ช่วงนี้ไม่ว่าใครก็คง เก็บตัวอยู่บ้าน มีโอกาส หนังละครซีรีย์ และที่ตอนนี้กำลังมาแรงมากๆเลยก็ต้องละครช่อง 3 เรื่อง “ดั่งดวงหฤทัย” นี่แหละ ที่พี่ติ๊กเจษฎาภรณ์กับคิมเบอร์ลี่เขาเล่นไง เพิ่งออกฉายตอนแรกทางช่อง 3 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2020 นี่เองกระแสตอบรับดีมากๆเลย
ดั่งดวงหฤทัย (2020)
เรื่องนี้เขายกกองไปถ่ายทำกันถึงภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเชียวนะ แน่นอนว่าไปไกลขนาดนี้ต้องมีวิวสวยๆ และโลเคชั่นเด็ดๆมาให้เราได้ดูกันแน่นอน ไปดูกันเลยค่ะว่ามีที่ไหนบ้าง
โลเคชั่นในจังหวัดยามากาตะ
1.ล่องเรือ Mogami River
แม่น้ำโมกามิถือเป็นเส้นทางการคมนาคมที่สําคัญตั้งแต่ในสมัยก่อนของจังหวัดยามากาตะ ชาวบ้านจะขนของเพื่อค้าขายไปยังเมือง Sakata ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้ถูกใช้เป็นเส้นทางค้าขายหลักแล้วแต่ก็ยังขึ้นชื่อในฐานะ แม่น้ำสายท่องเที่ยวที่สามารถล่องเรือเพื่อชมความงามของธรรมชาติสองข้างทาง โดยสามารถชมได้ทั้ง 4 ฤดูกาลสวยงามแตกต่างกัน
สำหรับการล่องเรือนั้นมีหลายแบบแตกต่างกันไปที่เราได้ไปขึ้นนั้นใช้เวลา 50 นาทีราคา 2,500 เยนและสามารถเลือกซื้อข้าวกล่องขึ้นมาทานเองได้
และถึงจะเป็นฤดูหนาวแต่ก็สามารถนั่งชมวิวได้อย่างอบอุ่นเพราะมีโต๊ะ อุ่นขาหรือ Kotatsu ไว้บริการด้วย
สองข้างทางมีจุดชมวิวมากมายโดยใช้ซึ่งเป็นพนักงานที่อยู่ในเรือจะคอยอธิบายจุดถ่ายรูปต่างๆรวมถึงร้องเพลงโบราณแบบที่ชาวบ้านสมัยก่อนเขาร้องกันให้ฟังอีกด้วย
ที่นี่ถูกใช้เป็นโลเคชั่นของละครเรื่องดั่งดวงหฤทัยและยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะโลเคชั่นของละครญี่ปุ่นที่โด่งดังอมตะ เรื่อง “โอชิน” นั่นเอง
2.Snow Monster และ Zao Onsen
Zao เป็นที่รู้จักกันดี เพราะมี Snow Monster ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หิมะก่อตัวกับต้นไม้จนกลายเป็นแท่งขึ้นมาเหมือนปีศาจท่ามกลางความขาวโพลน หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Juhyo นั่นเอง
และยังเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ทอีกมากมาย ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในฤดูหนาว
และที่นี่ยังมีออนเซ็นที่มีน้ำแร่ที่ดีมาก เก่าแก่ มีการค้นพบตั้งแต่ปี 110 ก่อนคริสตศักราช และยังเป็น 1 ใน 3 ของน้ำพุร้อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่น
น้ำพุร้อนของที่นี่ มีชื่อในการรักษาสภาพผิวและความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร นอกจากน้ำแร่จะดีแล้วบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งของที่นี่ยังสวยงาม ทำให้รู้สึกผ่อนคลายกับวิวที่สวยงามอีกด้วย และที่นี่ก็เป็นหนึ่งในโลเคชั่นถ่ายทำละครและภาพยนตร์หลายเรื่อง
3 อาคารโรงพยาบาลเก่า Kyu – Saiseikan
อาคารโรงพยาบาลเก่าที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกนี้เป็นตึกที่ได้รับการอนุรักษ์ โดยย้ายมาจากสถานที่ตั้งเดิมมาตั้งไว้ที่นี่ เพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆและให้ความรู้
ตัวตึกมีความแปลก เพราะเป็นตึก 14 สี่เหลี่ยม ซึ่งแต่ละห้องก็เคยถูกใช้เป็นห้องตรวจรักษา และในปัจจุบันก็ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เพื่อให้ความรู้และเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์และละครต่างๆ
4.อาคารศาลาว่าการจังหวัดเก่า Bunshokan
อาคารอิฐสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองของอังกฤษที่เคยเป็นศาลาว่าการจังหวัดและหอประชุมสภาของจังหวัดยามากาตะ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น
ในตอนนี้ ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านของจังหวัดและเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำละครและภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิเช่น Rurouni Kenshin ภาพยนตร์ซามูไรของญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมฟรี
และยังมีภาพยนตร์เรื่อง Gravity of love (2018) ที่บอยปกรณ์กับเต้ยจรินพรแสดงนำ ซึ่งมีโลเคชั่นถ่ายทำที่เมืองเซนไดจังหวัดมิยางิด้วยนะ ซึ่งจังหวัดยามากาตะและมิยากินั้นอยู่ข้างกัน ดังนั้นเราจะนำมาแนะนำในบล็อกนี้ไปพร้อมกันเลยค่ะ
Gravity of love (2018)
โลเคชั่นในจังหวัดมิยางิ
5.Jogi Nyorai Saihoji Temple
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งในหมู่ชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเอง ผู้คนนิยมมาสักการะขอพรเรื่องความรัก เอกลักษณ์ของที่นี่คือเจดีย์ไม้โบราณสูง 5 ชั้น ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่สันติสุขของมวลมนุษยชาติ
และรอบๆบริเวณนี้ยังคงสภาพเมืองเก่ามีร้านอาหารที่ขายเมนูท้องถิ่นมากมาย สามารถสัมผัสบรรยากาศ ในสมัยก่อนของเมืองเซนไดได้ที่นี่
6.หินรูปหัวใจ Rai-raikyo Gorge Heart Shaped Rock
จุดชมวิวที่สะพาน Nozoki Bashi Bridge อยู่ในหุบเขาไรไรเคียว ซึ่งมีจุดเด่นคือ ร่องหินที่เป็นรูปหัวใจ ว่ากันว่าการมาขอพรความรักที่นี่จะช่วยให้สมหวัง เป็นจุดที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาถ่ายรูปกันด้วยล่ะ
7.เจ้าแม่กวนอิมใหญ่แห่งเซนได
รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมใหญ่แห่งเซนได (Sendai Dai Kannon) มีความสูงถึง 100 เมตร ที่วัด Daikan Mitsu ji เราสามารถเข้าชมด้านในขององค์เจ้าแม่กวนอิมได้
มีทั้งหมด 12 ชั้นจากด้านบนสุดสามารถมองเห็นวิวของเมืองเซนได และยังมีพระพุทธรูป รวมถึงพระโพธิสัตว์กวนอิมปางต่างๆให้ชมมากถึง 108 องค์ตามทางเดินจากบนลงล่าง และยังมีจุดให้ขอพรอีกมากมาย
สำหรับคนที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมห้ามพลาดเลยเพราะที่นี่มีเครื่องรางสวยๆน่าเก็บเป็นที่ระลึกไว้บูชาอีกด้วย
8.ศาลเจ้า Shiogama Jinjya
เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติยาวนานมากกว่า 1,200 ปีเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านมาตั้งแต่สมัยก่อน และยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสถานที่ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นในปี 2545
ด้วยความที่ตั้งอยู่บนเขาทำให้สามารถมองลงมาเห็นวิวจนถึงอ่าวมัตสึชิม่าได้ในวันอากาศดี และที่นี่ยังมีซากุระปลูกไว้มากมาย ทำให้ในช่วงซากุระบาน ประมาณเดือนเมษายน จะเป็นจุดชมซากุระที่ขึ้นชื่อมากๆ
ตอนนี้กรุงเทพฯและโทโฮคุก็ใกล้กันมากกว่าเดิมเพราะมีเที่ยวบินตรงของการบินไทย ไปลงที่เมืองเซนไดด้วย ดังนั้นคนที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวในภูมิภาคโทโฮคุ ในอนาคตในช่วงที่สถานการณ์ไวรัสดีขึ้นแล้ว ลองดูบล็อกนี้ของเรา แล้วไปเที่ยวตามรอยละครและภาพยนตร์ดังในจังหวัดยามากาตะและ จังหวัดมิยางิกันนะคะ
และเรายังทำรีวิวทริปยามากาตะเซนไดไว้เป็น วีดีโอ YouTube อีกด้วยเข้าไปดูได้ที่นี่เลยค่ะ
ตามรอยละคร ที่ Yamagata Sendai!
และสามารถดูข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์นี้เลยค่ะ
Yamagata เที่ยวเมืองยามากาตะ ตามรอยละครเรื่อง ดั่งดวงหฤทัย
หลังจากที่สถานการณ์ไวรัสโคโรน่าดีขึ้นแล้ว ก็หวังว่าทุกคนจะลองดูเส้นทางยามากาตะเซนได เป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันนะคะ
ชอบภาพมากเลยครับ อ่านแล้วอยากไปตาม แต่ละที่คือสวยมาก