ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นคนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มอะไรมากมาย แต่ก็ชอบงานอีเว้นต์สนุกๆ เกี่ยวกับกีฬานะ ล่าสุดทางแบรนด์ Roxy เค้าก็เพิ่งจัดงาน Roxy Run & Yoga 2018 ที่ภูเก็ตไป แล้วเราก็มีโอกาสไปร่วมงานนี้ในฐานะบล็อกเกอร์ด้วย เย้!! ถือเป็นปีที่ 2 แล้วที่ได้ไปร่วมงานนี้ ซึ่งปีที่แล้วก็หกล้มกลางงานวิ่งขาเป๋กลับกทม. แต่ปีนี้เราจะไม่ซ้ำรอยเดิมแล้ว!! เอาล่ะ จะเป็นยังไง มาๆ เราจะเล่าให้อ่านกันนะ
งานนี้ ตอนแรกเค้ามีทาร์เก็ตเป็นผู้หญิงที่รักสุขภาพและการออกกำลังกายค่ะ เลยนำเอาการวิ่งมาราธอนแบบฟันรัน (ประมาณ 5 กม.) และเวิร์กช้อปโยคะมารวมกัน มีทั้งสาวๆ จากทางบ้านที่สมัครเข้ามาร่วมงาน, ผู้โชคดีจากกิจกรรมและสื่อมวลชน, บล็อกเกอร์แบบเรานี่แหละ ซึ่งในปีนี้ก็ได้ขยายทาร์เก็ตให้มีผู้ชายเข้าร่วมด้วย ดังนั้นจึงมีดาราเซเล็บหนุ่มหล่อล่ำมาร่วมงานเป็นสีสันหลายคนเลย
ทริปนี้เราเดินทางจากกรุงเทพไปยังภูเก็ตด้วยเที่ยวบินของสายการบิน Bangkok Airways เมื่อไปถึงปุ๊บ เค้าก็พาชาวคณะไปช้อปปิ้งหาไอเท็มทะเลๆ ใส่กันที่ร้าน Roxy, Quiksilver ที่ศูนย์การค้าจังซีลอน มีของสวยๆ เพียบ ทั้งชุดว่ายน้ำ, กระเป๋า เสื้อผ้าแบบบีชและสตรีทที่ใส่ได้ตลอดปี เหมาะกับอากาศเมืองไทยบ้านเรา แน่นอนว่าเราก็ได้ของมากับเค้าด้วย อิอิ
จากนั้นเข้าเช็กอินที่พัก Thavorn Palm Beach Resort เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงมานาน ปัจจุบันดูแลโดยทายาทผู้บริหารรุ่น 2 รีสอร์ทแห่งนี้ขึ้นชื่อว่า เต็มไปด้วยธรรมชาติ ทั้งต้นไม้ และสัตว์นานาชนิดที่เปิดโอกาสให้แขกที่มาพักได้พบปะอย่างใกล้ชิด เช่น นก, เต่า, กระต่าย เป็นต้น และยังมีพื้นที่มากพอให้พวกเราได้ทำกิจกรรมเล่นเกมตามฐานต่างๆ ในบริเวณสวนของโรงแรม ชิงรางวัลเป็นบัตรกำนัลสุดพิเสษมากมายอีกด้วย
หลังจากสนุกกับกิจกรรมแล้ว เราก็ขึ้นไปพักผ่อน อาบน้ำแต่งตัวเพื่อลงมาร่วมงานดินเนอร์ ที่จัดบริเวณสระน้ำของโรงแรม มีการแสดงดนตรีสด และเวิร์กช็อปการทำผ้าบาติกให้ทดลองอีกด้วย ซึ่งในคืนแรกนี้ยังเป็นบรรยากาศชิลๆ สบายๆ อยู่ เพราะทุกคนต้องออมแรงไว้เพื่อตื่นมาวิ่งในเช้าวันถัดไป
หลังจากที่พักผ่อนกันเต็มที่ทั้งคืน ก็ถึงเวลาที่จะได้สนุกกับงานมาราธอนและโยคะแล้ว เราเดินทางออกจากโรงแรมประมาณตี 5 เพื่อมาที่สวนสาธารณะแหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นจุดชมวิวชื่อดังของภูเก็ต
บรรยากาศในตอนเช้าสดชื่น วิวที่ทองไปเห็นแหลมพรหมเทพนั้นช่างสวยงาม เปลี่ยนไปตามปริมาณแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆ สาดส่องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนวอร์มอัพด้วยการเต้นตามครูอย่างพร้อมเพรียง และในที่สุดก็ถึงเวลาปล่อยตัว สตาร์ท!!!
ระยะทางเพียง 5 กิโลกว่านั้นๆ เหมือนจะไม่ไกล สำหรับคนที่ฝึกซ้อมบ่อยๆ แต่ในงานนี้ก็มีผู้เข้าร่วมที่ไม่ใช่นักวิ่งมือโปรอยู่ไม่ใช่น้อย (เราก็ด้วย) เมื่อต้องวิ่งไปตามทางขึ้นลงภูเขาเป็นเนินแล้ว มันก็ทำให้เหนื่อยไม่ใช่เล่นกันเลย มีหลายคนที่วิ่งไม่ไหว จนต้องถูกรถพยาบาลของเจ้าหน้าที่ที่คอยซัพพอร์ทเก็บไปพักผ่อน แต่คนที่ยังไหวก็ยังพยายามกันต่อไป
(ขอบคุณภาพจากเพจ วิ่งตามใจ)
สิ่งที่ทำให้ใจชื้นได้ ก็คือลมเย็นๆ ที่พัดมาจากทะเล และวิวสองข้างทางที่สวยสบายตา จนทำให้อยากมองไปข้างหน้าเรื่อยๆ นี่แหละ ไฮท์ไลท์คือ การวิ่งเลียบชายหาดก่อนถึงเส้นชัย สวนสาธารณะหนองในหาน บรรยากาศริมทะเลยามเช้านั้นมันสวยมาก จนสาวๆ ที่มาเข้าร่วมต่างอดใจไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกกัน จนถืมไปเลยว่า อีกนิดเดียวก็เส้นชัยแล้ว ฮ่าๆๆๆ ผู้หญิงก็ยังงี้แหละเนอะ ออกกำลังกายทั้งที ต้องมีรูปด้วยสิ
และตรงบริเวณเส้นชัย หลังจากรับมอบเหรียญแล้ว ทุกคนก็ได้เพลิดเพลินกันการช้อปปิ้งสินค้าราคาพิเศษ และไอเท็มแฮนด์เมดมากมาย รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มด้วย ก่อนที่จะเริ่มต้นคลาสโยคะสุดพิเศษ โดย “ครูเอก” ครูสอนโยคะชื่อดังเจ้าของโรงเรียน Yoga and Me
และถึงแม้ว่าเริ่มต้นคลาสไปได้ไม่นาน ฝนก็กระหน่ำเทลงมา จนทำให้ต้องหยุดพักคลาสไปพักใหญ่ แต่เมื่อฝนซาลง สาวๆ รักสุขภาพ ต่างก็ไม่ย่อท้อ กลับมาเริ่มต้นการฝีกโยคะกับครูเอกท่ามกลางบรรยากาศเย็นช่ำฉ่ำหลังฝนตก งานนี้ถึงจะเปียกปอนไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับประสบการณ์ที่ได้รับเลยค่ะ
ช่วงบ่ายหลังจากเสร็จงานวิ่ง ก็เป็นเวลาฟรีไทม์ ใครจะไปเรียนเซิร์ฟที่โรงเรียนบนหาดกะตะ ทีมงานเค้าก็พาไป ใครอยากจะนอนเล่นพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมก็ได้ เราน่ะเหรอ… นอนสิคะ ถามได้ ฮ่า ไม่ใช่ขี้เกียจนะ แต่ได้มาพักที่โรงแรมดีๆ ทั้งที ก็อยากจะใช้เวลาพักผ่อนที่โรงแรมซะหน่อย ก็นั่งทำงานในห้องแล้วออกไปเดินเล่นดูสวนดูสระว่ายน้ำเพลินดีค่ะ
พอตอนค่ำก็ไปร่วมงานปาร์ตี้ส่งท้ายอีเว้นต์ที่ Phuket Surf House ร้านอาหารที่ให้เราดูคนเล่นเซิร์ฟไปได้พร้อมๆ กับฟังเพลงเพลินๆ ในงานมี โตโน่ และวง The Dust มาเล่นโชว์ให้ดูด้วย (มีแฟนคลับตามมากรี๊ดด้วยล่ะ) เมื่อถึงเวลาอันสมควรก็กลับที่พัก พักผ่อนให้สมกับที่ทำกิจกรรมสนุกๆ มาทั้งวัน
วันสุดท้ายแล้วของทริปนี้ วันนี้ค่อนข้างฟรีสไตล์ เพราะแยกไฟลท์กันกลับกัน ไม่มีตารางอะไรแล้ว เราก็ลงมาทานอาหารเช้าในโรงแรมเสร็จแล้วยังไม่อิ่มค่ะ เลยเดินมาตรงหน้าโรงแรม
ที่นี่มีร้านไอศกรีมและคาเฟ่ต์น่ารักมากอยู่ด้วย ชื่อร้าน The Sweet Talk ตกแต่งร้านแบบเรโทร สีสันหวานๆ ลูกกวาดและยังมีมุมถ่ายรูปในร้านอีกมากมาย คนที่ชอบถ่ายรูปแนวคาวาอี้น่ารักๆ ต้องชอบร้านนี้แน่ๆ ค่ะ
เมื่อถึงเวลา เราก็เดินทางไปยังสนามบินภูเก็ต เดินทางกลับกรุงเทพด้วยเที่ยวบินของสายการบิน Bangkok Airways สะดวกสบาย แป้บเดียวก็ถึงกทม.แล้ววววว เป็นอันจบทริปวิ่งและโยคะ Roxy ของเราอย่างสมบูรณ์
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Roxy ที่ชวนเราไปสนุกด้วยกัน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่สายเฮลธ์ตี้นะคะ คราวหน้าถ้าได้ไปร่วมอีก จะพยายามฟิตให้มากกว่านี้ ฮึบๆ ๆ ๆ (เราชอบบิกินี่ของ Roxy นะ มีหลายชุดเลย แต่ยังไม่มั่นใจหุ่นพอที่จะใส่ออกสื่อ ฮ่า) และขอบคุณสปอร์นเซอร์ทุกเจ้าที่ทำให้งานนี้สนุกถูกใจสาวๆ ด้วยนะคะ
ไว้จะมาอัพเดตเรื่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์เรื่อยๆ ติดตามอ่านได้ในบล็อกถัดไปเลย แล้วก็อย่าลืมติดตามโซเชี่ยลอื่นๆ ของเราไว้ด้วยนะจ๊ะ มีเรื่องมาเล่าทุกวัน เราจะได้รู้จักกันมากกว่านี้ยังไงล่ะ บายยยย
Photo by me, Roxy Thailand PR.
#MakeWavesMoveMountains
#ROXYThailand
#ROXYFitness
#Thavornpalmbeachresort
#BangkokAirways
#Anessa
#ZA
#Dhipaya
#TIPlady
#Singha
#Surfhousephuket
Congratulations for the run! Loved reading the post & nice photographs!