หลังจากเที่ยวที่จ.นางาซากิกันมา 3 ตอนแล้ว เรานั่งรถกันต่อไปที่อุทยานแห่งชาติ “อุนเซน” เมืองออนเซ็นที่ขึ้นชื่อของจ.นางาซากิ
ที่นี่เป็นแหล่งน้ำแร่ขึ้นชื่อของจ.นางาซากิ เป็นเมืองออนเซ็นที่ไม่พลุกพล่าน และยังไม่โดนย้อมด้วยความเจริญ ขนาดเดินหาคอมบินีซักร้านยังไม่มีเลย ต้องซื้อของที่ร้านชำเล็กๆ บริหารโดยคุณป้าในละแวกนั้น ร้านรวงก็คงสไตล์ดั้งเดิมไว้
สำหรับคนที่ชอบการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติแท้ๆ ไม่วุ่นวายน่าจะชอบที่นี่นะคะ
(อ่านตอนก่อนๆได้ที่นี่ 1.Nagasaki Diary #01 ยกพลขึ้นบกที่เกาะร้างฮาชิม่า (軍艦島) ทานเมนูเด็ด “จัมปง” ที่ไชน่าทาวน์ 2.Nagasaki Diary #02 ใส่กิโมโนลายโมเดิร์น เดินเล่นเดะจิม่า จ.นางาซากิ 長崎で着物体験 3.Nagasaki Diary #03 มินามิชิมาบาระ แช่ออนเซ็นโอบาม่า ตามล่าของอร่อย 長崎県南島原・小浜 )
เราได้เข้าไปทักท่ายกับกลุ่มหนุ่มๆ คนรุ่นใหม่ เจ้าของเกสต์เฮ้าส์ TSUDOI ที่นี่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน บริการห้องพักในราคาไม่แพง สำหรับใครที่อยากมาพักผ่อนกับกลุ่มเพื่อนแบบลุยๆ ที่นี่น่าจะเหมาะนะคะ ด้านล่างเกสต์เฮ้าส์เปิดเป็นบาร์ในตอนกลางคืนด้วย บรรยากาศน่านั่งชิลมากๆ มาที่นี่น่าจะได้เพื่อนใหม่กลับไปแน่นอน
ทางร้านมีฉายวิดิโอ ประวัติความเป็นมาของเมืองอุนเซ็นให้ดูด้วย น่าประทับใจในสำนึกรักบ้านเกิดของพวกเค้าจริงๆ
ภาพเมืองอุนเซ็นในสมัยก่อน
ห้องพักรวมแบบดอมิทอรี่ แยกชายหญิง มีไวไฟให้ใช้ฟรีด้วย
เกสต์เฮ้าส์ที่นี่ราคาไม่แพงเลย เริ่มต้นเพียง 3,300 เยนเท่านั้น คิดเป็นเงินไทยก็พันกว่าบาท จะจองผ่านเว็บ Hotels, Booking, Expedia ก็ได้ ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://www.unzen-tsudoi.jp/ ไปเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ ก็น่าสนุกดีนะคะ ถ้าไปแล้วก็อย่าลืมเล่าให้เจ้าของโรงแรมเค้าฟังด้วยนะ ว่ารู้จักที่นี่จากเรโกะ อิอิ
ซึ่งพ่อหนุ่มเจ้าของเกสต์เฮ้าส์สละเวลาพาเราไปเดินชมรอบๆ แหล่งน้ำแร่ในฐานะเจ้าถิ่นด้วย เค้าบอกว่าจุดเด่นของที่นี่คือ เป็นแหล่งน้ำแร่ที่พวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินให้เห็นกันเป็นควัน สามารถเข้าไปเดินชมในบริเวณต้นกำเนิดน้ำแร่ได้ ชาวบ้านที่นี่มักจะมาเดินออกกำลังกายรอบๆ อารมณ์เหมือนสวนสาธารณะอะ หรือมานั่งพักผ่อนบนลานหินร้อนกัน
ลานกว้างตรงนี้ ตอนกลางคืนเอาผ้ามาปู นอนเล่นบนพื้นอุ่นๆ นอนดูดาวได้ด้วยนะ
อัพจัง ลองนั่งเอาเท้าอุ่นบนพื้นหินร้อนด้วยกำมะถันจากออนเซ็น
และนี่คือตึกโรงแรมที่เราจะพักในคืนนี้ อยู่ติดกับโซนบ่อน้ำแร่ธรรมชาติเลยล่ะ
อันนี้เค้าต่อท่อกันให้เห็นเลยว่า น้ำแร่ที่ใช้ในโรงแรมย่านนี้มาจากออนเซ็นจริงๆ ซึ่งจุดเด่นของออนเซ็นที่นี่คือเป็นสีขาวขุ่น เหมือนน้ำนม
และที่โดนใจเรามากที่สุด คือ ที่นี่มีแมวเยอะมาก!! เป็นแมวจรที่มีคนให้อาหาร แต่อยู่กันแบบธรรมชาติในแหล่งน้ำแร่ แถมยังเชื่องซะด้วย เรียกเหมียวๆ เดี๋ยวก็มาแมวจรญี่ปุ่นนี่ตัวกลมขนฟูทั้งนั้น น่ารักจริงๆ
เมี้ยววววววววววว เข้าหาคนซะด้วย รับแขกเก่งจริง
แมวจรที่นี่ขนปุย ตัวอ้วนกลม ทั้งนั้นเลย น่าอุ้มกลับไทยเนอะ
ตัวใหญ่เท่าลูกขนุน!!
ไม่กลัวคนด้วย เซลฟ์ฟี่ได้สบายๆ
ที่พักของเราในคืนนี้คือ เรียวกังเก่าแก่ (โรงแรมแบบญี่ปุ่น)เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปีแล้ว ชื่อว่า “อุนเซ็น ฟุคิยะ” 雲仙富貴屋 ซึ่งเป็นเรียวกังที่ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งต้นน้ำที่สุด คือตั้งอยู่ติดๆ กันเลย มองจากหน้าต่างห้องพัก และห้องอาหาร จะเห็นควันสีขาวพวยพุ่งออกมาตลอดเวลา
วิวที่มองออกจากหน้าต่างลอบบี้ชั้นล่างสุด ใกล้กับแหล่งต้นน้ำมากๆ
มีมุมหัดเขียนพู่กันญี่ปุ่น สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย
สำหรับคนที่นั่งรถเข็น เค้าก็มีบริการให้ยืม ดังนั้นไม่ว่าจะผู้พิการหรือผู้สูงอายุ ก็สามารถเที่ยวที่นี่ได้อย่างสะดวกสบาย
ด้วยความที่เป็นโรงแรมเก่าแก่ ทำให้ห้องพักแบบเสื้อทาทามิญี่ปุ่นยิ่งดูขลัง เหมือนมาเยี่ยมบ้านญาติต่างจังหวัดเลยล่ะ
ลงมาทานมื้อค่ำที่ห้องอาหารของโรงแรม เค้ามีอาหารชุดจัดไว้ให้ น่าทานมากเลย
ป้ายหน้าทางเข้าออนเซ็น แขกที่ไม่ได้พักที่โรงแรมจะใช้บริการแบบเช้าไปเย็นกลับก็ได้ ค่าใช้บริการ 1,000 เยน ได้แช่ออนเซ็นสีน้ำนม ทำร่างกายให้อบอุ่น นอนกลิ้งในห้องเสื่อทาทามิกว้างๆ คืนนี้ช่างเป็นคืนที่เหมือนฝันเลย…
ตื่นเช้าขึ้นมาอย่างสดใส เปิดหน้าต่างออกมา ถึงกับผงะ เพราะเจอวิวแบบนี้!!!
ออนเซ็นที่มีควันพวยพุ่งออกมา มันช่างอลังการมาก เป็นภาพที่ทำให้ทึ่งกับพลังของธรรมชาติได้อย่างแท้จริง
ลงมาทานอาหารเช้า จัดเต็มเพิ่มพลังให้เต็มที่แต่เช้า ครบห้าหมู่แน่นอน
ด้วยความที่เป็นโรงแรมเก่าแก่มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่าร้อยปี ตึกก็ยังคงสภาพเดิมเอาไว้ เราจึงลองถามผู้จัดการโรงแรมถึงตอนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนั้นจ.นางาซากิได้รับผลกระทบจากระเบิดปรมณู แล้วที่อุนเซนนี้ล่ะ ปลอดภัยดีมั้ย
คุณผู้จัดการบอกว่า “ปลอดภัยดีครับ ไม่โดนอะไรเลย สงครามน่ะ มันต้องใช้งบประมาณ จะปล่อยระเบิดลงที่ไหน เค้าก็ต้องวางแผนมาก่อน เค้าไปลงในตัวเมืองโน่น ไม่มาโจมตีบ้านนอก ไม่มีสถานที่สำคัญแบบนี้หรอก”
เออ ก็จริงของเค้า ดังนั้นอุ่นใจได้นะคะ สำหรับคนขวัญอ่อน
ผู้จัดการพาเดินชมโซนตึกเก่าของโรงแรม ที่พื้นที่เห็นเป็นไม้นั่นน่ะ คือไม้ใหญ่ที่มีอายุยาวนานมาก ดูได้จากวงปี
นี่เป็นบ่อในโซนไปรเวท ดูจากสีของน้ำสิ ยังกะบ่อน้ำนม แช่แล้วมันจะลื่นๆผิวด้วยนะ
ซึ่งทางโรมแรมมีแผนที่จะรีโนเวทโซนห้องพักพร้อมออนเซ็นส่วนตัวในปีหน้านี้ ดังนั้นใครที่อยากไปสัมผัสห้องพักส่วนตัวพร้อมออนเซ็น ที่ยังคงแบบเดิมเหมือนเมื่อร้อยปีก่อน ก็รีบไปนะคะ (ห้องที่เราพัก เป็นโซนตึกออนเซ็นรวมค่ะ ยังคงเดิมไว้อยู่) ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมของโรงแรมได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.unzenfukiya.com/th-th/ เว็บเค้ามีภาษาไทยด้วยนะจ๊ะ
ถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองออนเซ็นที่เราประทับใจระดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยล่ะ คนที่เบื่อความพลุกพล่าน วุ่นวายของเมืองใหญ่ ไม่อยากช้อปปิ้งเสียเงิน (เบื่อช้อปแล้ว) แต่อยากพักผ่อน ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และซึมซับธรรมชาติ ที่นี่ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีเลยนะคะ
สำหรับการเดินทางเมืองออนเซ็น “อุนเซ็น” แห่งนี้ ถ้าไม่สะดวกขับรถยนตร์มาเอง จะนั่งรถบัสมาก็ได้ค่ะ โดยขึ้นรถไฟ JR สายนางาซากิฮองเซน มาลงที่สถานีอาซาฮายะ จากนั้นต่อรถบัสชิมาเทตซึ มาลงที่ป้ายเมืองอุนเซ็น ใช้เวลาประมาณ 80 นาที ถ้าอยู่ที่ตัวเมืองนางาซากิแล้ว ลองเปิดกูเกิ้ลแมพ ใส่คำว่า 雲仙 ดูก็ได้ค่ะ
หมวยน้อยข้างๆเราคือ “อัพจัง” เป็นนักศึกษาป.เอกที่ม.นางาซากิ เพื่อนร่วมทริปของเรา หลังจากออกจากอุนเซ็นออนเซ็นแล้ว เราจะไปที่ไหนกันต่อ รอติดตามในบล็อกคราวหน้านะจ๊ะ
facebook : Reiko.ws
instagram, twitter @reiko_ws
youtube : Reiko_ws เรโกะ
และบล็อกนี้ http://www.ReikoBangkokNeko.com
Contact for Work / ติดต่องานต่างๆ ทั้งงานเขียนคอลัมน์, รีวิว, ถ่ายแบบ, สัมภาษณ์, พิธีกร, งานแสดง, ล่าม, นักแปล / 仕事依頼はこちら : คุณกอล์ฟ 081-843-7109 (Thai language) และ reiko.ws@gmailcom (Japanese OK)
*รูปภาพและเรื่องทั้งหมด ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ห้ามนำไปคัดลอก ดัดแปลง ก๊อปปี้ ไปลงซ้ำ โดยไม่ได้ขออนุญาติก่อน มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย*
ของกินในตู้ช่างยั่วยวนนัก