กลับมาเที่ยวนางาซากิกันต่อนะคะ หลังจากที่เราได้ไป Nagasaki Diary #01 ยกพลขึ้นบกที่เกาะร้างฮาชิม่า (軍艦島) ทานเมนูเด็ด “จัมปง” ที่ไชน่าทาวน์ และ Nagasaki #02 ใส่กิโมโนลายโมเดิร์น เดินเล่นเดะจิม่า จ.นางาซากิ 長崎で着物体験 กันมาแล้ว มื้อค่ำวันนี้ เราได้ทานเนื้อวัวนางาซากิ อันแสนเลื่องชื่อ ที่ร้านเนื้อย่าง Nagasaki Wagyu Pure http://www.yakiniku-pure.com/ เนื้อย่างนุ่มๆหอมๆ อร่อยสมคำเลื่องลือจริงๆค่ะ
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายร้านที่ได้รับการรับรองว่าใช้เนื้อวัวนางาซากิแท้ ดูที่ลิ้งค์นี้ได้เลยจ้ะ http://www.nagasakiwagyu.com/shop/nagasaki.php
เหมือนเราเที่ยวมาเยอะ แต่จริงๆนี่เพิ่งวันแรกเองนะ เราเข้าที่พักคืนแรก ที่โรงแรมอินาสะยาม่าคังโค 稲佐山観光ホテル เป็นโรงแรมสไตล์เรียวกัง ตั้งอยู่บนเนินเขา มองลงไปเห็นวิวเมืองนางาซากิ ได้สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน แน่นอนว่ามีออนเซ็นด้วย แช่น้ำแร่ร้อนๆ นอนหลับสบายยย
*ถ้าใครสนใจที่พัก โรงแรมอินาสะยาม่าคังโค ก็สามารถเช็คราคาและจองที่พักกั
https://www.traveloka.com/th-
ปกติแล้วเราไม่ค่อยถนัดตื่นเช้าซักเท่าไหร่ แต่พอมาพักที่โรงแรมวิวสวยๆแบบนี้ มันมีแรงให้ตื่นลงมาทานอาหารเช้า ดูวิวสวยๆให้คุ้ม อิอิ แน่นอนอาหารก็อร่อยด้วยล่ะ
Inasayama Kankou Hotel http://www.inasayama.co.jp/
สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่เราแวะ คือ “ซากปราสาทฮารา” 原城跡 มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินเรื่อง ขอขึ้นเป็นมรดกโลกด้วยนะ อาจจะดูเงียบๆวังเวงหน่อย เพราะเคยมีเรื่องเศร้าเกิดขึ้นที่นี่
สมัยที่การนับถือศาสนาคริสต์ ยังไม่เป็นที่เปิดกว้างในญี่ปุ่น ประชาชนที่นับถือคริสต์ถูกกวาดล้างโดยรัฐบาล ทำให้ต้องหาที่หลบซ่อน และมาจนมุมที่นี่ สุดท้ายเสียชีวิตทั้งหมด
ที่น่าเศร้าคือ ผู้นำกลุ่มชาวบ้านที่นับถือคริสต์ในตอนนั้น คือ อามาคุสะ จิโร่ 天草四郎 มีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นเด็กวัยรุ่นที่มีความกล้าหาญและมีความเป็นผู้นำมากเลยนะคะ น่าเสียดายที่เกิดผิดยุคไปหน่อย ถ้าเค้าเกิดในยุคนี้ที่สังคมเปิดกว้าง คงไม่ต้องเจอกับจุดจบน่าเศร้าแบบนี้
ว่ากันว่า… ด้วยความที่มีหลายชีวิตต้องมาจบลงที่นี่ ทำให้มีเรื่องลี้ลับเล่าต่อๆกันมามากมาย เราเองก็ไม่มีเซ้นส์ด้านนี้ แต่ก็ไม่ลบหลู่สิ่งที่ไม่เห็นละกัน ถ้าใครสนใจประวัติศาสตร์และสิ่งลี้ลับก็ลองหาโอกาสมากันนะคะ http://kyoukaigun.jp/visit/detail.php?id=13
ระหว่างทาง มีร้านขายมะเขือเทศสดๆจากฟาร์ม ชื่อว่า อะริมะโทะ Arimato มีมะเขือเทศสดๆน่าทาน หลายไซส์ให้เลือกซื้อในราคาจากเกษตรกร ได้ลองชิมสดๆแล้วกรอบอร่อยมากเลยยยย
https://www.facebook.com/%E6%A0%AA%E5%BC%8F%E4%BC%9A%E7%A4%BEarimato-607100436086696/
หลังจากนั้นเรานั่งรถออกมามุ่งหน้าไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าไปทางเมืองอุนเซ็น จากนั้นแวะพักที่จุดชมวิว Chijiwa tenboudai 千々石展望台 http://www.unzen-amakusa.jp/spots/detail/1785 สามารถมองเห็นวิวทะเลได้สวยงามตลอดทั้งปี ซึ่งที่นี่ยังมีร้านขายของฝากที่มีเมนูของว่างขึ้นชื่อ อย่าง “จะกะจัง” じゃがちゃん ด้วย
จะกะจัง เป็นก้อนมันฝรั่งบด ปั้นเป็นก้อน แล้วชุดแป้งทอด ทานร้อนๆท่ามกลางอากาศหนาวๆกรอบอร่อยแถมยังทำให้ร่างกายอบอุ่นด้วยล่ะ หาทานได้เฉพาะที่แถบนี่เท่านั้นนะ (ไม้ละ 200 เยน) มีเพลงจะกะจังๆๆๆเปิดดังสนั่นเรียกแขกด้วย เพลงยังวนอยู่ในหัวเลย 555
มื้อเที่ยง เราแวะทานกันที่ ร้านสุคาว่าโซเม็ง 須川そうめん เป็นเมนูโซเมง สไตล์ของที่นี่ เส้นจะเล็กเหนียวนุ่ม คล้ายเส้นหมี่
ปกติแล้วเรามักจะเห็นคนญี่ปุ่นทานโซเมงกับซึยุแบบเย็น แต่ที่นี่เค้ามีเมนูโซเม็งแบบร้อนด้วย เส้นอร่อยลื่นคอ ซุปกลมกล่อม ถูกปากคนไทยนะเราว่า
ในร้านตกแต่งด้วยไม้สบายๆ ให้อารมณ์เหมือนมาบ้านต่างจังหวัด ทานอาหารรสมือคุณแม่ และที่เก๋คือ ม่านบางๆ ที่แขวนในร้านดูเผินๆ เหมือนจะเป็นเชือกยาวลงมา
แต่จริงๆ แล้วคุณป้าเจ้าของร้าน เอาเส้นโซเมงแบบที่ยังไม่ได้ลวกมาแขวนตกแต่ง ไอเดียดีจริงๆ
เรานั่งรถเลียบริมทะเลมาเรื่อยๆ จนถึงโอบาม่าออนเซ็น ในเมืองอุนเซ็น ด้วยความที่ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่น 小浜 Obama ดันไปพ้องกับชื่อของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ คุณบารัค โอบาม่า ชาวเมืองที่นี่เค้าอารมณ์ดี๊ดี เลยเอารูปท่านโอบาม่ามาล้อเลียนพิมพ์ลงผ้าขนหนู แถมยังมีรูปปั้นตั้งไว้ให้ถ่ายรูปกันอีกด้วย… ว่าแต่เจ้าตัวท่านจะรู้มั้ยนะ ว่าโดนให้เป็นโลโก้ออนเซ็นไปแล้ว 555
ที่นี่เค้ามีออนเซ็นสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปลงแช่เท้าได้ฟรีด้วยล่ะ ตั้งอยู่ริมทะเล แช่เท้าน้ำอุ่นๆ ไป มองวิวทะเลไป สุดยอดของความผ่อนคลายเลย ส่วนในรูปเป็นออนเซ็นแบบเปิดโล่ง สามารถมองวิวทะเลฟังเสียงคลื่นได้ด้วย ค่าใช้บริการเพียง 300 เยนเท่านั้น เสียดายเวลาไม่พอ ไม่งั้นเราไม่พลาดแน่ๆ
รับกลิ่นกำมะถันจากน้ำแร่ออนเซ็นซะหน่อย สดชื่นนนนน
รางน้ำแร่สำหรับแช่เท้า ตรงโซนนี้เค้าเปิดให้แช่ได้ฟรีเลยล่ะ
และยังมีมุมทำไข่ออนเซ็น สามารถซื้อไข่ไก่สด มาใส่อุปกรณ์ที่เค้าเตรียมไว้ให้ ใส่ในบ่อต้ม แล้วแกะทานกับเกลือได้เลย ถูกใจคนที่ชอบอาหารเมนูไข่แบบเรามากเลยล่ะ ราคาค่าใช้บริการอุปกรณ์ 200 เยนเท่านั้น (มีไข่ขายแยกต่างหาก)
นั่งแช่เท้าไปด้วย แล้วก็แกะไข่ออนเซ็นที่ทำเองทานไปด้วย เพลินเลยยยย
แหมมม มีแต่สถานที่น่าไปทั้งนั้น แค่เขียนก็อยากกลับไปอีกแล้วล่ะ หวังว่าพอจะเป็นไอเดียสำหรับทริปนางาซากิของทุกคนนะคะ บล็อกคราวหน้า เราจะไปชมพลังอันยิ่งใหญ่แห่งธรรมชาติ ของอุนเซ็นออนเซ็น เมืองออนเซ็นเก่าแก่ขึ้นชืื่อของจ.นางาซากิ รออ่านกันได้เลยค่าาา
*about me* ติดตามเรื่องสนุกๆจากญี่ปุ่นของเราได้ที่โซเชี่ยลทั้งหมดนี้เลยยยย
facebook : Reiko.ws
instagram, twitter, youtube @reiko_ws
http://www.ReikoBangkokNeko.com
ติดต่องาน คุณกอล์ฟ 081-843-7109
Contact for work 仕事の依頼は reiko.ws@gmail.com
*รูปภาพและเรื่องทั้งหมด ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ห้ามนำไปคัดลอก ดัดแปลง ก๊อปปี้ ไปลงซ้ำ โดยไม่ได้ขออนุญาติก่อน มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย*
2 thoughts on “Nagasaki Diary #03 มินามิชิมาบาระ แช่ออนเซ็นโอบาม่า ตามล่าของอร่อย 長崎県南島原・小浜”