้วยนะคะ ที่ตึกทิศเหนือของ Grand Front Osaka มีโรงแรมหรู 5 ดาวอยู่ด้วย นานๆ ทีลองให้รางวัลตัวเองด้วยการมาพักที่โรงแรมหรูดูบ้างสิ

Intercontineltal Hotel Osaka นี้ตั้งอยู่ติดกับห้าง Grand Front Osaka เดินจากสถานีรถไฟ JR Osaka เพียง 5นาทีเท่านั้น มีทั้งฟิตเน็ส 24 ชั่วโมง, สระในร่ม และยังมีไวไฟฟรีทั้งโรงแรม เราพามาดูห้องที่อยู่สูงที่สุดของโรงแรม โอ้โหววววว หรูหราดูดี แถมยังวิวสวยมากๆ มองเห็นวิวเมืองโอซาก้าจากมุงสูง ในห้องมีทุกอย่างครบครัน ทั้งครัว, ห้องนั่งเล่น, ระเบียง แถมยังมีเครื่องซักผ้าและห้องเปลี่ยนชุดอีกด้วย ถึงชีวิตจริงจะไม่มีโอกาสอยู่ห้องใหญ่หรูหราแบบนี้ แต่ที่นี่ก็อาจจะช่วยเติมเต็มความฝันของเราได้นะ อิอิ

intercon 1intercon 2intercon 10intercon 9intercon 6intercon 7

ร้านอาหาร Pierre บนชั้น 20 ในโรงแรมเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่ได้ดาวมิชลิน ที่นี่ เราสามารถลิ้มรสอาหารแสนอร่อยและดื่มด่ำกับวิวโอซาก้าสวยๆ ไปพร้อมกัน พนักงานก็มีมารยาทและบริการดี ถึงจะแพงหน่อย แต่ให้ราลวัลตัวเองด้วยร้านหรูๆ ซักมื้อก็ดีเหมือนกันนะ

pierre 1.jpg

มาลองดูร้านอาหารต่างๆ กันบ้าง ในตึก Grand Front Osaka มีร้านอาหารและร้านนั่งดื่มน่าสนใจมากมาย และนี่คือร้านที่เราอยากแนะนำค่ะ

เพื่อนๆ รู้จัก “ฮิซึมาบูชิ” มั้ยคะ เป็นเมนูที่ประยุกต์ปลาไหล ให้ทานได้หลายแบบหลายรสชาติในมื้อเดียว ด้วยการเติมเครื่องปรุงรส ซึ่งร้าน Hitsumabushi Bincho นี้ เลือกเนื้อปลาไหล หนังนิ่มมีมันติดนิดหน่อย ย่างด้วยไฟอ่อน ให้ความอร่อยของปลาไหลออกมามากที่สุด ใครได้มาทานก็บอกว่าอร่อยมากทั้งนั้นเลยล่ะ

hitsumabushi 1hitsumabushi 2hitsumabushi 3

อย่างที่บอกว่า เมนูนี้ประยุกต์ทานได้หลายแบบ สำหรับคนที่ไม่เคยทานมาก่อน เค้าก็มีป้ายแนะนำวิธีการทาน เป็นภาษาจีน, อังกฤษ, เกาหลี โดยมีวิธีทานทั้งหมด 3 แบบ ก่อนอื่นทานแบบเปล่าๆ ไม่ต้องปรุงรสก็อร่อย ซึ่งวิธีการทานอีก 2 แบบก็คือ เอาปลาไหลจิ้มวิซาบิและเนงิ และอีกแบบคือ ผสมสาหร่าย, เนงิ, วาซาบิ และปลาไหลเข้าด้วยกัน เป็นข้าวคลุก แถมท้ายด้วยการเติมน้ำซุปลงไป อร่อยร้อนๆ ชุ่มคอดี ซึ่งไม่ว่าจะทานแบบไหนก็อร่อย อยากให้ลองทานกันนะคะ

hitsumabushi 4hitsumabushi 5hitsumabushi 6

ร้าน BBQ33 สำหรับร้านนี้เราแนะนำให้ไปตอนมื้อค่ำ เพราะร้านเปิดถึงตี 4 ของวันถัดไป จะนั่งคุยกับเพื่อนยาวๆ ก็ได้ ในร้านตกแต่งสวยมาก มีสระว่ายน้ำด้วย เราจะได้สัมผัสบรรยากาศการทานบาบีคิวริมสระ ใจกลางเมืองใหญ่ ถ้าไม่ได้ยินพนักงานพูดภาษาญี่ปุ่น อาจจะนึกว่านั่งอยู่แถวชายทะเลประเทศตะวันตกไปแล้ว

bbq33 1bbq33 2bbq33 3

เมนูมีทั้งบาบีคิว, อาหารตะวันตก เป็นร้านอาหารที่ใกล้เคียงกับความเป็นบาร์ มี Tapas ทั้งหมด 33 ชนิด เป็นที่มาของชื่อ BBQ33 และยังมี Appetizer มากถึง 33 ชนิดอีกด้วย เพลินทั้งทูอินวัน นั่งเพลินๆ ถ่ายรูปสวย แถมอาหารยังอร่อยอีกด้วยล่ะ

bbq33 4bbq33 5

THEODOR TEA STAND ร้านนี้อยู่ใน Grand Front Hotel Osaka ตึก South ชั้น 2 เป็นสาขาของร้านชาจากฝรั่งเศส THEODOR มีชาหลายชนิด ทั้งชาโฮจิ, เซนฉะ และยังมีเครื่องดื่มแบบลิมิเต็ด จำกัดเฉพาะฤดูกาลด้วย แถมยังใจกว้าง มีที่นั่งสำหรับชาร์จแบตได้ด้วยthe door 1the door 3

เมนูที่น่าลอง เมนูแรก คือ Strawberry Passion Mamonde เป็นชาแช่เย็น ใส่สตรอว์เบอร์รี่และแพชชั่น ให้รสหวานลงตัวกับชาได้พอดี อีกเมนูที่อยากให้ลองคือ Melange Du Jardin De Maman เป็น Flovored Herb Tea ที่มีรสหวานอมเปรี้ยวเป็นจุดเด่น เป็น Tea Frozen ที่ใส่ผลไม้เยอะจุใจ

the door 2the door 4

และที่พนักงานแนะนำ คือ Peche Mignon เป็นเครื่องดื่มชาเขียวที่มีกลิ่นเมล่อนและพีชผสมอยู่ด้วย กลิ่นผลไม้หอมๆ จะค่อยๆ ตามมาตอนหลัง ช่วยให้ผ่อนคลายใครที่ติดใจชาจากร้านนี้ก็สามารถซื้อกลับบ้านได้ แพ็กเก็จสวย จะซื้อกลับไปเป็นของฝากก็ดีนะคะ

the door 5.jpg

The Lab. Café ถ้าอยากนั่งคาเฟ่ต์แบบชิลๆ พักผ่อนได้ ต้องที่นี่เลย จะมาทานอาหารเช้าที่นี่ก็ได้ เพราะเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า มีหลายแบบให้เลือก ในรูปคือเซ็ตขนมปังทาเนย แยมสตอรว์เบอร์รี่, สลัดผัก และกาแฟ ขนมปังทาเนยและแยมที่นี่เป็นแบบหวานน้อย เข้ากับกาแฟได้เป็นอย่างดี

the lab 1the lab 2

ส่วนอาหารเช้าอีกแบบคือ เซ็ตขนมปัง, เนย, ไข่, สลัดผัก และชา ขนมปังมันนิ่มมากเข้ากับเนยได้ดี และที่สำคัญคือ ราคาค่ะ เพียงเซ็ตละ 500 เยนเท่านั้น ทั้งราคาดีแถมยังอร่อยทำให้ร้านนี้มีคนแน่นตลอดเลยค่ะ

the lab 3the lab 4

นอกจากคาเฟ่ต์แล้ว ที่ชั้น 2 – 3 ของที่นี่ยังมีสถานที่จัดแสดงศิลปะThe lab.อีกด้วย พอได้เข้าไปข้างในแล้วรู้สึกเหมือนเข้าไปโลกแห่งอนาคตเลยล่ะ ที่นี่เปิดโอกาสให้ศิลปิน, นักเรียนนักศึกษา รวมถึงบริษัททั่วไป ได้มาแสดงผลงาน, ทำกิจกรรมที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยล่ะ และไม่ใช่แค่ดูอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามรถทดลองทำด้วยตัวเองได้ด้วย

the lab 7the lab 8

ที่เราสนใจเป็นพิเศษ คือ หน้าจอที่สามารถทดลองเสื้อผ้าได้แบบ VR และงานศิลปะที่ผสมผสาน อนาล็อกและดิจิตอลเข้าด้วยกัน ในแบบญี่ปุ่น น่าจะเหมาะกับชาวต่างชาติที่สนใจเรื่องราวของญี่ปุ่นนะคะ และนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ได้ทดลองอีกมากมาย ถึงจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น แต่ก็สามารถสนุกได้ทุกคน

the lab 5the lab 6

ASICS Store Osaka สำหรับคนที่ชื่นชอบรองเท้ากีฬา ต้องรู้จักแบรนด์นี้แน่นอน ซึ่งร้านสาขา Grand Front Osaka นื้ถือเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในแถบญี่ปุ่นตะวันตก มีรองเท้ากีฬาแบบแหวกแนวให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดวิ่ง หรือคนที่เป็นโปรแล้ว ก็สามารถหารองเท้าถูกใจที่นี่ได้ มีเครื่อง FOOT ID ที่จะวัดขนาดของเท้าเราแบบสามมิติ วัดได้ทั้งขนาดของเท้าแบบละเอียด Static Foor ID และวัดการเคลื่อนไหวของเท้าขณะวิ่งแบบ Dynamic Foot ID ได้ด้วย ซึ่งพอเราวัดขนาดเท้าทั้ง 2 แบบนี้เสร็จ ก็เอาไปประกอบการเลือกรองเท้าที่มีในร้านมากกว่า 150 แบบ รับรองว่าต้องเจอคู่ที่เข้ากับเท้าเราแน่นอน

asics 1asics 2asics 3asics 4

และยังมี Running Lab ซึ่งทีมงานจะแนะนำการเลือกรองเท้ากีฬาให้เราอย่างใกล้ชิด และตอนนี้ยังมีคอลเลคชั่นพิเศษ ลิมิเต็ดโอลิมปิกจำหน่ายด้วย ถ้าอยากหารองเท้าสวยๆ ดีต่อสุขภาพละก็ แนะนำให้ลองมาที่นี่เลย

asics 6asics 7asics 8
สำหรับคนที่เป็นสาวกของ G-SHOCK ถ้ามาญี่ปุ่นละก็อย่าพลาดสอยกลับไปซักเรือนสองเรือนนะ ซึ่งที่ร้าน G-SHOCK สาขา Grand Front Osaka นี่ มีรุ่นและแบบสวยๆ ให้เลือกเยอะมากเลยล่ะ นอกจากจะดูดีแล้วยังมีคุณสมบัติที่ใช้ง่ายได้อีกมากมาย และถ้าใครมีนาฬิกาที่เสียหรืออยากจะเปลี่ยนถ่าน ที่นี่ก็มีให้บริการซ่อมแซม ดูแลหลังการขายด้วยนะ

g shock 1g shock 2g shock 3g shock 4g shock 5g shock 6
Mercedes Me & Down Stair Café มีคาเฟ่ต์ของเบนซ์ที่นี่ด้วยนะ ซึ่งตัวร้านจะเป็นแบบเปิดโล่ง สามารถเข้าจากทางไหนก็ได้ โดยภายในแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของร้าน Mercedes Benz และ Downstairs Coffee ส่วนของโชว์รูปนั้นมีรถสวยๆ โชว์ให้เราได้ดูอย่างใกล้ชิด

benz 1benz 2
ไอเท็มที่น่าสนใจ คือ ขวดแบบเก็บได้มั้งความร้อนและความเย็น และตรงปากจะกว้าง เพื่อให้ใส่น้ำแข็งได้ แถมยังเก็บอุณหภูมิได้ถึง 6 ชั่วโมง

benz 7.jpg

ตุ๊กตาหมีที่มีโลโก้อยู่ตรงหน้าอก ดูหรูหราน่ารักเหมาะจะใช้เป็นเครื่องเพิ่มความไฮโซให้กับกุญแจรถเรามากๆ เลยล่ะ

benz 5.jpg

นอกจากนี้ยังมีไอเท็มเกี่ยวกับกอล์ฟอีกด้วย ซึ่งที่นี่มีสินค้าเกี่ยวกับเบนซ์อีกมากมาย ที่ไม่ได้เกี่ยวกับรถยนต์เท่านั้น

benz 3benz 4benz 6benz 8

ในส่วนของคาเฟ่มีอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิดให้บริการ ถึงจะดูหรู แต่ราคาไม่ได้แพงกว่าคาเฟ่ทั่วไปเลยนะ โดยที่ร้านนี้มีลูกค้ามาใช้บริการแต่เช้า เพราะมีเมนูอาหารเช้าด้วย ถ้ามีโอกาสก็ลองไปนั่งจิบชาดูบรรยากาศกันนะคะ

benz 9benz 10benz 11benz 12benz 13
ที่ตึก North ชั้น 4 มีโซนที่คนรักจักรยานและการตกปลาต้องถูกใจแน่ๆ เพราะที่นี่คือ Shimano Square ที่มีคาเฟ่ต์ และโซนจัดแสดงไอเท็มเกี่ยวกับจักรยานและการตกปลาเอาไว้ ทำให้เราได้ทึ่งกับเทคโนโลยีเจ๋งๆ ของญี่ปุ่นโดยบ.Shimano

shimano 1shimano 2shimano 3shimano 4shimano 5

และในโซนคาเฟ่ต์นอกจากจะม่อาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังมีนิตยสารและหนังสือของวงการจักรยานและวงการตกปลาเอาไว้ให้ดูเพลินๆ อีกด้วย

shimano 6shimano 7shimano 8

นอกจากจะมีร้านน่าช้อปน่ากินมากมายแล้ว ที่นี่ยังมีฟรีไวไฟทั่วทั้งห้าง จะไลน์หรือโทรหาเพื่อน รับส่งออเดอร์ก็สะดวกสบาย และสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แทบทุกร้านทำเรื่องคืนภาษีได้ด้วยค่ะ ประหยัดได้เยอะเลย

และถ้าเดินในห้างยังไม่จุใจ อยากจะไปเที่ยวตรงอื่นในย่านอูเมดะบ้าง ที่นี่เค้าก็มีป้ายรถเมล์ให้บริการอยู่ที่ตึก South และ North  ซึ่งค่าบริการต่อเที่ยวอยู่ที่ 100 เยน แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบเหมา 200 เยน จะขึ้นลงที่ไหนกี่ครั้งก็ได้ใน 1 วัน โดยรถบัสนี้จะวนในย่ายอูเมดะ มีทั้งห้าง Hankyu 3rd street, Uniqlo สาขาที่ใหญ่ที่สุดในคันไซ, Loft, ห้าง Hanshin Umeda เรียกได้ว่าใช้เวลาทั้งวันละลายทรัพย์ ซื้อของก่อนกลับไทยได้ในย่านนี้ทั้งวันยาวๆ เลย

service 1service 2service 3service 4

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ Grand Front Osaka เท่านั้น ถ้าอยากรู้ว่ายังมีอะไรดีอีก ก็ต้องมาลองเที่ยวด้วยตัวเองดูนะคะ ก็หวังว่าทุกคนจะสนุกสนานกับการเที่ยวญี่ปุ่น แล้วอย่าลืม ถ้ามาเที่ยวโอซาก้า ก็ต้องแวะมา Grand Front Osaka นะคะ

illumination.jpg

วิ่งมาราธอนเลียบหาดที่ภูเก็ต เล่นโยคะกลางสวนกับ Roxy Run & Yoga 2018

ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นคนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มอะไรมากมาย แต่ก็ชอบงานอีเว้นต์สนุกๆ เกี่ยวกับกีฬานะ ล่าสุดทางแบรนด์ Roxy เค้าก็เพิ่งจัดงาน Roxy Run & Yoga 2018 ที่ภูเก็ตไป แล้วเราก็มีโอกาสไปร่วมงานนี้ในฐานะบล็อกเกอร์ด้วย เย้!! ถือเป็นปีที่ 2 แล้วที่ได้ไปร่วมงานนี้ ซึ่งปีที่แล้วก็หกล้มกลางงานวิ่งขาเป๋กลับกทม. แต่ปีนี้เราจะไม่ซ้ำรอยเดิมแล้ว!! เอาล่ะ จะเป็นยังไง มาๆ เราจะเล่าให้อ่านกันนะ

งานนี้ ตอนแรกเค้ามีทาร์เก็ตเป็นผู้หญิงที่รักสุขภาพและการออกกำลังกายค่ะ เลยนำเอาการวิ่งมาราธอนแบบฟันรัน (ประมาณ 5 กม.) และเวิร์กช้อปโยคะมารวมกัน มีทั้งสาวๆ จากทางบ้านที่สมัครเข้ามาร่วมงาน, ผู้โชคดีจากกิจกรรมและสื่อมวลชน, บล็อกเกอร์แบบเรานี่แหละ ซึ่งในปีนี้ก็ได้ขยายทาร์เก็ตให้มีผู้ชายเข้าร่วมด้วย ดังนั้นจึงมีดาราเซเล็บหนุ่มหล่อล่ำมาร่วมงานเป็นสีสันหลายคนเลย

20180818_110913.jpg

ทริปนี้เราเดินทางจากกรุงเทพไปยังภูเก็ตด้วยเที่ยวบินของสายการบิน Bangkok Airways เมื่อไปถึงปุ๊บ เค้าก็พาชาวคณะไปช้อปปิ้งหาไอเท็มทะเลๆ ใส่กันที่ร้าน Roxy, Quiksilver ที่ศูนย์การค้าจังซีลอน มีของสวยๆ เพียบ ทั้งชุดว่ายน้ำ, กระเป๋า เสื้อผ้าแบบบีชและสตรีทที่ใส่ได้ตลอดปี เหมาะกับอากาศเมืองไทยบ้านเรา แน่นอนว่าเราก็ได้ของมากับเค้าด้วย อิอิ

IMG_20180818_124456_072.jpg

จากนั้นเข้าเช็กอินที่พัก Thavorn Palm Beach Resort เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงมานาน ปัจจุบันดูแลโดยทายาทผู้บริหารรุ่น 2 รีสอร์ทแห่งนี้ขึ้นชื่อว่า เต็มไปด้วยธรรมชาติ ทั้งต้นไม้ และสัตว์นานาชนิดที่เปิดโอกาสให้แขกที่มาพักได้พบปะอย่างใกล้ชิด เช่น นก, เต่า, กระต่าย เป็นต้น และยังมีพื้นที่มากพอให้พวกเราได้ทำกิจกรรมเล่นเกมตามฐานต่างๆ ในบริเวณสวนของโรงแรม ชิงรางวัลเป็นบัตรกำนัลสุดพิเสษมากมายอีกด้วย

20180820_101804.jpg

20180818_175450.jpg

DSC01727

IMG_20180818_172806_958.jpg

DSC01754

DSC01796

หลังจากสนุกกับกิจกรรมแล้ว เราก็ขึ้นไปพักผ่อน อาบน้ำแต่งตัวเพื่อลงมาร่วมงานดินเนอร์ ที่จัดบริเวณสระน้ำของโรงแรม มีการแสดงดนตรีสด และเวิร์กช็อปการทำผ้าบาติกให้ทดลองอีกด้วย ซึ่งในคืนแรกนี้ยังเป็นบรรยากาศชิลๆ สบายๆ อยู่ เพราะทุกคนต้องออมแรงไว้เพื่อตื่นมาวิ่งในเช้าวันถัดไป

IMG_20180825_201203_163.jpg

หลังจากที่พักผ่อนกันเต็มที่ทั้งคืน ก็ถึงเวลาที่จะได้สนุกกับงานมาราธอนและโยคะแล้ว เราเดินทางออกจากโรงแรมประมาณตี 5 เพื่อมาที่สวนสาธารณะแหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นจุดชมวิวชื่อดังของภูเก็ต

20180819_064112.jpg

DSC02061

บรรยากาศในตอนเช้าสดชื่น วิวที่ทองไปเห็นแหลมพรหมเทพนั้นช่างสวยงาม เปลี่ยนไปตามปริมาณแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆ สาดส่องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนวอร์มอัพด้วยการเต้นตามครูอย่างพร้อมเพรียง และในที่สุดก็ถึงเวลาปล่อยตัว สตาร์ท!!!

DSC02106

ระยะทางเพียง 5 กิโลกว่านั้นๆ เหมือนจะไม่ไกล สำหรับคนที่ฝึกซ้อมบ่อยๆ แต่ในงานนี้ก็มีผู้เข้าร่วมที่ไม่ใช่นักวิ่งมือโปรอยู่ไม่ใช่น้อย (เราก็ด้วย) เมื่อต้องวิ่งไปตามทางขึ้นลงภูเขาเป็นเนินแล้ว มันก็ทำให้เหนื่อยไม่ใช่เล่นกันเลย มีหลายคนที่วิ่งไม่ไหว จนต้องถูกรถพยาบาลของเจ้าหน้าที่ที่คอยซัพพอร์ทเก็บไปพักผ่อน แต่คนที่ยังไหวก็ยังพยายามกันต่อไป

1538303645473.jpg

(ขอบคุณภาพจากเพจ วิ่งตามใจ)

20180819_073753-01.jpeg

20180819_073714.jpg

สิ่งที่ทำให้ใจชื้นได้ ก็คือลมเย็นๆ ที่พัดมาจากทะเล และวิวสองข้างทางที่สวยสบายตา จนทำให้อยากมองไปข้างหน้าเรื่อยๆ นี่แหละ ไฮท์ไลท์คือ การวิ่งเลียบชายหาดก่อนถึงเส้นชัย สวนสาธารณะหนองในหาน บรรยากาศริมทะเลยามเช้านั้นมันสวยมาก จนสาวๆ ที่มาเข้าร่วมต่างอดใจไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกกัน จนถืมไปเลยว่า อีกนิดเดียวก็เส้นชัยแล้ว ฮ่าๆๆๆ ผู้หญิงก็ยังงี้แหละเนอะ ออกกำลังกายทั้งที ต้องมีรูปด้วยสิ

20180819_075323-01.jpeg

DSC03628

DSC03651

และตรงบริเวณเส้นชัย หลังจากรับมอบเหรียญแล้ว ทุกคนก็ได้เพลิดเพลินกันการช้อปปิ้งสินค้าราคาพิเศษ และไอเท็มแฮนด์เมดมากมาย รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มด้วย ก่อนที่จะเริ่มต้นคลาสโยคะสุดพิเศษ โดย “ครูเอก” ครูสอนโยคะชื่อดังเจ้าของโรงเรียน Yoga and Me

20180819_080227.jpg

และถึงแม้ว่าเริ่มต้นคลาสไปได้ไม่นาน ฝนก็กระหน่ำเทลงมา จนทำให้ต้องหยุดพักคลาสไปพักใหญ่ แต่เมื่อฝนซาลง สาวๆ รักสุขภาพ ต่างก็ไม่ย่อท้อ กลับมาเริ่มต้นการฝีกโยคะกับครูเอกท่ามกลางบรรยากาศเย็นช่ำฉ่ำหลังฝนตก งานนี้ถึงจะเปียกปอนไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับประสบการณ์ที่ได้รับเลยค่ะ

DSC03773

ช่วงบ่ายหลังจากเสร็จงานวิ่ง ก็เป็นเวลาฟรีไทม์ ใครจะไปเรียนเซิร์ฟที่โรงเรียนบนหาดกะตะ ทีมงานเค้าก็พาไป ใครอยากจะนอนเล่นพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมก็ได้ เราน่ะเหรอ… นอนสิคะ ถามได้ ฮ่า ไม่ใช่ขี้เกียจนะ แต่ได้มาพักที่โรงแรมดีๆ ทั้งที ก็อยากจะใช้เวลาพักผ่อนที่โรงแรมซะหน่อย ก็นั่งทำงานในห้องแล้วออกไปเดินเล่นดูสวนดูสระว่ายน้ำเพลินดีค่ะ

พอตอนค่ำก็ไปร่วมงานปาร์ตี้ส่งท้ายอีเว้นต์ที่ Phuket Surf House ร้านอาหารที่ให้เราดูคนเล่นเซิร์ฟไปได้พร้อมๆ กับฟังเพลงเพลินๆ ในงานมี โตโน่ และวง The Dust มาเล่นโชว์ให้ดูด้วย (มีแฟนคลับตามมากรี๊ดด้วยล่ะ) เมื่อถึงเวลาอันสมควรก็กลับที่พัก พักผ่อนให้สมกับที่ทำกิจกรรมสนุกๆ มาทั้งวัน

20180819_1926248775894704108272430.jpg

DSC04279

DSC04409

DSC04431

วันสุดท้ายแล้วของทริปนี้ วันนี้ค่อนข้างฟรีสไตล์ เพราะแยกไฟลท์กันกลับกัน ไม่มีตารางอะไรแล้ว เราก็ลงมาทานอาหารเช้าในโรงแรมเสร็จแล้วยังไม่อิ่มค่ะ เลยเดินมาตรงหน้าโรงแรม

ที่นี่มีร้านไอศกรีมและคาเฟ่ต์น่ารักมากอยู่ด้วย ชื่อร้าน The Sweet Talk ตกแต่งร้านแบบเรโทร สีสันหวานๆ ลูกกวาดและยังมีมุมถ่ายรูปในร้านอีกมากมาย คนที่ชอบถ่ายรูปแนวคาวาอี้น่ารักๆ ต้องชอบร้านนี้แน่ๆ ค่ะ

20180820_104223.jpg

20180820_110745.jpg

IMG_20180820_113105_397.jpg

เมื่อถึงเวลา เราก็เดินทางไปยังสนามบินภูเก็ต เดินทางกลับกรุงเทพด้วยเที่ยวบินของสายการบิน Bangkok Airways สะดวกสบาย แป้บเดียวก็ถึงกทม.แล้ววววว เป็นอันจบทริปวิ่งและโยคะ Roxy ของเราอย่างสมบูรณ์

IMG_20180819_063451_126.jpg

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Roxy ที่ชวนเราไปสนุกด้วยกัน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่สายเฮลธ์ตี้นะคะ คราวหน้าถ้าได้ไปร่วมอีก จะพยายามฟิตให้มากกว่านี้ ฮึบๆ ๆ ๆ (เราชอบบิกินี่ของ Roxy นะ มีหลายชุดเลย แต่ยังไม่มั่นใจหุ่นพอที่จะใส่ออกสื่อ ฮ่า) และขอบคุณสปอร์นเซอร์ทุกเจ้าที่ทำให้งานนี้สนุกถูกใจสาวๆ ด้วยนะคะ

ไว้จะมาอัพเดตเรื่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์เรื่อยๆ ติดตามอ่านได้ในบล็อกถัดไปเลย แล้วก็อย่าลืมติดตามโซเชี่ยลอื่นๆ ของเราไว้ด้วยนะจ๊ะ มีเรื่องมาเล่าทุกวัน เราจะได้รู้จักกันมากกว่านี้ยังไงล่ะ บายยยย

Photo by me, Roxy Thailand PR.

#MakeWavesMoveMountains
#ROXYThailand
#ROXYFitness
#Thavornpalmbeachresort
#BangkokAirways
#Anessa
#ZA
#Dhipaya
#TIPlady
#Singha
#Surfhousephuket

รีวิวเที่ยวโอกินาว่า ทะเลญี่ปุ่นแสนสวยที่ต้องไปให้ได้ซักครั้ง!

“เมืองนาฮา” เมืองหลวงของจ.โอกินาว่า ที่น่าจะมีคนไทยไปบ่อยที่สุด ก็เป็นศูนย์กลางของจังหวัดนี่นา ความเจริญ แหล่งท่องเที่ยวมากมายอยู่ที่นี่ แต่ก็ยังมีธรรมชาติ และทะเลสวยงามให้ทุกคนได้สัมผัส คนที่อยากเที่ยวทะเลญี่ปุ่นสวยๆ แต่ไม่อยากติดเกาะแบบเหงาๆ ไม่มีที่ช้อปปิ้งละก็ต้องรักเมืองนาฮาแน่นอน ซึ่งหลังๆ นี่คนไทยเดินทางไปเที่ยวโอกินาว่ากันเยอะขึ้น เพราะมีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพของสายการบิน Peach แถมยังราคาไม่แพง ทำให้นึกจะไปเมื่อไหร่ก็ไปได้สะดวกมาก

จะบอกว่าโอกินาว่านี่เป็นหนึ่งในจังหวัดของญี่ปุ่นที่เราเลิฟสุดๆ เลยล่ะ เคยได้ยินคนไทยหลายคนบ่นว่า ทะเลบ้านเราก็สวย จะมาเที่ยวที่นี่ทำไม ไม่มีลมเย็นๆ ไม่มีหิมะให้เล่น แต่แหมมมม… เสน่ห์ของญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่หิมะซะหน่อย เราเป็นชอบคนอากาศอบอุ่นและทะเล ยิ่งผสมผสานความทันสมัย บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อยแบบญี่ปุ่นเข้าไป โอกินาว่าจึงตอบโจทย์เรามากเลย

ซึ่งนี่เป็นการเที่ยวโอกินาว่า ครั้งที่ 3 ของเรา แต่ก็มีหลายสถานที่เคยมาเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ แถมยังอยากไปซ้ำอีกนี้ด้วย ดังนั้นคนที่กำลังวางแผนจะมาเที่ยวโอกินาว่า ตามติดบล็อกนี้ไว้ให้ดีๆ ที่เที่ยวดีๆ มีมาแนะนำเพียบเลยจ้า

ประสบการณ์ล่องเรือดูวาฬ Whale Watching

ในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม ปลาวาฬจากรัสเซีย จะหนีความหนาวลงใต้ มาอยู่ที่ทะเลแถบโอกินาว่านี่แหละ มันเจ๋งตรงที่ท่าเรือที่จะพาเราไปดูน้องวาฬนั้น อยู่ใกล้กับตัวเมืองนาฮาเลย แถมยังใช้เวลานั่งเรือไม่นานก็ถึงจุดชมน้องวาฬแล้ว โดยที่นี่เค้ารับประกันถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ว่าจะได้เห็นน้องวาฬ

DSCF0203

20180313_104041

DSCF0240

ซึ่งวันที่เราไปนั้น โชคดีมาก เรือออกจากท่าไม่ถึง 10 นาทีก็เห็นน้องวาฬออกมาพ่นน้ำให้ได้ดูกันแบบใกล้มากเลย แต่เรือค่อนข้างสั่นโคลง แนะนำให้คนที่เมาพาหนะได้ง่ายทานยาแก้เมาไว้ก่อนก็จะดีนะจ๊ะ (สามารถซื้อยาแก้เมาได้ที่ร้านขายยาทั่วไปเลย)

DSCF0248

Whale Watchcing 3-7-2 Kinjo, Naha city, Okinawa 901-0155

ราคา ผู้ใหญ่และเด็กอายุเกิน 12 ปี 4,500 เยน / เด็กอายุ 3 -11 ปี 3,500 เยน

เปิด – ปิดสำนักงาน 9:00 – 20:00

http://www.tms-news.jp/whalewatching/

ทานเนื้อหมู เมนูขึ้นชื่อของโอกินาว่า

อาหารขึ้นชื่อของโอกินาว่ามีหลายอย่างค่ะ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “เนื้อหมู” หรือที่เรียกในภาษาถิ่นว่า “อากู” คนโอกินาว่านิยมทานเนื้อหมูกันมาก และนี่เป็นร้านเมนูหมูทอดที่ดังมากๆ ของที่นี่ กัดไปแล้วรู้สึกได้เลยว่ากรอบนอกนุ่มใน สมกับเป็นเมนูเด็ดจริงๆ ค่ะ นอกจากนี้เมนูยากินิคุ และชาบูชาบู ที่ใช้เนื้อหมูโอกินาว่ายังอร่อยไม่แพ้กัน อยากให้ลองทานกันนะคะ

DSCF0660

DSCF0666

DSCF0669

Ganaha Buta Niku ten มี 6 สาขาในจ.โอกินาว่า

https://www.ganaha-butaniku.co.jp/

เดินเล่นถนนช็อปปิ้งสุดคึกคัก Kokusai Do-ri

แหล่งช้อปปิ้งที่คึกคักที่สุดของเมืองนาฮา “โคคุไซ” แปลว่า นานาชาติ, “โดริ” แปลว่า ถนน ซึ่งที่นี่ก็สมชื่อจริงๆ เพราะเป็นถนนการค้าที่รวมนักท่องเที่ยวหลากเชื้อชาติให้มาที่นี่ซึ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นร้านของฝาก, ร้านอาหารพื้นเมืองและนานาชาติ, ร้านขายยาและเครื่องสำอาง, ร้านปลอดภาษี

DSCF0798

DSCF0707

DSCF0677

ตอนวางแผนเที่ยวถ้าจะนอนโรงแรมนอกเมืองริมทะเล แล้วย้ายมานอนย่านนี้ก่อนกลับ เพื่อจะได้สะดวกต่อการช้อปปิ้งก็น่าจะดีนะคะ ร้านดื่มร้านช้อปปิ้งที่นี่ปิดดึกค่ะ เดินเล่นจนเที่ยงคืนก็ยังได้

https://naha-kokusaidori.okinawa/en/

ตลาด Makishi Daiichi

ตลาดเก่าแก่ที่ยังคงวิถีชีวิตของชาวโอกินาว่าแบบดั้งเดิมเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ติดกับถนนสุดคึกคึกอย่าง Kokusai Do-ri แต่เมื่อเดินเข้ามาในตลาด บรรยากาศจะเปลี่ยนไปเป็นกลายเป็นความอบอุ่นในแบบโอกินาว่าดั้งเดิมทันที

DSCF0695

DSCF0699

DSCF0683

DSCF0688

DSCF0702

ถ้าอยากเข้าถึงโอกินาว่า ลองอุดหนุนสินค้าพื้นเมือง หรือไม่ก็อาหารพื้นบ้านฝีมือคุณลุงคุณป้าชาวโอกินาว่าดูสิ แถมยังมีตลาดอาหารทะเลสดๆ ให้เราได้เดินเล่นดูปลาทะเลเขตร้อนแปลกๆ อีกด้วย เรียกได้ว่า ถึงจะไม่ซื้ออะไรกิน แค่ได้มาเดินเล่นก็เพลินแล้วค่ะ

DSCF0753

DSCF0796

DSCF0789

https://kosetsu-ichiba.com/en/

ถนนสายเครื่องกระเบื้อง Tsuboya Yachimun

เดินเลยตลาด Makishi Daiichi มาอีกหน่อย ก็จะถึงถนนสายเครื่องกระเบื้อง Tsuboya Yachimun เครื่องกระเบื้องและเครื่องปั้นดินเผา ถือว่าเป็นของฝากที่รู้จักกันดีของโอกินาว่า บนถนนเส้นนี้รวมร้านเครื่องกระเบื้องไว้มากมาย รวมถึงร้านเก่าแก่โดยช่างฝีมือชื่อดัง และยังมีคาเฟ่ต์น่ารักๆ ที่ตกแต่งสไตล์โอกินาว่าอีกด้วย

DSCF0712

DSCF0730

DSCF0721

DSCF0747

ถ้ามาที่นี่แนะนำให้ซื้อตุ๊กตาดินเผารูป “ซีซ่า” ซึ่งเป็นสิงโตของโอกินาว่า (คล้ายๆ ปี่เซี๊ยะของจีน) กลับไป ชาวโอกินาว่านิยมตั้งรูปปั้นซีซ่าไว้หน้าบ้าน หรือบนหลังคาบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ในเมื่อเราไม่สะดวกจะหิ้วตัวใหญ่กลับบ้าน ก็ดูเป็นของที่ระลึกชิ้นเล็กๆ ก็ได้

DSCF0748

DSCF0763

DSCF0752

DSCF0777

และข่าวดีอีกอย่างสำหรับทาสแมวคือ ถนนสายนี้มีแมวเยอะมาก มาเล่นกันน้องแมวตัวอวบๆ ขนปุยๆ ที่นี่ได้เลยค่ะ

DSCF0716

http://www.tsuboya-yachimundori.com/

Yatai Mura ศูนย์รวมของอร่อย

เป็นศูนย์อาหารแห่งใหม่ ใจกลางตัวเมืองนาฮาที่เพิ่งได้ไม่กี่ปี รวมร้านอาหารไว้มากกว่า 20 ร้าน บรรยากาศเหมือนงานเทศกาล มีโคมไฟประดับดูครึกครื้นตลอดเวลา ถ้าไม่รู้จะไปทานอาหารที่ไหน ก็ลองมาที่นี่เลย น่าจะมีร้านที่อยากทานแน่นอน

DSCF0802

DSCF0813

DSCF0806

DSCF0814

DSCF0820

DSCF0827

Yatai Mura

3 – 11 – 16 Makishi, Naha-shi, Okinawa 900 – 0013

เปิด – ปิด 11:00 – 23:00

http://www.okinawa-yatai.jp/

เก็บสตรอว์เบอร์รี่ที่ Chura Ichigo

ถ้าพูดถึงฟาร์มสตรอว์เบอร์รี่ที่ญี่ปุ่น คนไทยน่าจะนึกถึงจังหวัดที่อากาศหนาวเย็นมากกว่าจะเป็นที่อบอุ่นแบบโอกินาว่า แต่จริงๆ ที่นี่ก็มีฟาร์มสตรอว์เบอร์รี่นะ ฟาร์มจุลาอิจิโกะแห่งนี้ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2017 ยังใหม่และสวยมากเลยล่ะ

DSCF0922

DSCF0891

DSCF0881

โดยจุดเด่นคือ มีสตรอว์เบอร์รี่ให้ทานกันถึง 4 พันธุ์ ที่อยากแนะนำคือ “สตรอว์เบอร์รี่กลิ่นพีช” รับรองว่าอร่อยแปลกใหม่แน่นอน ยิ่งจิ้มนมข้นหวานแบบญี่ปุ่นที่ไม่ข้นเหนียวเกินไปหวานอ่อนๆ นะ หืมมมม แค่คิดก็ฟินแล้ว

DSCF0912

มีคอร์ส 2 แบบให้เลือก คือแบบทานไม่อั้น 40 นาที ผู้ใหญ่ / 1,800 เยน (วันเสาร์อาทิตย์) 1,600 เยน (วันธรรมดา) และแบบชั่งน้ำหนัก คิดน้ำหนักกรัมละ 3 เยน (ค่าเข้าฟาร์ม 300 เยน)

DSCF0899

พิกัด Okinawa Chura Ichigo 555 Tamagusuku Kakinohana, Nanjo city, Okinawa, Japan

http://www.chura-ichigo.jp/en/

Cafe Kurukuma ร้านอาหารริมทะเลบนเนินเขา ที่มีอาหารทะเลแสนอร่อยรอต้อนรับ

เป็นร้านอาหารและคาเฟ่ต์ที่มีวิวสวยหลักล้าน ตั้งอยู่บนเนินเขา มองไปเห็นทะเลสีฟ้าใส ในวันอากาศดีจะมองเห็นหาดเนินทรายที่เกาะคุเมะจิม่าได้ด้วย ทำให้กลายเป็นจุดชมวิวที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาเที่ยวและถ่ายรูปอัพลงโซเชี่ยลกัน

DSCF1007

DSCF0959

DSCF0969

IMG_20180315_111143_010

โดยจุดเด่นของที่นี่นอกจากจะมีวิวที่สวยงามแล้ว อาหารยังอร่อยเลื่องชื่อ แถมยังเป็นอาหารไทย โดยฝีมือเชฟคนไทยแท้ๆ อีกด้วย ซึ่งเครื่องเทศเครื่องปรุงแบบไทยๆ ต่างๆ นั้น สามารถหาได้ที่โอกินาว่า 100% เพราะสภาพอากาศที่ค่อนข้างอบอุ่นตลอดทั้งปี ไม่ต่างจากเมืองไทยมากนัก

DSCF0986

DSCF0983

DSCF0980

DSCF0988

บางคนอาจจะคิดว่า มาถึงญี่ปุ่น จะมากินอาหารไทยทำไม แต่อยากให้ลองทานจริงๆ เพราะถึงจะเป็นอาหารไทย แต่ก็ปรุงด้วยเนื้อสัตว์และวัตถุดิบอื่นๆ ของญี่ปุ่น โดยวิธีทำแบบไทยแท้ๆ รับรองว่าแซ่บแน่นอนค่ะ

DSCF0947

DSCF1014

DSCF1012

Café Kurukuma

1190 Aza-Chinen, Nanjo-shi 901-1513

เปิด – ปิด 10:00 – 9:00 (last call 9:00)
10:00 – 18:00 (last call 17:00) เฉพาะวันอังคาร

http://okinawatravelinfo.com/gourmet/cafe_kurukurma/

เที่ยวโรงงานสาเกโอกินาว่า อาวาโมริ

สาเกโอกินาว่า หรือ “อาวาโมริ” นั้น มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย เพราะใช้ข้าวพันธุ์ของไทยในการผลิตด้วย ซึ่งที่นี่นั้นผลิตอย่างครบวงจร คือมีจำหน่ายแบบสำเร็จรูป และยังมีรับทำตามสั่งอีกด้วย

DSCF1025

DSCF1019

DSCF1027

ที่น่าสนใจคือ คนโอกินาว่าจะนิยมทำสาเกอาวาโอริ เมื่อมีเด็กเกิดใหม่ในครอบครัว แล้วสลักชื่อของเด็กไว้ที่ขวด ตอนที่เด็กเติบโตจนอายุครบ 20 ปี บรรลุนิติภาวะก็จะมอบให้เด็กเปิดดื่มเหล้าที่มีอายุเท่ากับตัวเองนั่นเอง

DSCF1037

DSCF1038

DSCF1052

สามารถขอเข้าชมโรงงานอาวาโมริได้ฟรี โดยติดต่อทางเว็บไซต์ไว้ล่วงหน้า และยังมีเวิร์กช้อปทดลองทำสาเกอามาโมริด้วยตัวเองให้ลองอีกด้วย

DSCF1074

CHUKO GURA

132 Nakachi Tomigusuku City Okinawa 901-0235 Japan

เปิด – ปิด 9:00 – 18:00

http://www.chuko-awamori.com/chukogura

ช็อปปิ้งที่เอ้าต์เล็ท Ashibinaa

เอ้าต์เล็ทที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะโอกินาว่า ที่นี่ทั้งแบรนด์โลคอลของญี่ปุ่น, แบรนด์กีฬา, แบรนด์อินเตอร์, ร้านขายยา, ร้านของฝากพื้นเมือง และร้านร้อยเยน ที่ขอแนะนำ คือร้านเอ้าต์เล็ทของ ABC Mart ร้านรองเท้าที่คนไทยรู้จักกันดี สามารถหาซื้อรองเท้าสวยๆ ดีไซน์แปลกๆ ได้ในราคาสุดคุ้ม

DSCF1088

DSCF1133

DSCF1091

DSCF1095

DSCF1108

DSCF1221

DSCF1116

DSCF1114

DSCF1112

DSCF1124

พิกัด Ashibinaa Outlet

1 – 188 Toyosaki, Tomigusuku-shi, Okinawa 901-0225

เปิด – ปิด 10:00 – 20:00

http://ashibinaa.okinawa/index.html?lang=en

ชิลๆ ชมวิวตะวันตกดินที่ Umikaji Terrace

ปิดท้ายก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้าน มาแวะช้อปปิ้งมอลล์เอ้าต์ดอร์ที่ขึ้นชื่อกันว่าบรรยากาศดีมากกันก่อน “อูมิ” แปลว่า ทะเล “คาจิ” เป็นภาษาถิ่นโอกินาว่า แปลว่า ลม ซึ่งที่นี่ก็รับลมสมชื่อเลยค่ะ เพราะด้วยลักษณะตึกที่เป็นเทอร์เรสหัสหน้าเข้าสู่ทะเลนั้น เหมาะจะมานั่งรับลมอ่อนๆ ยามเย็น ชมพระอาทิตย์ตกดิน และด้วยความที่อยู่ใกล้สนามบินนาฮา ทำให้เห็นเครื่องบินขึ้นลงได้อย่างใกล้ชิด น่าจะถูกใจคนที่ชอบเครื่องบินเลยล่ะ

DSCF1209

DSCF1263

DSCF1226

DSCF1230

สำหรับร้านค้าที่นี่ ก็มีทั้งอาหารเครื่องดื่ม, ของหวาน, ร้านเสื้อผ้าเครื่องประดับ, ร้านของฝาก และยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น การแช่ออนเซ็นเท้าฟรี, ร้านที่บริการถ่ายรูปแบบเมอร์เมดและเล่น Sup, ร้านคาเฟ่ต์ฮันมอค (เปลญวน) เป็นต้น

IMG_20180314_190842_726

DSCF1283

IMG_20180909_085547_797.jpg

DSCF1244

DSCF1159

DSCF1162

DSCF1220

DSCF1250

DSCF1252

พิกัด

174 – 6 Senaga, Tomigusuku, Okinawa 901 – 0233

เปิด – ปิด 10:00 – 21:00

https://www.umikajiterrace.com/

และสำหรับทริปเมืองนาฮานี้ เราได้ไปพักที่โรงแรมแสนสบาย ทั้ง 2 แห่งนี้ ลองดูไว้เป็นตัวเลือกสำหรับวางแผนเที่ยวกันนะคะ

Hotel Rocore Naha

ถ้าชอบชีวิตเมืองมีแสงสี แนะนำพักที่นี่เลย เพราะอยู่ใจกลางเมืองนาฮา ใกล้ปากทางเข้าถนนสายช้อปปิ้งโคคุไซ เดินช้อปปิ้งหาของกินยันดึกก็ได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องรถกลับ

http://www.rocore.jp/

The Naha Terrace city Resort

สมชื่อกับที่เป็นรีสอร์ทเลย เพราะถึงจะอยู่ใจกลางเมือง แต่บรรยากาศเหมือนอยู่รีสอร์ทจริงๆ ตั้งอยู่บนเนินสูง สามารถมองวิวนาฮาแสนสวยได้ ดังนั้นได้ทั้งความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายในการเดินทางเที่ยวในเมืองนาฮาแน่นอน

https://www.terrace.co.jp/en/naha/

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับทริปโอกินาว่าในแบบของเรา หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ในการหาข้อมูลเที่ยวของทุกคนได้นะคะ “โอกินาว่า” เป็นเมืองที่เราชอบมากๆ ต้องมีไปซ้ำแน่นอน อยากให้ทุกคนลองไปกันนะคะ นอกจากในบล็อกนี้แล้ว เรายังมีเวอร์ชั่น VLOG เห็นทั้งภาพและเสียงเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยกันเลย มีทั้งหมด 6 ตอน ดูได้ที่ youtube “Reiko Meow” เลยค่ะ ลิ้งทั้ง 6 ตอน >> https://www.youtube.com/watch?v=GWsF7WKMDKc&list=PLp2rHc2l2qb0GSGrBXMQuYB0zoC1-94Jr

แล้วพบกับเรื่องเล่าไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นของเราได้ใหม่ในบล็อกและคลิปยูทูปตอนหน้านะคะ ไฮไซ! สวัสดีค่ะ

ฝากช่วยติดตามโซเชี่ยลอื่นๆ ของเราด้วย ทั้ง twitter, Instagram @reiko_ws / facebook : Reiko.ws รับรองว่ามีเรื่องเที่ยวญี่ปุ่นมาฝากเรื่อยๆ แน่นอนค่าาาา

DSCF1270

สนับสนุนการเดินทางโดย การท่องเที่ยวโอกินาว่า Visit Okinawa, เว็บเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่นในมุมมองใหม่ anngle

อ่านบทความท่องเที่ยวโอกินาว่าเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสารออนไลน์ ANNGLE(แองเกิ้ล)
http://anngle.org/th/category/j-journer/okinawa-ken
http://anngle.org/th

2018_anngle_logo01

สนับสนุนโดย
Be.Okinawa / Okinawa Convention & Visitors Bureau

https://www.visitokinawa.jp/?lang=th

https://m.facebook.com/visit.okinawa.th

Beokinawa_board_1200

Photo by Worajan Sangngern, Atipati Praihirun, Okinawa Tourism

ช้อปสุดคุ้มที่ Donki แจกคูปองส่วนลดใช้ได้ทุกสาขาทั่วญี่ปุ่น!

คนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้วน่าจะรู้จักร้าน Don Quijote (หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ดองกี้) กันเป็นอย่างดี เพราะที่นี่คือร้านที่มีทุกอย่าง สากกะเบือยันเรือรบ!! เรียกได้ว่าจะซื้ออะไรที่ญี่ปุ่นกลับไป ถ้าไม่ใช่ของเฉพาะทางมากๆ ไปดูที่นี่ไม่ผิดหวัง แถมยังจำหน่ายในราคาที่คุ้มค่าและมีโปรโมชั่นน่าสนใจบ่อยๆ ทำให้การเดินดองกี้นั้นไม่เคยทำให้เบื่อเลย

20180613_171957.jpg

สำหรับเราเองก็เป็นแฟนคลับร้านดองกี้ตัวจริงเลยล่ะ ไม่ว่าจะไปทำงานที่เมืองไหนของญี่ปุ่น ก่อนกลับไทย ต้องมีซักวันที่แวะดองกี้ ซื้อของที่โดนออเดอร์มา ของฝากเพื่อนๆ และของใช้ที่จำเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่เราจะซื้อของที่ใช้ประจำ เช่น วิตามิน, คอลลาเจน, ชากาแฟที่ดื่มประจำ โดยจะซื้อทีละเยอะๆ เพราะที่นี่ทำเรื่องภาษี ลด 8% สำหรับนักท่องเที่ยวที่ซื้อครบ 5,000 เยนขึ้นไปได้ด้วย

ดังนั้นแทนที่จะซื้อจากร้านโน้นร้านนี้ ทีละน้อยๆ สู้มาซื้อที่นี่ทีเดียวแล้วรวมราคาไปยังคุ้มกว่า แถมยังมีสาขาแทบทุกเมืองใหญ่ในญี่ปุ่น การจัดวางร้านและของต่างๆ ก็ใกล้เคียงกัน ดังนั้นเข้าดองกี้ทีไร จะอุ่นใจเหมือนเดินซูเปอร์แถวบ้านเลยล่ะ 555

20180725_210245.jpg

แต่… แค่ลดภาษี 8% ยังไม่พอนะ เพราะตอนนี้เค้ามีคูปองส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับนักท่องเที่ยวมาให้ใช้เพิ่มด้วย ง่ายมากแค่ตอนจ่ายตังค์ที่เค้าน์เตอร์ กดลิ้งนี้เปิดให้พนักงานดูได้เลย

https://www.yokosojapanpass.com/donki_fuel/public/coupon/index/0006573

  • แสดงหน้าจอคูปองแก่พนักงานที่เค้าเตอร์คิดเงิน และให้พนักงานเป็นผู้กดปุ่มให้

(クーポン画面をレジスタッフにご提示頂き、スタッフが、ボタンを押させて頂きます。)

  • สามารถใช้ได้ 1ครั้ง/1สาขา/ 1วัน

(1日1店舗1回のみ利用可能)

  • ※ชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ※สุรา, บุหรี่, POSA card ไม่สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ ※ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดอื่นได้

(ご利用資格:訪日客のみ お酒・タバコ・POSAカードのお会計には使用できません。他の割引サービスとの併用不可。)

coupon1

<คูปองส่วนลด2,000เยน> รับส่วนลด 2000 เยน เมื่อซื้อสินค้า 30,000 เยนขึ้นไป (ไม่รวมภาษี)

(<2,000円OFFクーポン>税抜3万円以上のお買物で2000円引きになります。)

coupon2

<คูปองส่วนลด500เยน> รับส่วนลด500เยน เมื่อซื้อสินค้า 10,000 เยนขึ้นไป (ไม่รวมภาษี)

(<500円OFFクーポン>税抜1万円以上のお買物で500円引きになります。)

coupon3

<คูปองส่วนลด200เยน> รับส่วนลด 200 เยน เมื่อซื้อสินค้า 5,000 เยนขึ้นไป (ไม่รวมภาษี)

(<200円OFFクーポン>税抜5千円以上のお買物で200円引きになります。)

เราเคยซื้อของครบ 30,000 เยน นอกจากจะได้ภาษีคืนมา 8% แล้วยังได้เงินส่วนลดคืนมาตั้ง 2,000 เยน คุ้มค่ามากเลยล่ะ

สำหรับสาขาที่เราชอบที่สุดคือ สาขา Shinjuku ตรงทางเข้าโคเรียนทาวน์ (เดินตรงมาจากสถานีชินจูกุประตูตะวันออก ประมาณ 15 นาที) พอเข้าร้านปุ๊บ เราจะหยิบรถเข็นมาใส่ตะกร้าแล้วเดินวนทั่วๆ ทุกแผนก หยิบของตามลิสต์ที่จดไว้ เดินสบายเพราะร้านเป็นที่ราบ ไม่ต้องขึ้นลิฟต์ขึ้นบันได อาจจะเดินไกลจากสถานีชินจูกุหน่อย แต่อยากให้ลองไปดูนะคะ

(รูปสาขา Shinjuku ตรงโคเรียนทาวน์ ที่เราชอบไป มีทางเข้าหลายทาง เป็นตึกชั้นเดียวแต่กว้างมาก)

20180829_124636.jpg20180829_124839-01.jpeg

(ส่วนอันนี้เป็นรูปสาขา Shinjuku สาขายอดฮิตที่มีทัวร์ลงบ่อยๆ สะดวก ใกล้สถานีชินจูกุแต่คนแน่นมากตลอดเวลา มักจะต่อแถวจ่ายเงินนานมาก โดยเฉพาะเวลาทำเรื่องภาษี)

20180827_173630.jpg

เอาล่ะ แนะนำเกร็ดการช้อปปิ้งดีๆ ที่ดองกี้ไปเรียบร้อยแล้ว ไปเที่ยวญี่ปุ่นคราวหน้าก็อย่าลืมกดคูปองไปใช้กันนะจ๊ะ

20180829_1307575454657412329644698.jpg